เผยความลับ "ครูพลาม" สุดยอดหน่วยซีล ผู้เคยทำงานลับให้รัฐ ลั่นวิ่งทำสถิติให้ทหารใต้ (คลิป)

9 ม.ค. 61
จากกรณีการวิ่งบันทึก "สถิติไทย"ของ "ตูน บอดี้สแลม"55 วัน นำเงินสมทบทุนมอบให้กับโรงพยาบาลทั่วประเทศ นำมาสู่การโพสต์วลี "อย่าเป็นพระเอกคนเดียว"ของ "ครูพลาม" จนเกิดกระแสสังคมโจมตี และต่อมากำลังจะวิ่งเพื่อหาเงินช่วยตำรวจและทหารชายแดนภาคใต้
"พลาม พรหมจำปา"ออกรายการ "ต่างคน ต่างคิด"
วันนี้ (8 ม.ค.61) “รายการต่างคนต่างคิด” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ อมรินทร์ทีวี ช่อง 34 ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 18.45 น.ได้เชิญ นายพลาม พรมจำปา หรือ “ครูพลาม” ผู้อำนวยการสถาบันมัชฌิมาการต่อสู้ และอดีตครูฝึกหน่วยรบพิเศษ มาคุยในรายการ พร้อมกับ “นายอิทธิพล สมุทรทอง” ทีมงานวิ่ง ก้าวคนละก้าว ในหัวข้อ “พลาม” พล่ามเรื่อง “พี่ตูน”เพื่อ..? นายพลาม พรมจำปา หรือ "ครูพลาม" กล่าวว่า รู้สึกเฉยๆ กับกระแสโจมตีในสังคม ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคำพูดในทางลบ เคยคิดอยู่แล้วว่าจะมีผลกระทบบ้าง ไม่คิดว่าจะมากมายมหาศาลขนาดนี้ กับข้อความ"อย่ามาเป็นพระเอกคนเดียว สังคมอยากจะรู้ มีอะไรในใจ มีโอกาสออกตัวแบบพระเอกได้ อย่าชี้นำสังคม อย่ามองคนอื่นเป็นตัวร้ายเลย" เพราะก่อนหน้านี้เคยมีคนอื่นวิ่งมาแล้ว "คุณตูน" ไม่ใช่คนแรก
นักวิ่งสาย "เบตง-แม่สาย"รุ่นแรก
"ครูพลาม" กล่าวถึงสาเหตุที่โพสต์นี้ว่า ตนเคยวิ่งเส้นทางนี้ 2 ครั้ง แต่ไม่เคยเป็นข่าว มาเป็นข่าวตอนที่ "คุณตูน" วิ่งแล้วบาดเจ็บ นักข่าวก็มาหาว่ามีใครเคยวิ่งเส้นทางนี้บ้าง ก็มาพบว่าตนเคยวิ่งเมื่อปี 2548 ในโครงการวิ่งเพื่อสันติภาพภาคใต้ จากแม่สาย ถึงเบตง เป็นเวลา 42 วััน และในปี 2558 ก็วิ่งอีก 52 วัน ย้อนกลับจากเบตงไปเหนือ แวะศิริราช ผ่าน จ.หนองคาย แล้วไปแม่สาย จากนั้นสื่อก็ดึงไปออกรายการ ซึ่ง "ครูพลาม" บอกว่า รู้สึกชื่นชม"คุณตูน"ที่วิ่งทับเส้นทางเดิมที่เคยวิ่ง เคยไปวิ่งรอที่ อ.หัวหิน แต่ไม่เจอ วันสุดท้ายตนได้ไปเพื่อแสดงความยินดี อยากจับมือแค่นั้นที่แม่สาย รอนาน 3 ชม. จนกระทั่งทีมวิ่งผ่านมา ก็วิ่งตามห่างๆ  ในช่วง 8 กม.ก่อนถึงที่พัก เมื่อ "คุณตูน" วิ่งผ่านมาถึงสะพานลอยเห็นเด็กเล่นดนตรีกันอยู่ก็หยุดวิ่ง ซึ่งผมก็วิ่งเหยาะๆ ตามอยู่ห่างๆ ออกไป 10 เมตร กะว่าจะแสดงความยินดีจับมือด้วย  เจอกับดาราพิธีกรกำลังทักทายกัน จู่ๆ ก็มีน้องทีมงาน เข้ามาสะกิดสีข้าง บอกว่า “ครูครับๆ ขออนุญาตครับ ครูอยู่ตรงนี้ไม่ได้ครับ เป็นที่ของทีมงานก้าวคนละก้าว ครูต้องอยู่ด้านหลังโน่น อีกประมาณ 300 ม.” ผมก็บอกว่าตามสบายเลยครับ
วิ่งโดยใส่คอมแบตล่ามโซ่ขา น้ำหนักรวม 7 กก.
ส่วนที่บอกว่า "อย่าเป็นพระเอกคนเดียว" เกิดจากมีคนเข้ามาโพสต์ด่าแรงๆ ก่อน ตนจึงตอกกลับไปว่า "ความจริงก็คือ ความจริง บนถนนเส้นนี้มีคนวิ่งมาแล้ว 2 คน คนแรก อ.ไชยวัฒน์ วรเชษวราวัตร วิ่งตั้งแต่ปี 2529 กับตนเอง และได้ออกรายการคู่กัน มีคนแอดเฟซบุ๊กมาด่าตน ก็กดรับเป็นเพื่อนไม่เคยบล็อค ซึ่งในวันที่ 13 เม.ย.นี้ จะวิ่งช่วย ตร.-ทหาร 3 จว.ชายแดนใต้ โดยจะสวมคอมแบตใส่โซ่หนัก 5 กิโลครึ่งวิ่ง บันทึกสถิติกินเนสบุ๊ก ท่ามกลางอากาศร้อน แดดเปรี้ยง
ทีมงาน"ก้าวคนละก้าว"แจงกรณีล็อกตัว"ลุงพลาม"
ขณะที่ นายอิทธิพล สมุทรทอง หรือ "ป๊อก" ทีมงานก้าวคนละก้าว ได้ให้สัมภาษณ์กรณีกีดกัน "ครูพลาม" ไม่ให้เข้าใกล้ "ตูน" ว่า สาเหตุที่เป็นเช่นนั้น เพราะในการวิ่งครั้งนี้ทีมงานไม่ได้เรียนเชิญ หรืออนุญาตให้ใครเข้าร่วมทีมวิ่งด้วย ตั้งแต่เข้าเขต จ.นครศรีธรรมราช สังเกตได้ว่า เป็นทีมเล็กๆ ที่วิ่งกัน เนื่องจากมีปัญหาหลังจากที่บางท่านมาร่วมวิ่งด้วย แล้วเกิดปัญหาการจราจร และ "พี่ตูน" บอกว่าอย่าให้การวิ่งบนถนนไปรบกวนคนอื่น ทั้งนี้ระหว่างการวิ่งจะเห็นว่า "พี่ตูน" จะอยู่ซ้ายมือ ขวามือด้านหน้าจะเป็นผมเสมอ แต่ถ้า “พี่ก้อย”มาร่วมวิ่งด้วย จะมาแทนตำแหน่งผม ส่วนด้านหลังพี่ตูนจะเป็น “พี่เอส”วิ่งตาม ข้างๆ พี่ตูน เป็น "พี่ซู่" สปอร์นเซอร์เป็นคนดูแล เวลามีคนจะมาวิ่งด้วยพี่ตูนจะให้ไปวิ่งด้านหลัง เพื่อความปลอดภัย เพราะทีมงานจะมีสัญญลักษณ์ เช่น ยกหนึ่งนิ้วเป็น 1แถว, ยกสองนิ้วเป็น 2 แถว หากมีหลุมจะผายมือออกไปด้านหลัง เพื่อบอกคนที่วิ่งข้างหลัง อย่างตัวเอง “พี่ตูน” ยังบอกว่า อย่าไปกันคนที่เข้ามาหา เพราะแต่ละคนมารอนาน 5 ชม. 7 ชม. เพื่อรอ "พี่ตูน" วิ่งผ่านแค่ 10 วินาที หรือบางครั้ง เราพูดเสียงดังเพราะความเหนื่อย "พี่ตูน" ก็บอกว่าอย่าทำแบบนั้น ปล่อยให้เป็นธรรมชาติ เพราะบางครั้งเขาอาจมาเพื่อเจอพี่ตูนแค่ครั้งเดียวในชีวิต แม้แต่เจ้าของบริษัทใหญ่ที่บริจาคเงิน 14 ล้านบาท ยังถูกกันให้ไปวิ่งด้านหลัง เพื่อเป็นระเบียบเดียวกัน ส่วนประเด็นเรื่อง "สถิติบันทึกไทย"นั้น "บันทึกไทย"เป็นองค์กรเหมือนกับกินเนส แต่เป็นของคนไทย ทำการเก็บบันทึกสถิติต่างๆ ในประเทศไทย ซึ่งตัวเองก็เคยติดสถิติเบอร์วิ่งติดหน้าอกมากที่สุดในประเทศไทย โดย การวิ่งของ "พี่ตูน"นั้น “บันทึกไทย”ระบุว่า เป็นการวิ่งจาก เบตง-แม่สาย ที่ถูกบันทึกอย่างเป็นทางการ มีการบันทึกเป็นเทป วิดีโอ ผ่านสื่อต่างๆ เป็นหลักฐาน ส่วนที่เป็นข่าวว่า "คุณไชยวัฒน์" เคยวิ่งเส้นทางเดียวกับ "พี่ตูน" มาก่อนนั้น ก็เพิ่งทราบจากหน้า นสพ. ขณะกำลังวิ่งอยู่ ซึ่งการวิ่งของ "ครูพลาม" นั้น ไม่มีสถิติจดบันทึกไว้
"พลาม พรมจำปา"ผู้เชี่ยวชาญหลักสูตรรบพิเศษ(ซีล)
ในวันนี้ได้ทราบว่า "พี่พลาม" กำลังจะวิ่ง ส่วนตัวรู้จักพี่เขาดี เป็นคนเก่ง ในหลักสูตรรบพิเศษของไทยไม่มีใครเกิน ซึ่งพี่เขาก็วิ่งมานานแล้ว และเป็นคนจังหวัดเดียวกัน เคยทำสิ่งดีๆ ไว้ในวงการมาเยอะ วันนี้พี่เขาลุกขึ้นมาบอกว่าจะวิ่งเพื่อ ตำรวจ-ทหาร ชายแดนภาคใต้ ส่วนตัวรู้สึกดีใจ ไม่อิจฉา เพราะงานของก้าวคนละก้าวจบไปตั้งแต่ถึง อ.แม่สาย จ.เชียงราย แล้ว ซึ่ง “พี่ตูน”กล่าวเสมอๆ ว่า โครงการนี้ "ฮีโร่ไม่ใช่ตัวเอง แต่เป็น หมอ และพยาบาล ทั้งประเทศ พวกเราวิ่งกันมา 55 วัน ถึงตอนนี้จบไปแล้ว แต่คุณหมอและคุณพยาบาล ยังคงวิ่งต่อไปทั้งชีวิต เพื่อรักษาคนที่เรารัก" ซึ่งขณะกำลังให้สัมภาษณ์อยู่ "คุณอิทธิพล" บอกว่า ตนนี้ตัวเขาอยู่ที่ รพ.สุรินทร์ เนื่องจากคุณแม่แขนหัก แต่ไม่ได้พาคุณแม่ไป รพ.รวมแพทย์ เพราะอยากให้ทุกคนเชื่อมั่นในระบบสาธารณสุข จึงลงมือทำเป็นตัวอย่าง
หนังสือ 2 เล่ม ที่เขียนโดย"ครูพลาม"
สำหรับชีวิตของ"ครูพลาม"เคยทำงานลับให้กับทางราชการ มีหลายสิ่งที่ต้องเสี่ยงตาย เคยเขียนหนังสือ "หลักสูตรรบพิเศษ" หน่วยจู่โจมใต้น้ำ หรือ หน่วยซีล ซึ่ง "ครูพลาม" เป็นคนที่ฝึกหลักสูตรนี้ได้มากที่สุดเพียงคนเดียวในประเทศไทย และเขียนหนังสือ VIP Bodyguard ผู้คุ้มครอง ป้องภัย ตายแทน โดยมีประสบการณ์ เป็น BODYGUARD ให้กับผู้มีอำนาจทั้งในราชการและนักธุรกิจ ทำให้เขามีความรู้ทั้งภาคทฤษฎีวิชาการและภาคปฏิบัติ การวิ่งในวันที่ 13 เม.ย.ที่จะถึงนี้ ครูพลาม มีวัตถุประสงค์ต้องการช่วยเหลือตำรวจและทหารในหน่วยงานที่เคยทำงานด้านนี้มาก่อน

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