เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 20 ก.ค.63 จากกรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ goragodjantar โพสต์ข้อความระบุว่า “บ้านหลังเก่าหลังคารั่ว ลูกค้าเลยซ่อมบ้าน เพื่อนบ้านไม่พอใจ จอดรถเลยไปหน้าบ้าน วิ่งเข้าบ้านไปเอามีดจะไล่เเทง“ โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.วัดชลอ อ.บางกรวย จ.นนทบุรี
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่หมู่บ้านดังกล่าว พบนายอนิรุทธ์ จันทา อายุ 30 ปี ผู้เสียหายอาชีพผู้รับเหมาก่อสร้าง ชาว จ.นครปฐม โดยที่เกิดเหตุเป็นบ้าน 2 ชั้น กำลังอยู่ในระหว่างปรับปรุงซ่อมแซม
จากการสอบถามนายอนิรุทธ์ กล่าวว่า ตนมีอาชีพรับเหมาต่อเติมและปรับปรุงบ้านให้กับลูกค้า โดยเริ่มทำงานที่บ้านหลังดังกล่าวตั้งเเต่วันศุกร์ที่ 10 ก.ค.63 ที่ผ่านมา มีกำหนดเเล้วเสร็จวันที่ 24 ก.ค.63 วันเกิดเหตุตนกำลังทำงานอยู่บนชั้น 2 ได้ยินเสียงเเฟนตะโกนเรียกให้ลงมาขยับรถ เพราะจอดเลยไปล้ำเขตหน้าบ้านของเพื่อนบ้าน หลังจากที่ตนลงมาก็ได้ยินเสียงเพื่อนบ้านโวยวายด่าทอและให้ของลับตลอดเวลา
จากนั้นเพื่อนบ้านคนดังกล่าวได้เข้าไปหยิบมีดดาบในบ้าน ความยาวประมาณ 50 ซม. ซึ่งตนก็ไม่ได้ด่าหรือทำอะไรเลย แต่ที่สงสัยคือทำไมเพื่อนบ้านถึงได้เกรี้ยวกราด และจะตรงเข้ามาทำร้ายตนขนาดนั้น ทั้งที่ไม่เคยมีปัญหาและไม่เคยรู้จักกันมาก่อนด้วยซ้ำ วันนั้นตนก็กลัวว่าจะถูกทำร้าย ลูกเมียเเละลูกน้องตนเหมือนกัน หลังจากเกิดเรื่องตนได้เดินทางเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางกรวย เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ถ้าฝั่งคู่กรณีจะเข้ามาคุยหรือเข้ามาเคลียร์ตนก็พร้อม แต่ขออย่างเดียวอย่านำมีดมาด้วย เพราะตนเป็นคนทำมาหากินไม่ใช่นักเลง
ด้านนางอริสา ภาระก้านตรง อายุ 55 ปี เเม่ของผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า คนในคลิปคือลูกชายของตนชื่อนายธวัช อายุ 35 ปี ประกอบอาชีพค้าขาย วันเกิดเหตุตนไม่อยู่บ้านกลับบ้านเกือบ 21.00 น. มารู้เรื่องอีกมีก็ตอนเช้า จึงสอบถามลูกสะไภ้ได้ความว่ารถของช่างที่มาทำข้างบ้าน จอดเลยมาที่หน้าบ้านของตน ซึ่งตอนนั้นลูกชายกำลังจะนำรถมาจอดหน้าบ้าน
จากนั้นช่างก็เบิ้ลรถใส่ลูกชายตนและก็มีปากเสียงกัน ในส่วนของเรื่องมีดที่ถือไปนั้น เป็นเพราะว่าลูกชายเห็นว่าช่างตัวใหญ่กว่า จึงเอามีดไปป้องกันตัวเท่านั้น และลูกชายก็ไม่ได้ทำร้ายอะไรใคร อีกอย่างลูกชายก็ไม่ได้เป็นคนหัวร้อนแต่เป็นเพราะเค้าเบิ้ลรถใส่และมองหน้าลูกชายเหมือนจะมีเรื่อง ลูกสะไภ้เล่าให้ฟังเพียงเท่านี้ โดยปกติลูกชายเป็นคนเงียบ ๆ ไม่ค่อยวุ่นวายกับใคร วันหนุดก็อยู่แต่บนบ้าน ไม่ออกไปไหน จะออกไปนอกบ้านก็ตอนไปทำงานเท่านั้นเหตุการณ์ครั้งนี้คงเป็นเพราะต่างฝ่ายต่างใจร้อนเท่านั้น ตนเชื่อว่าลูกชายคงไม่ไปฆ่าหรือไปทำร้ายใคร เพราะมีเมียมีลูกมีครอบครัวที่ต้องดูแล
อย่างไรก็ตามเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังรวบรวมพยานหลักฐาน และจะเรียกผู้ก่อเหตุมาสอบปากคำหากเข้าข่ายความผิดใดจะดำเนินคดีตามกฎหมายทันที ยืนยันจะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย