"ดี้ ปัทมา" ขายหน้ากากอนามัย แต่ไม่ทิ้งงานวงการ!

ในช่วงโควิดที่ผ่านมา นักแสดงมากฝีมือ "ดี้ ปัทมา ปานทอง" หันมาเย็บหน้ากากอนามัยขายอย่างจริงจัง จนโดนเม้าท์ว่าจะออกจากวงการและไร้งานแสดงแล้ว ล่าสุด ดี้ ปัทมา ได้มาเยือนรายการ ต้มยำอมรินทร์ เจ้าตัวเลยได้เคลียร์ชัด ยืนยันเสียงหนักแน่นว่างานในวงการยังรับเหมือนเดิม ส่วนงานเย็บหน้ากากอนามัยเรียกว่ากลายเป็นอีกหนึ่งอาชีพของตัวเองได้แล้ว พร้อมอัปเดตชีวิตลูกสาวสุดที่รัก น้องพลอย ที่ตอนนี้มีดีกรีคุณหมอเต็มตัวแล้ว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- "บ่าววี" ขอสู้สุดชีวิต งานหดแต่ไม่ทิ้งลูกน้องในช่วงโควิด!
- "แอน สิเรียม" ผันตัวเป็นชาวสวน พร้อมควงลูกสาว "นนนี่" เคลียร์ใจความต่างขั้ว
- "มัม ลาโคนิค" เคยเปย์ผู้ชาย ติดการพนัน สูญเงินเป็นล้าน!!
- เปิดชีวิตหนุ่มหล่อสุดเพอร์เฟกต์ “อั๊ต อัษฎา” ที่ตอนนี้หัวใจยังว่าง เหตุเพราะถูกสาปให้เป็นโสดตลอดชีวิต!!
- "เก่ง ธชย" สายมูตัวจริง เชื่อเป็นข่าวดังเพราะถือศีลปิดวาจา 9 วัน 9 คืน!

ถาม อยู่ดีๆ ก็มีข่าวว่า ตอนนี้ออกจากวงการบันเทิงแล้ว เลยต้องมาเย็บหน้ากากอนามัยขายทั้งวันทั้งคืน?

ดี้ : ตอนนี้ถ้ามีมากกว่าหนึ่งอาชีพจะดีมาก เย็บหน้ากากอนามัยขาย เป็นอาชีพที่ได้เงินทุกวัน วันละกี่พันว่าไป มีออเดอร์ทุกวัน


ถาม ทำไมถึงเย็บหน้ากากอนามัยขาย?

ดี้ : พี่เป็นคนชอบงานประดิษฐ์ประดอย พี่ก็ไปเจอจักรลดราคาเมื่อ 6 ปีที่แล้ว คือถีบไม่เป็นนะ ไม่เคยเรียน ซื้อเสร็จก็ต้องไปอบรม ก็ไม่ได้ไปเพราะมีงานตลอด จนกระทั่งแบบช่างมันเถอะ วางไว้อย่างนั้น 6 ปี พอโควิดมา พอดีเพื่อนเขาทำหน้ากากไปบริจาค ก็เลยบอกเขาว่ามีจักรอยู่ ลองดูแล้วกัน ไม่รู้จะได้แค่ไหน ก็เลยลองเอามาช่วยเย็บ พอทำไปทำมา เฮ้ย..เย็บได้ ดีใจที่เย็บได้ ก็เลยจริงจัง พอหลังจากนั้นใครซื้อหน้ากากพี่ เงินทั้งหมด ไม่หักค่าใช้จ่าย เอาไปทำถุงยังชีพหมดเลย


ถาม แล้วเรียนจากไหนพี่?

ดี้ : ไลฟ์กับเพื่อน แบบอย่างนี้แล้วยังไงต่อ แล้วทำอะไรต่อ เรียนออนไลน์กันเพราะว่ามาใกล้กันไม่ได้ ต้องบ้านใครบ้านมัน


ถาม แปลว่ามันก็ไม่ยากสิ?

ดี้ : อาจจะเป็นเพราะว่าเราชอบมั้งคะ บางคนก็เย็บไม่ได้ อย่างพี่เอ๋(กษมา)ก็เย็บไม่ได้ แต่พี่เอ๋จะเป็นคนตัดแพทเทิร์นให้ ทำแบบให้อะไรให้ กลายเป็นกิจกรรมครัวเรือนเป็นที่เรียบร้อย ลูกพี่พอกลับมาก็มานั่งรีดหน้ากากให้ นางชอบ


ถาม จากหน้ากากไปเย็บเป็นเสื้อผ้าด้วยไหมคะ?

ดี้ : เย็บชุดเล่นๆ ให้ลูกใส่ เย็บโบว์ เย็บอะไรอย่างนี้ค่ะ


ถาม แต่ที่ทำเป็นอาชีพจริงๆ คือ?

ดี้ : หน้ากากอนามัย แบบมีความสุขมาก เลือกผ้ามาเสร็จ เลือกแบบเลือกอะไรอย่างนี้ อย่างเมื่อคืน พอไปเลือกชุดว่าจะใส่อะไร ก็วิ่งไปทำหน้ากากของตัวเองเห็นไหม? (โชว์หน้ากากลายลูกไม้เข้ากับชุด) เพราะว่ารู้สึกว่ามันเป็นความสุขที่เราจับต้องได้ มันอยู่ใกล้ตัวเรา เราทำได้ คือหน้ากากอนามัยของพี่ สั่งตัดได้เลย ขอแบบนี้ เอาแบบนั้น เอาซับในสีนี้ 

ถาม มีคนช่วยไหม นอกจากอุตสาหกรรมในครัวเรือน?

ดี้ : ไม่มี มีสามีช่วย ตอนนี้ลูกช่วยไม่ได้แล้ว เพราะว่ากลับมาเรียนต่อ แล้วก็จะงานหนักมาก


ถาม สั่งจากทางไหน?

ดี้ : ทางเฟสบุ๊ค ทางไอจี เป็นเพื่อนของเพื่อนอะไรอย่างนี้ มีออเดอร์นึง 500 ชิ้น ขอเถอะรับไม่ได้ เพราะว่ามันมีเดดไลน์ว่าต้องส่งตามกำหนดเมื่อไหร่ แล้วพี่ถ่ายละครอยู่ 3 เรื่อง เดี๋ยวไม่เสร็จ


ถาม  ตกลงว่ายังรับงานแสดงเหรอ?

ดี้ : รับสิรับ เดี๋ยวขอแก้ข่าว จริงๆ เวลาที่ไปถ่ายละครเสร็จกลับมา สิ่งแรกที่พี่ทำคือนั่งเย็บจักรก่อน ก่อนทำสิ่งใด คือทำออเดอร์ที่ค้างอยู่ตลอดเวลา


ถาม ความสุขคือการถ่ายละครและเย็บหน้ากาก มีความสุขอีกอย่างคือลูกที่เรียนจบเป็นหมอ ตอนนี้มีโควิด แล้วคุณหมอต้องไปอยู่ในหน่วยกักกัน ห้ามสัมผัส เป็นยังไงบ้าง?

ดี้ : บอกตรงๆ คือกลัวมาก เพราะเราเห็นที่จีน แล้วเราก็ดูข่าว แล้วก็แบบว่าไปเจอลูกไม่ได้ เจอได้ก็ต้องอยู่ไกลๆ เราดูในข่าวเนอะ พอวันที่เรามาเจอกับตัวเอง คุยโทรศัพท์กับลูกคือน้ำตามันไหล ห่วงนะ แต่ว่าก็เข้าใจเพราะว่าเป็นอาชีพที่ลูกเลือกแล้ว แล้วก็เราก็คิดว่าอยู่ในโรงพยาบาลเนี่ย มันก็ต้องปลอดภัยที่สุด

ถาม เขาไปอยู่ในส่วนของการคัดกรองผู้ป่วยเลยใช่ไหมคะ?

ดี้ : ใช่ๆ เขาเป็นอายุรกรรม 


ถาม ไม่ได้เจอหน้าลูกกี่เดือนคะ?

ดี้ : ช่วงนั้นประมาณ 4 เดือนได้ แต่พี่ไปหาเขานะ แต่ว่าก็จะอยู่ไกลๆ กัน แล้วเสื้อผ้าก็ไม่ได้เอากลับบ้าน เพราะว่าเขากลัวจะเอาอะไรมาติดพ่อแม่ พอเขาจบคอร์สที่ใช้ทุนสามปีครบพอดี ไตรมาสสุดท้ายเนี่ยมันมีโควิดพอดี พอกลับมาเขาก็กักตัวเอง 14 วัน พอเว้นไปประมาณ 15 วันก็กลับไปเรียนต่อแล้ว


ถาม ครั้งแรกหลังจากไม่เจอกัน 4 เดือนและกักตัวอีก 14 วัน กลับมาเจอกันเป็นยังไงบ้าง?

ดี้ : แทบจะสิงลูกเลยค่ะ พี่เอ๋เขาจะเป็นคนสปอยลูกเรื่องกินมาก อยากจะกินอะไร? พี่เอ๋ทำกับข้าวเก่ง พี่ดี้จะสู้ไม่ได้ ก็จะเป็นแนวดูแลเรื่องเสื้อผ้า เรื่องเครื่องสำอางมากกว่า


ถาม ตอนนี้น้องพลอยอายุเท่าไหร่แล้วคะ?

ดี้ : 27 แล้วค่ะ รู้สึกว่าตัวเองเป็นคนมีบุญมาก ได้ส่งลูกตั้งแต่อนุบาลจนตอนนี้ยังได้ส่งลูกอยู่ ไปส่งไปรับอะไรอย่างนี้ค่ะ ยังได้ทำผมให้ลูก

 

ถาม ดูมีความสุขเวลาพูดถึงลูก เลี้ยงลูกสไตล์ไหนคะ?

ดี้ : พี่ไม่เคยดุลูก ไม่เคยตี ด้วยความที่แม่ดุมาก แล้วเราไม่เคยชอบสิ่งที่แม่ทำ ทำไมแม่ต้องดุ ทำไมแม่ต้องตี ไม่ชอบ เราก็เลยเอาสิ่งที่เราไม่ชอบ เอามาสอนลูก ฉะนั้นเราจะใช้วิธีพูดกัน มีอะไรให้พูดความจริง ไม่ต้องกลัวว่ามันผิด ไม่ผิด ไม่มีความผิดเกิดขึ้น ต่อให้ทำของแตก ต่อให้อะไรก็ไม่ผิด

ถาม ชี้นำ บังคับ ตีกรอบลูกไหม?

ดี้ : ไม่กินข้าวเหรอ ไม่ต้องไปกินลูก ข้าวกินเยอะก็ไม่ดี


ถาม ตามใจขนาดนั้นเลยเหรอ? เลี้ยงแบบฝรั่งนะ คือแล้วแต่เขาตัดสินใจ แล้วแต่เขาเลือก

ดี้ : ใช่ๆ แล้วอยากเรียนอะไร อยากเรียนเต้น เต้นเลยลูก อยากเรียนร้องเพลง เรียนเลยลูก


ถาม  แสดงว่าเขาเป็นคนเรียนเก่งอยู่แล้ว?

ดี้ : เขาเป็นคนชอบเรียน ชอบอ่านหนังสือ แล้วเขาจะบอกว่าเรียนที่นี่ดีนะ  เรียนกับคนนี้ดี เรียนกับคนนั้น ไม่เอาคุยเยอะ ชอบคุยเล่น ไม่เอาไม่ชอบ