"จอย ชลธิชา" แอบหวั่นอาถรรพ์เลข 7 กับแฟนหนุ่มนอกวงการ

กลายเป็นโลโก้ของนางร้ายแอ๊บแบ๊วไปซะแล้ว สำหรับนักแสดงสาวตากลมร่างเล็ก "จอย ชลธิชา นวมสุคนธ์" ที่มาเยือนรายการ ต้มยำอมรินทร์ เจ้าตัวก็โชว์สกิลการแสดงแอ๊บร้าย ถึงขนาดพิธีกรของเรายังต้องยกนิ้วให้สมกับฉายาที่ได้รับ งานนี้ สาวจอย ยังได้อัปเดตถึงความรักที่ไม่ค่อยได้พูดที่ไหน แต่เปิดไม่เคยปิดกับหนุ่มนอกวงการที่รักกันมายาวนานเข้าปีที่ 7 แอบมีหวั่นๆ อาถรรพ์เลขนี้เหมือนกัน ด้วยเหตุที่ว่าเพราะเคยเกิดขึ้นมาแล้ว จากนั้น สาวจอย ยังได้พาย้อนอดีตไป 20 ปีที่แล้ว พูดถึงบทนางเอกเรื่องแรกที่พาตัวเองดังเปรี้ยง เพราะได้เล่นประกบคู่พระเอกหนุ่ม อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- "หนุ่ม อรรถพร" รับตั้งแต่แต่งงานไม่เคยได้จับเงิน เพราะภรรยาเป็นคนเก็บ!
- "พี สะเดิด" เจ้าพ่อคำคมสอนใจ! รักในการศึกษาธรรมะพอๆ กับเสียงดนตรี
- "แหม่ม พัชริดา" ไม่คิดมีทายาท วางแผนบั้นปลายชีวิตอยู่บ้านพักคนชรา
- "จิตดี ศรีดี" เคลียร์ชัด! หลังเกิดคำถามหายหน้าไปไหนจาก "ทุบโต๊ะข่าว"
- "เจมส์ เรืองศักดิ์" หลงลูกหนัก เบรกงานในวงการเป็นปี ทุ่มเวลาให้ลูกหมด

ถาม ก่อนมาเป็นนางร้าย จอยเป็นนางเอกมาก่อน อนันดากับฟ้าใส กี่ปีแล้ว??

จอย : น่าจะ 20 ปีมาแล้ว ตอนนั้นอายุ 13-14 ปี เป็นหนังเรื่องแรก แต่จริงๆ แล้วเข้าวงการมาจากการถ่ายโฆษณา มีประกวด แล้วก็มาได้เล่นหนัง


ถาม ได้มาเป็นนางเอกดังเลยในตอนนั้น แล้วคู่กับอนันดา

จอย : ใช่ค่ะ ดังคู่กันมาเลย เป็นภาพยนตร์ที่หวือหวาเลยในยุคนั้น เพราะเสื้อผ้าที่เราใส่เป็นชุดว่ายน้ำ แล้วก็มีฉากจูบ ซึ่งสมัยนั้นคือไม่ได้เลย แล้วตอนนั้นเรายังเด็กด้วย โดนกระแสทุกอย่างเลย


ถาม แล้วทำไมถึงกล้ารับเล่น

จอย : เราก็ไม่ได้คิดอะไร งานก็เป็นงาน ตอนนั้นเราก็ใสๆ ต่างคนก็ต่างเขิน เด็กผู้ชายกับเด็กผู้หญิง ที่มันได้มาเล่นบทอิโรติกด้วยกันพอเจอกันแบบบอกไม่ถูก


ถาม ตอนนั้นมีแอบปิ๊ง อนันดา ไหม ??

จอย : มี ก็เป็นจูบแรกของเราเนอะ อยากจะบอกคนทั้งโลกได้แบบไม่อายเลย ว่าจูบแรกในชีวิตของฉันคืออนันดา ก็เขินๆ ก็หล่อดีเนอะ แต่เราไม่ได้มีความคิดไปในทางชู้สาวเพราะตอนนั้นเรายังเด็กมาก


ถาม หนึ่งคำถามที่คาใจคนทั้งประเทศมา 20 ปี ตอนนั้น จอย กับ อนันดา เป็นแฟนกันไหม ??

จอย : ไม่ได้เป็นค่ะ คุยกันยังไม่รู้เรื่องเลย เพราะเขาไม่ได้คุยภาษาไทยกับเรา แล้วตอนนั้นภาษาอังกฤษเราก็ไม่ได้ดีมาก ตอนนั้นไม่ได้สื่อสารเป็นภาษาไทยเลย นอกจากบทภาพยนตร์ เขาก็คาราโอเกะไป เราก็ท่องของเรา แต่ก่อนหน้านั้นเราก็มีไปเรียนกับหม่อมน้อยก่อน พอ 5 4 3 2 ก็เล่น พอคัทก็แยกย้าย ไม่รู้ว่าจะคุยอะไรเหมือนกัน เพราะเขาก็เด็กด้วย แล้วเราก็เด็ก อยากคุยก็ไม่รู้จะพูดยังไง เราฟังออกก็ไม่รู้จะตอบยังไง ก็เป็นความเกร็งๆ ทั้งคู่


ถาม เมื่อเวลาผ่านไป เคยมาเจอกันบ้างไหม

จอย : เคยค่ะ เขาเคยมารายการวิทยุที่จอยจัด เขามาโปรโมทหนัง ก็ตกใจที่ได้มาเจอกัน เพราะหลังจากที่เราเล่นหนังด้วยกัน 10 ปีเราไม่เคยเจอกันเลย


ถาม ได้คุยอะไรบ้างในตอนนั้น ได้ถามกันไหม ตอนที่เราเล่นหนังเราไม่ได้คุยกันเลย ??

จอย : ใช่ๆ ก็ได้คุยกันว่าตอนนั้นเราไม่ได้คุยอะไรกันเลยเนอะ


ถาม พีคที่สุดเลยไหม ตอนนั้น

จอย : พีคที่สุดเลย


ถาม แต่ที่พีคกว่า คือ บทของน้องนกสองหัว ??

จอย : ตั้งแต่เล่นหนัง คนจะเรียกเราว่าฟ้าใสๆ แล้ว รัชนก ก็ทำให้เราพลิกบทมากในชีวิต เวลาไปไหนคนก็จะเรียกเราว่า รัชนก แบบนกสองหัวแทน


ถาม ถือว่าเราพลิกบทบาทเลยไหม เราเคยเล่นร้ายมาไหม ??

จอย : ไม่เคยเลย ทุกคนจะรู้สึกว่าเราเด็ก หน้าเด็ก ให้แต่บทเป็นคนดีแล้วกัน พอตอนนั้นเราได้รับการติดต่อมา เราก็ยังไม่มั่นใจว่าจะเล่นร้ายได้ไหม เพราะเราไม่เคยเล่นร้ายมาก่อน เวลาที่เราเห็นบทร้ายๆ ก็จะวี๊ดว้าย


ถาม แต่พอรับบทบาทแล้วกลายเป็นบทในตำนานเลย ทำให้คาแรคเตอร์นางร้ายติดตัวเรามาเลย ?

จอย : ติดเลยค่ะ ตอนนี้ติดไปเลย


ถาม การที่ละครดังมาก เราก็เลยรู้สึกว่าขณะที่เรานั่งด้วยกันอยู่ตอนนี้ จอยจริงใจกับเราไหม

จอย : เป็นการทำงานค่ะ ทุกอย่างต้องขอบคุณทุกคนที่เชื่อในสิ่งที่เราแสดง เป็นตัวละครที่เราเป็นตัวนั้นจริงๆ


ถาม ร้ายจนชินแล้ว จะกลับมาเล่นเป็นนางเอกได้ไหม ??

จอย : ได้นะคะ แต่จะมีคนจ้างหรือเปล่า


ถาม หลังจากที่เรารับบทร้ายแล้ว เรื่องอื่นๆ ที่เข้ามาเป็นร้ายไหม ??

จอย : ร้ายเกือบทั้งหมด เราก็สนุกดีนะคะ เหมือนเราได้ทำการบ้านกับบทร้าย เราได้เล่นกับบทนี้ให้มันแตกต่างกันยังไง ร้ายแบบไหน เชื่อว่าคนก็ติดภาพร้ายของเราอยู่แล้วแต่เราก็ไม่อยากให้ร้ายเหมือนกันทุกเรื่อง

 

ถาม อัพเดทงานแล้วมาอัพเดทเรื่องหัวใจกันบ้างดีกว่า เพราะไม่ค่อยได้เปิดเท่าไหร่ มีคนรู้ใจที่คบกันมานานแล้ว

จอย : จริงๆ ไม่ได้เป็นคนที่ปิดนะคะ คบใครก็เปิดตลอดตั้งแต่ที่เราเข้าวงการมาคบใครก็เปิดเผยตลอดเลยเพราะเรารู้สึกว่าปิดไปก็เท่านั้นสุดท้ายคนก็รู้อยู่ดี ก็คนนี้คบกันมา 7 ปีแล้วค่ะ เพื่อนแนะนำให้รู้จักกัน

 

ถาม กลัวอาถรรพ์ 7 ปี แล้วเลิกกันไหม

จอย : จริงๆ ก่อนหน้านี้ แฟนคนก่อนๆ ก็เลิกกันตอน 7 ปี มาแล้วค่ะ ทั้งสองคน เราเป็นคนอดทนคบใครสักคนก็จะคบนานค่ะ

จอย : ก็แอบกลัวอาถรรพ์เหมือนกันนะคะ แต่เราไม่รู้ว่ามันมีจริง หรือ ไม่มีจริง แต่คนเราพอคบกัน 7 ปี เราจะเห็นทั้งมุมดีและมุมไม่ดีของกันและกัน มันก็จะเป็นช่วงที่จะหยุดหรือจะไปต่อมากกว่า คือ แบบไม่ได้ทะเลาะกันแล้ว หรือไม่ได้ดีไปกว่านี้แล้ว

 

ถาม ถ้าถามตัวเรา เราอยากไปต่อทางไหนกับความรักครั้งนี้

จอย : คือเราก็มองนะ เราคุยกับเขาจริงจังเลยตั้งแรกที่คบกันแรกๆว่า เราไม่ได้คบกันเพื่อที่จะเลิกกันนะ เรามองอนาคตไปด้วยกันใช่ไหม เราถามพี่เขาเลย ว่าพี่มองอนาคตไปร่วมกับจอยหรือเปล่า คือถ้าไม่ได้มองอนาคตด้วยกันเราเป็นเพื่อนกันดีกว่ามันเสียเวลา

 

ถาม แล้วเขาตอบยังไง ??

จอย : เขาก็ตอบโอเคมองอนาคตไปด้วยกัน เราก็เลยรู้สึกแบบมันก็มีทิศทางที่จะไปในทิศทางเดียวกัน มันก็เป็นไปได้ที่อนาคตใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน

 

ถาม 7 ปี แล้วทำไมไม่บอกว่าเมื่อไหร่จะแต่ง ??

จอย : (หัวเราะ) บอกทุกวัน ไม่ๆ ก็มีการคุยกันแต่หลายๆ อย่างยังไม่พร้อมสำหรับเราทั้งคู่ด้วย เราแบบอยากมีทุกอย่างพร้อมเวลาเรามีลูกเราจะได้ไม่ต้องมานั่งเครียดอีก แต่เรื่องของอายุด้วยอะไรด้วย

 

ถาม แต่ส่วนหนึ่งที่ทำให้ความรักประสบความสําเร็จในทุกวันนี้ เพราะจอย เป็นคนที่อดทนมาก

จอย : อดทนมากค่ะ เป็นคนไม่คิดอะไร ถ้าไม่ใช่เรื่องเจ้าชู้หรือว่าอะไรนะคะ

 

ถาม มีความอดทนขนาดไหน ?? กับเรื่องอะไรบ้าง ??

จอย : คือเราเป็นคนโกรธง่ายหายเร็ว เป็นคนไม่คิดเล็กคิดน้อย คือจนเพื่อนเขาบอกว่าเราเป็นคนที่อดทนมากเท่าที่รู้จัก

จอย : เรารู้สึกว่าถ้าเราจะคบกับคนนี้ เรารักคนนี้มากพอ มันจะไม่ใช่เปลี่ยนเขาเปลี่ยนเรา คือเขาไม่เปลี่ยนเรา และเราไม่เปลี่ยนเขา และรับในข้อเสียของเขาได้มันก็น่าจะโอเคหรือเปล่า มันไม่ได้เป็นข้อเสียที่สร้างปัญหาให้กับเรา เรารู้สึกแบบนั้น

 

ถาม ข้อเสียของเขาที่ว่าเราจะรับได้ตลอดไป หรือ เวลานี้เท่านั้น

จอย : รับมาตลอด คือ มันไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่ที่ทำให้ทุกอย่างพังทลายลงมา มันเป็นแค่นิสัยเล็กๆ น้อยๆ ทำให้เกิดความรำคาญ แต่เราไม่ได้รำคาญไง

 

ถาม แล้ว 7 ปีเราเคยไปงี่เง่ากับเขาไหม ??

จอย : ก็มีนะคะ เพราะเราเป็นผู้หญิงเรารู้สึก อันโน้นอันนี้ไม่ได้ มีความงอแงคิดแทน ทำไมเธอต้องรู้สึกสิ เราโกรธงอน ผู้ชายเขาไม่รู้หรอก เขาก็ถามว่างอนเรื่องอะไร แต่ตั้งแต่นั้นเราก็เปลี่ยนเพราะเรารู้สึกว่าไม่พอใจอะไร คือ พูดเลย พูดตรงๆ เลย บอกเลยว่าทำเรื่องนี้เราไม่ชอบนะ ถ้าเป็นไปได้อย่าให้เกิดขึ้นอีก

 

ถาม ทะเลาะกันรุนแรงที่สุดเรื่อง ??

จอย : เรื่องแบบ คือแฟนหนูนอนเก่งมากสามารถหลับได้เป็นวันๆ บางทีแบบเรานึกว่าเขาเป็นอะไร คือ เรารู้สึกว่าเขาน่าจะบอกเรานิด ยังนอนอยู่หรืออะไร เราเป็นคนที่ชอบเป็นห่วง แบบไม่ได้เจอกันก็ควรบอกเราว่าพี่อยู่บ้านนะ ตอนจีบกันใหม่ๆ คือตลกมาก เพราะตอนแรกๆ คือต้องแชทหากันใช่ไหม เขาก็แชทหาเราว่าทำอะไรอยู่ เราก็บอกถ่ายละครค่ะ แล้วหายไปเลย เราไม่รู้ว่าเขาหลับ

 

ถาม แปลว่ากับคนนี้ เราก็มองไปข้างหน้าใส่ชุดขาว พร้อมเตรียมแต่งใช่ไหม??

จอย : ก็มองๆ ก็เห็นค่ะ บางทีก็คุยกันเล่นๆ เราได้แต่งงานกันเราจะจัดงานแบบไหน ก็ได้มีการพูดคุยกันเล่นๆ แต่ยังไม่มีการสู่ขออย่างเป็นทางการ แต่สิ่งที่เรากลัวคือเราการมีลูก