แม่โจ๋แก๊งมหาวงษ์ถูกแทงดับ แฉก๊วนบุก รพ.พาไปตาย เมียโต้เป็นหัวโจกชกหมอ เศร้าลูกกำพร้า (คลิป)

20 ก.ค. 63

จากกรณีเหตุความวุ่นวายภายในห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาล 2 แห่งที่อยู่ใกล้เคียงกัน ระหว่างแก๊งมหาวงษ์ กลุ่มคนตาย และแก๊งโรงเหล็ก โดยสถานที่แรกเป็นห้องฉุกเฉินภายในโรงพยาบาลวิภารามชัยปราการ กลุ่มวัยรุ่นหลาย 10 คน บุกเข้าไปทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่หมอและพยาบาล จากนั้น วัยรุ่นกลุ่มเดียวกันได้ยกพวกไปที่โรงพยาบาลเมืองสมุทรปู่เจ้า เข้าไปภายในห้องฉุกเฉินท่ามกลางสายตาของผู้มาใช้บริการ ขณะที่แพทย์กำลังทำการรักษาผู้บาดเจ็บซึ่งเป็นกลุ่มคู่กรณี โดยมีการใช้สิ่งของที่หยิบจับได้ใกล้ตัว ทั้งเก้าอี้และอื่น ๆ ไล่ตี และปาใส่กัน

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง 11 โจ๋ชกหมอ
- สธ.เตือน! กรณี 11 โจ๋ ตีกันในโรงพยาบาล-ห้องฉุกเฉิน จำคุกไม่รอลงอาญา
- อัยการสูงสุดจ่อขอศาลลงโทษสถานหนัก 11 โจ๋ทำร้ายร่างกายแพทย์หญิง-ทะเลาะวิวาทใน รพ.
- รวบแล้ว! 11 โจ๋ทำร้ายร่างกายแพทย์หญิง-ทะเลาะวิวาทใน รพ.
- แค่ขอโทษยังไม่พอ! เจ้าหน้าที่แฉแก๊งมหาวงษ์สุดพาล เพื่อนถูกอริแทงตาย บุก รพ.ตีหมอหญิง (คลิป)
- รุ่นพี่แก๊งบุกโรงพยาบาลขอโทษ แต่ยังคาใจทำไมหมอรักษาช้า
- ย้อนคดีดับซ่า 8 โจ๋ยกพวกตีใน รพ.อ่างทอง ศาลฯ สั่ง "จำคุก" ไม่รอลงอาญา
- โฉมหน้า "โจ๋สำโรง" ชกหมอ-พยาบาล กลางห้องฉุกเฉิน
- รุมตื้บหมอ-พยาบาล กลางห้องฉุกเฉิน ไม่พอใจรักษาช้าทำเพื่อนดับ

921788234834

ล่าสุดวันที่ 20 ก.ค.63 ทีมข่าวเดินทางไปที่วัดมหาวงษ์ จ.สมุทรปราการ ที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพนายรัชต์พงษ์ วาสนา หรือ คิว อายุ 22 ปี ผู้เสียชีวิต

652109

นางสนธยา วาสนา อายุ 49 ปี แม่นายคิว กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุทราบว่าลูกชายนั่งเล่นอยู่บ้านเพื่อนบริเวณซอยมหาวงษ์ ระหว่างนั้นเพื่อนของเพื่อนมาขอความช่วยเหลือบอกว่ามีเรื่อง ลูกชายจึงตามไปด้วยโดยที่ไม่ได้รู้จักหรือเกี่ยวข้องกับคนที่มาตาม จนกระทั่งเกิดเหตุลูกถูกแทงที่หน้าอกข้างขวาเพียงจุดเดียว แต่เลือดคั่งในปอดจนเสียชีวิต ช่วงที่ลูกถูกส่งตัวมายังโรงพยาบาล ตนเข้าไปอยู่กับลูกในห้องฉุกเฉิน หมอกำลังช่วยปั๊มหัวใจให้ ช่วงแรกหมอปั๊มหัวใจ 30 นาทีแล้ว บอกว่าช่วยเต็มที่แล้วแต่ลูกชายตนไม่มีชีพจร แต่ตนขอร้องให้ปั๊มต่อ และอยู่กับลูกชายตลอด

943681

กระทั่งช่วงเกิดเหตุ กลุ่มวัยรุ่นเพื่อนลูกชายบุกเข้าไปในห้องฉุกเฉิน พร้อมโวยวาย และเข้ามาชุลมุนชกต่อยหมอและเจ้าหน้าที่ จนตนต้องช่วยกันกันออกไปห้าม ไม่ให้เข้ามาก่อเหตุ ส่วนตัวรู้สึกผิดและได้ยกมือไหว้ขอโทษพร้อมสามี เพราะเข้าใจการทำงานของเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล

719484

ส่วนเพื่อนลูกชายที่บุกเข้าไปในห้องฉุกเฉินนั้น ตนไม่รู้จัก เพราะลูกชายเป็นคนมีเพื่อนเยอะ ทั้งนี้ ลูกชายเพิ่งจะเรียนจบปริญญาตรี และตั้งใจทำงาน ไม่เคยมีเรื่องกับใคร กรณีที่ลูกถูกเหมารวมว่าอยู่ในแก๊งมหาวงษ์นั้น ตนคิดว่าไม่เกี่ยว ลูกชายตนสนิทกับกลุ่มเพื่อน ซึ่งเป็นเพื่อนละแวกบ้าน และเคยเรียนโรงเรียนเดียวกันเท่านั้น ช่วงเกิดเหตุที่ลูกชายตนตามไป ก็ไม่ได้มีอาวุธ เพียงแค่ต้องการไปช่วยเคลียร์ คิดว่าอาจจะคุยกันได้

744025

น.ส.เก๋ (นามสมมติ) ภรรยาของผู้เสียชีวิต เล่าว่า ปกติสามีตนทำงานขายผัก และปล่อยพระเครื่อง โดยก่อนเกิดเหตุแฟนตนไปคุยกับเพื่อนสนิทที่บ้านพักย่านมหาวงษ์ เพื่อพูดคุยกันเรื่องพระเครื่อง ระหว่างนั้นเพื่อนของเพื่อนเขามาตามให้ไปช่วย เพราะมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับอีกกลุ่ม จนเวลาประมาณ 18.00 น. มีเพื่อนโทรศัพท์มาบอกว่าสามีโดนแทง เมื่อไปถึงโรงพยาบาลก็ได้เข้าไปในห้องฉุกเฉิน พบว่าสามีตัวซีดแล้ว ซึ่งก็ตรงกับที่แพทย์บอกว่าสามีชีพจรหยุดเต้นไป 30 นาที แต่ทางครอบครัวก็อยากให้ปั๊มหัวใจต่อ ซึ่งแพทย์ก็พยายามยื้อนานนับ 2 ชั่วโมง แต่ไม่สามารถช่วยชีวิตไว้ได้

ส่วนที่กลุ่มเพื่อนโกรธ น่าจะคิดว่าสามีตนมาโรงพยาบาลนานแล้ว แต่ไม่เห็นหมอจึงโวยวายและก่อเหตุดังกล่าว ทั้งนี้ ตนกับสามีมีลูกด้วยกันอายุ 2 ขวบ ก่อนหน้านี้สามีพูดกับตนว่า หลังเรียนจบจะย้ายออกมาสร้างครอบครัวด้วยกัน 3 คน พ่อแม่ลูก โดยเพิ่งย้ายออกมาอยู่ด้วยกัน 3 เดือนก็เกิดเหตุ นอกจากนี้ สามีตนก็ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด

498005

ล่าสุด พ.ต.ท.สุเมธ สาลี สารวัตรสืบสวน สภ.สำโรงใต้ นำกำลังไปจับกุมผู้ต้องหาที่บ้านพักภายในซอยวัดมหาวงษ์ ต.สำโรง อ.พระประดง จ.สมุทรปราการ ผู้ต้องหาทั้งหมด 11 ราย ทั้งชายหญิง

374076

ซึ่งแก๊งมหาวงษ์คนที่ก่อเหตุที่โรงพยาบาลวิภารามฯ มีทั้งหมด 5 ราย คือนายนิพล วันชม, นายภานุวัฒน์ แย้มสุข, นายประทีป สุดสะอาด, นายวิโรจน์ จิตรักษ์ และ น.ส.สุรางคณา นพสกุลนา

