จากกรณี สภ.เขาสมิง รับแจ้งเหตุเกิดที่แยกแสนตุ้ง ต.แสนตุ้ง อ.เขาสมิง จ.ตราด หนุ่มหึงโหดตามง้อภรรยาไม่สำเร็จชักปืนจ่อยิง ภรรยา และพี่น้องของภรรยา คาร้านขายหม่าล่า ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย และผู้เสียชีวิต 1 ราย ก่อนขับกระบะหลบหนีไป โดยผู้ก่อเหตุทราบชื่อคือ นายศักดา อินปิ่นปัก หรือ เป้า อายุ 33 ปี
โดยผู้เสียชีวิตคือ น.ส.แสงเดือน ศรีจตุรพร หรือ ขวัญตา อายุ 27 ปี ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 3 ราย คือ น.ส.แสงจันทร์ ศรีจตุรพร อายุ 31 ปี อดีตภรรยาของผู้ก่อเหตุ, น.ส.ณัฐกมล สุเมธวัน อายุ 15 ปี และนายสุทธิภัทร สมสิทา อายุ 19 ปี ทุกคนเป็นญาติกัน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ผัวโหดยิงน้องเมียตาย 1 เจ็บ 3 พ่อใจสลายไหว้ศพลูกทั้งป่วย พยานเผยตะโกนด่าก่อนลั่นไก
- แม่ค้าหม่าล่าหนีตายผัวเก่าง้อไม่สำเร็จกราดยิงญาติ-ลูกค้า น้องสาวรับเคราะห์ตายแทน
ล่าสุดวันที่ 23 ก.ค.63 นางสาวเก้า (นามสมมติ) อายุ 27 ปี ลูกพี่ลูกน้องของผู้ก่อเหตุ เปิดใจว่า วันจันทร์ที่ผ่านมาช่วงเย็น นายศักดา พี่ชายโทรมาหาตน และขอให้ตนไปบอกกับนางสาวแสงจันทร์ พี่สะใภ้ว่าให้ปลดบล็อกเบอร์โทรศัพท์ เพราะพี่ชายอยากจะโทรไปพูดคุยเพื่อปรับความเข้าใจกัน แต่พี่สะใภ้บอกว่าไม่ยอมปลดบล็อก เพราะเกลียดพี่ชายของตน แต่ตนไม่ได้เล่าให้พี่ชายฟัง เพราะเกรงว่าพี่ชายจะรู้สึกโมโห ส่วนพี่ชายได้ระบายกับตนว่ารู้สึกน้อยใจภรรยา เพราะพี่สะใภ้จะเป็นคนเก็บบัตรเอทีเอ็ม และพี่ชายจะต้องส่งเสียเงินให้เลี้ยงลูกอีกประมาณ 1,500-2,000 บาทต่อสัปดาห์ ทำให้พี่ชายจะต้องมาขอเงินพ่อแม่ตลอด เพราะเงินที่ได้มานำไปให้ภรรยาหมดแล้ว
อีกทั้งตนคิดว่าน่าจะมีปัญหากันเรื่องชู้สาว ซึ่งตนไม่ทราบว่าพี่ชายมีหลักฐานหรือรู้พฤติกรรมอะไรมาหรือไม่ โดยวันที่เกิดเหตุพี่ชายคงจะเข้าไปคุยกับพี่สะใภ้ แต่พี่สะใภ้คงจะไม่ยอมและพูดจาไม่ดีใส่ เกิดบันดาลโทสะคว้าปืนยิงผู้ตายกับพี่สะใภ้ แต่น้องอีก 2 คนเข้ามาห้าม จึงโดนลูกหลงไปด้วย หลังจากเกิดเรื่องพี่ชายของตนได้นำรถมาจอดที่หน้าบ้าน ซึ่งหากจากจุดเกิดเหตุประมาณ 20 กิโลเมตร
ทั้งนี้ พี่ชายไม่ได้ติดต่อมาหาใคร และไม่มีใครติดต่อพี่ชายได้ ซึ่งทุกคนกำลังรอโทรศัพท์ และพยายามตามหาจากกลุ่มเพื่อน แต่ไม่มีวี่แวว ตนอยากจะบอกกับพี่ชายว่าเรื่องทุกอย่างเกิดขึ้นแล้ว ต้องยอมรับความจริง และทุกคนในครอบครัวจะสู้ไปด้วยกัน สาเหตุที่ยังไม่ออกมามอบตัว ตนเชื่อว่าพี่ชายกำลังทำใจอยู่ เพราะพี่ชายรักพี่สะใภ้มากเพราะคบหากันกว่า 10 ปีแล้ว "หากพี่ชายดูอยู่ หนูอยากขอให้พี่ออกมามอบตัว และทุกคนจะไม่ถามว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ทุกคนจะให้กำลังใจ"
ด้านพ่อของผู้ก่อเหตุ ให้ข้อมูลว่า ลูกชายยังไม่ได้ติดต่อมาหาตน เนื่องจากคงจะกำลังตั้งหลักอยู่ เพราะเขารักและหวงผู้ตายมาก ตนไม่เคยทราบปัญหาส่วนตัวของทั้งคู่มาก่อน แต่ลูกสะใภ้เป็นคนที่นิสัยดีและพูดจาดี
ที่วัดท่ากระท้อน ต.เขาสมิง อ.เขาสมิง จ.ตราด ที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพของ น.ส.แสงเดือน ศรีจตุรพร อายุ 27 ปี น้องสาว ภรรยาของผู้ก่อเหตุ นางทองแดง สมสีทา อายุ 51 ปี แม่ของผู้ตายและผู้ได้รับบาดเจ็บ เปิดใจว่า นายศักดา ผู้ก่อเหตุ กับนางสาวแสงจันทร์ ลูกสาวของตนทะเลาะกันบ่อยครั้ง แต่ตนไม่รู้ว่ามีปัญหาอะไรกัน ตนได้แต่กล่าวตักเตือนบ้าง และทุกครั้งที่เตือนทั้งคู่ก็จะเชื่อฟัง ตนยืนยันว่าไม่เคยมีปัญหาเรื่องชู้สาว เพราะลูกสาวไม่ใช่คนเที่ยว แต่นายศักดารักและหึงลูกสาวมาก บางครั้งก็ไม่ค่อยมีเหตุผล
ตั้งแต่ช่วงโควิด-19 ลูกสาวได้เข้ามาช่วยผู้ตายขายหม่าล่า ทำให้พบเจอกับคนเยอะ ด้วยเหตุนี้ทั้งคู่จึงทะเลาะกันบ่อยขึ้น โดยนายศักดามักจะพูดซ้ำซาก และคิดไปเองว่าลูกสาวของตนมีคนอื่น นอกจากนี้ นายศักดายังเป็นคนเสนอให้ลูกสาวของตนเก็บบัตรเอทีเอ็ม และเงินทุกบาทให้ ลูกสาวไม่ได้ร้องขอแต่อย่างใด
หลังจากเกิดเรื่อง นายศักดาไม่ได้ติดต่อมาและหายตัวไป ตนยืนยันว่า นายศักดาไม่เคยมาข่มขู่ว่าจะยิง แต่พอเกิดเรื่อง ตนรู้สึกกลัว และเห็นว่านายศักดายังคงรู้สึกโมโหอยู่ จึงรีบหนีออกจากบ้านเพราะกลัวว่าจะถูกยิงไปด้วย ทั้งนี้ ตนรู้สึกแปลกใจมาก เพราะทั้งคู่รักกันมาก และคบหามานาน อีกทั้งนายศักดาก็เป็นคนที่นิสัยดีมาก มีความรับผิดชอบ ไม่เคยทำร้ายร่างกายลูกสาวของตน
"ยอมรับว่าข้างในใจลึก ๆ รู้สึกโกรธจนพูดไม่ออก ไม่ได้หวังให้ญาติพี่น้องของผู้ก่อเหตุออกมารับผิดชอบ และไม่ต้องมาขอขมา เพราะญาติพี่น้องไม่ได้รู้เรื่องด้วย" แม่ของผู้เสียชีวิต กล่าว
