กลายเป็นดราม่าในโลกออนไลน์ หลังจากมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง
ได้โพสต์ข้อความแฉแขกรับเชิญชายคนหนึ่งที่ไปออกรายการ
"Take Me Out Thailand"
โดยระบุว่า จริงๆ แล้วตัวตนของชายคนดังกล่าว
ไม่ได้มีพฤติกรรมสวยหรูแบบในรายการนำชื่อค่ายเพลงดังมาแอบอ้าง
เพราะเนื้อแท้ของหนุ่มหล่อคนดังกล่าวมีนิสัยเกาะผู้หญิงกิน ใช้เงินผู้หญิงเพื่อไปซื้อรถหรู
ทำร้ายร่างกายแฟนสาว แถมยังเคยใช้กำลังข่มขืนหญิงสาวซึ่งเป็นน้องสาวของผู้ออกมาแฉ
จนท้องและไม่รับผิดชอบ
จนตอนนี้ลูกจะ 1 ขวบแล้ว ซึ่งชาวเน็ตคาดเดากันว่า ชายแขกรับเชิญคนดังกล่าวที่มีการพูดถึง
คือ
"อาร์ท-อิธีวัฒน์ วรวัฒน์วิจิตร"
หลังเหตุการณ์แฉเริ่มกลายเป็นกระแสแชร์กระหึ่ม ทางบริษัทผู้ผลิตรายการ
"Take Me Out Thailand" ก็ได้โพสต์คลิปวิดีโอที่หนุ่มอาร์ทออกมาเปิดใจถึงเรื่องราวด้านลบของตนเอง
โดยขอโทษทางรายการที่ไม่บอกประวัติของตนทั้งหมด ยอมรับว่าเคยมีภรรยาและลูกจริง
แต่ได้แยกทางกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และตนไม่เคยเจอลูกเลย
อีกทั้งยอมรับว่าเคยทำร้ายร่างกายแฟนสาวจริง แต่เป็นแฟนคนละคนกับที่มีลูกด้วยกัน
อยากขอโทษพ่อแม่แฟนเก่าที่ทำจริงๆ ส่วนประเด็นอื่นๆ นอกเหนือจากนี้เจ้าตัวไม่ได้พูดถึง
ทั้งนี้ทางรายการเปิดเผยว่าก่อนหน้านี้ได้ซักประวัติผู้เข้าร่วมรายการเป็นปกติอยู่แล้ว
จากนี้คงต้องมีการเข้มงวดมากยิ่งขึ้น
ล่าสุด
ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ได้สัมภาษณ์เจ้าของเพจเฟซบุ๊กดังกล่าว
โดยใช้ชื่อว่า
Rungroj ได้เปิดเผยข้อมูลของ
"ดีเจอาร์ท"
ว่ามีพฤติกรรมหลอกลวงผู้หญิงคนอื่นอยู่ตลอดเวลา
รวมไปถึงข่มขืนน้องสาวจนตั้งท้อง
ตอนนี้คลอดลูกแล้วเป็นเพศชาย มีอายุ 10 เดือน และทำร้ายร่างกายผู้หญิงมาแล้วหลายคน
และทางเจ้าของเฟซบุ๊กดังกล่าวได้ตรวจสอบไปยังต้นสังกัดที่
ดีเจอาร์ทแอบอ้างว่าทำงานอยู่ ตรวจสอบแล้วพบว่าไม่เป็นความจริง
"เหตุการณ์นั้น คือน้องสาวได้ขี่รถมาด้วยกัน แล้วอาร์ทหลอกน้องผมว่า ขอเอาของที่ห้องก่อน
แต่ใช้เวลานาน พอเข้าห้องไปแล้ว เขาก็ล็อคห้อง แล้วก็พยายามทำมิดีมิร้ายน้อง
เลยใช้เวลาเป็นชั่วโมง โดยที่น้องไม่ได้ยินยอมใดๆ ซึ่งช่วงเวลาที่น้องไม่รู้ว่ามีการตั้งครรภ์
น้องก็รับตัวเองไม่ได้ ต้องไปขอเลิกกับแฟนตัวเองแท้ๆ (เพราะไม่ได้คบกับอาร์ทตั้งแต่แรกเป็นเพียงพี่ที่รู้จักกัน)
และอยากจะหายไป แต่อาร์ทก็มาขอคืนดี และขู่ว่ามีคลิปวิดีโอ น้องจะหนีไปเรียนที่อังกฤษ
ก็เอาหนังสือเดินทางไปเผา จนน้องก็ต้องแอบไปทำใหม่
โดยเหตุผลที่ไม่มีการแจ้งความ เพราะแม้แต่ครอบครัวก็ยังไม่กล้าที่จะบอกด้วยซ้ำ
แต่พอน้องรู้ตัวเองว่ามีการตั้งครรภ์ก็เลยต้องรับสภาพว่าลูกต้องมีครอบครัว
เพราะอย่างน้อยทางอาร์ทก็ทำเหมือนว่ามีโปรไฟล์ดีตลอด จนกระทั่งเมื่อได้มีการคลอดเด็กออกมา
แล้วตัวน้องต้องไปเรียนต่ออังกฤษ ก็ปรากฏว่าแค่ค่าคลอด ทางอาร์ทก็ไม่ได้ให้เลย
ตอนนี้ลูกชายอายุได้ 10 เดือนแล้ว"
ก่อนหน้านี้ ทางครอบครัวก็ไม่ทราบในการคบหาของทั้ง 2 คนมาก่อน
ซึ่งน้องเองก็ไม่ได้ยินยอมที่จะเป็นแฟน มีแต่ทางอาร์ทคิดไปเองไปฝ่ายเดียว
ทั้งนี้การที่น้องได้มารู้จักกับอาร์ท เพราะว่าน้องได้ไปเรียนเป็นดีเจ
แล้วพอเกิดเรื่องขึ้นก็มักจะอ้างว่ามีคลิปวิดีโอที่ถ่ายไว้ตลอดเวลา
รวมถึงตอนที่น้องไปขัดใจอาร์ท ก็จะมีการขู่ว่าจะทำให้อาร์ทเสียชื่อเสียง
อาร์ทจะให้ผู้จัดการส่วนตัวฟ้องร้องได้ เพราะปกติแล้ว
จะอ้างตัวว่ามีผู้จัดการส่วนตัวอยู่ในสังกัดบริษัทที่ย่านอโศก
ขณะเดียวกัน สำหรับเหตุผลในการที่ตนออกมาแฉนั้น
เพราะตนรู้จักคนในวงการดีเจเหมือนกัน ซึ่งก็ได้รับรู้มาว่าแฟนเก่าอีกคนของอาร์ท ก็เคยถูกทำร้ายหนัก
ตนก็พอจะเห็นภาพหรือหลักฐานเช่นกัน และยังมีการหลอกลวงผู้หญิงคนอื่นอีกมาก
โดยตนก็เพิ่งจะรู้เรื่องเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา ตนก็จึงได้ติดต่อไปยังอาร์ทตั้งแต่ช่วงปีใหม่
ซึ่งอาร์ทก็บอกว่าจะขอเคลียร์กับน้องเอง แต่ก็ไม่ได้ติดต่อเคลียร์อย่างใดจนถึงขณะนี้
และตนก็เชื่อว่า แม้ว่าจะมีการเข้ามาพูดคุยกัน ก็จะไม่มีทางคืนดีอย่างแน่นอน
รวมถึงหลังจากที่มีข่าวออกมา น้องก็รู้สึกกลัวมาก โทรศัพท์มาร้องไห้ ครอบครัวจะว่า
แต่ตนก็คิดว่าเรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว และอาร์ทก็ทำกับคนมามาก
เคยหลอกเอาเงินน้องไปซื้อของ ซื้อรถ พาไปต่างประเทศหลายครั้ง
รวมถึงยิ่งไปออกรายการดังก็เหมือนเป็นใบเบิกทางให้ได้ไปหลอกผู้หญิงได้อีก