124229

และผู้ที่ไปก่อเหตุที่โรงพยาบาลเมืองสมุทรปู่เจ้า มีทั้งหมด 11 ราย นายนิพล วันชม, นายภานุวัฒน์ แย้มสุข, นายประทีป สุดสะอาด, นายวิโรจน์ จิตรักษ์, นายอนิรุตน์ นิ่มเสือ, นายธรรมรัตน์ สุวรรณสิทธิ์, นายนาวี พรมจรินทร์, นายนทีธร วรวาทิน. น.ส.ณัฐฯพัศชา นิพัทธ์ธมล, น.ส.บัญชลี ฤทธิรงค์ และ น.ส.สุรางคณา นพสกุลนา

882653

โดยมีผู้ต้องหารายสำคัญที่ปรากฎในคลิปวงจรปิดภายในห้องฉุกเฉินทั้ง 2 โรงพยาบาล ประกอบด้วย นายภาณุวัฒน์ สุขแย้ม ผู้ต้องหาที่ลงมือชกต่อยแพทย์หญิงและบุรุษพยาบาล, นายนิพล วันชม อายุ 23 ปี ก่อเหตุชกต่อยแพทย์หญิง ส่วนที่เหลือตกเป็นผู้ร่วมก่อเหตุ

503119

ด้านนายนที ธรวรวทิน หรือ ตูน อายุ 27 ปี รุ่นพี่ของกลุ่มผู้ตาย เปิดใจว่า สาเหตุที่เพื่อนของตนไปต่อยเพื่อนของคนเจ็บ ตนมองว่า เพื่อนของตนคงจะไม่ทราบว่าผู้ตายอยู่โรงพยาบาลไหน แล้วอาจจะไปผิดโรงพยาบาล ก่อนจะเกิดการชุลมุนกันขึ้น กระทั่งตนเข้าไปห้าม และบอกให้กลับ รุ่นน้องทุกคนก็เชื่อฟัง ซึ่งผู้ตายเป็นเด็กที่ดีมาก พูดจาไพเราะ ชอบช่วยเหลือทุกคน ทำให้มีแต่คนรัก พอทราบเรื่อง คนทั้งตลาดก็เข้ามาหา อีกทั้งผู้ตายยังเป็นคนขยัน ประกอบอาชีพขายผัก และเรียนจบปริญญาตรี เร็ว ๆ นี้กำลังจะไปรับปริญญา แต่มาตายเสียก่อน

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รุ่นน้องทุกคนสำนึกผิด ส่วนเรื่องที่สังคมโจมตี ตนอยากจะให้ใจเย็น ๆ เพราะฝั่งของตนได้เสียรุ่นน้องไป และรู้สึกเสียใจมากเช่นกัน โดยเหตุการณ์ครั้งนี้เป็นบทเรียนสำคัญ และตนยอมรับว่าฝั่งของตนผิดเต็ม ๆ เพราะรุ่นน้องของตนอารมณ์ร้อนเกินไป ด้วยเหตุนี้จึงอยากจะกล่าวขอโทษแทนทุกคน ที่ทำไปเพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ และเพิ่งจะเสียรุ่นน้องไป จึงเกิดบันดาลโทสะ

ทั้งนี้ ตนไม่ทราบสาเหตุของเรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่ตนยืนยันว่า ฝั่งของตนไม่มีเรื่องยาเสพติด และผู้ตายไม่เคยเข้าไปข้องเกี่ยว หลังจากนี้ตนน้อมรับทุกข้อกล่าวหา แต่ค่าเสียหาย ตนอยากจะให้ชดใช้ร่วมกัน อีกทั้งฝั่งของตนไม่เคยมีปัญหากับกลุ่มของคนเจ็บมาก่อน และไม่รู้จักกับคนแทง อีกทั้งยืนยันว่าไม่มีการตั้งแก๊ง แต่เรียกชื่อตามชื่อซอยที่อยู่อาศัยกัน

581239

โดยเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหากลุ่มวัยรุ่น ร่วมกันบุกรุกสถานพยาบาลในยามวิกาล, ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ และร่วมกันทำร้ายร่างกาย

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส