จากกรณี พ.ต.ท.ศุภชัย เกื้อเส้ง พนักงานสอบสวนเวร สภ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา ได้รับแจ้งจากเหตุชาวบ้านว่าพบศพหญิงถูกฆ่าหมกอยู่ในร่องน้ำ ม.4 บ้านพรุใหญ่ ต.กระโสม อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา
โดยที่เกิดเหตุในร่องน้ำสวนปาล์ม พบศพผู้เสียชีวิตสภาพนอนคว่ำอยู่ในร่องน้ำอยู่กลางสวนปาล์มน้ำมันของอดีตผู้ใหญ่บ้าน อยู่ห่างจากถนนเพชรเกษมประมาณ 2 กม. จึงได้นำขึ้นมาตรวจสอบพบว่าเป็นเพศหญิง ทราบชื่อภายหลังคือน.ส.เหลือง พระชะนะ อายุ 38 ปี ชาวอ.เมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ มีอาชีพหาปูเปรี้ยวขาย
ทั้งนี้สภาพศพเน่าเปื่อยส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้ง สวมเสื้อคอปกสีดำแถบส้มกางเกงขาสั้นสีดำ คาดกระเป๋าสะพายข้างสีดำ ตรวจสอบภายในตัวพบบัตรประจำตัวประชน พวงกุญแจอยู่ภายในกระเป๋า จากการชันสูตรพลิกศพพบว่าผู้เสียชีวิตเส้นผมเริ่มหลุดออกจากศีรษะ มีบาดแผลเป็นรูตรงกกหูด้านขวา ขนาดเท่ากำปั้น มีผ้าขนหนูสีฟ้ารัดอยู่ที่คอ ลิ้นจุกปาก คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 4-5 วันนั้น และยังพบมีดปลอดผลไม้ด้ามเหลืองข้างศพอีกด้วย
นายบุญยัง บุญขันธ์ อายุ 73 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้าน ม.4 เปิดเผยว่า ผู้ตายเป็นคนต่างถิ่นเข้ามาเช่าบ้านในหมู่บ้านได้ประมาณ 1 ปี ก่อนหน้าที่ก็เช่าบ้านในหมู่บ้านใกล้เคียง มีอาชีพออกจับปูเปรี้ยว (ปูที่ใช้ทำปูเค็ม) ในตอนกลางคืนกลางวันก็ไม่ค่อยออกมาสุงสิงกับใคร ส่วนใหญ่ก็อยู่ในกลุ่มอาชีพเดียวกัน ก่อนหน้านี้มีสามีเป็นชาวต่างด้าว แต่ตอนนี้อยู่คนเดียวไม่ทราบว่าไปไหน และทราบว่าผู้ตายมีปัญหาเรื่องหนี้นอกระบบ และเคยมีเรื่องทะเลาะกับเจ้าหนี้มาแล้ว ขณะที่บางส่วนก็บอกว่าอาจจะเกี่ยวข้องกับเรื่องยาเสพติดด้วย ชาวบ้านในพื้นที่จึงอยากให้ตำรวจจับตัวคนร้ายให้ได้โดยเร็ว และคาดว่าต้องเป็นคนที่รู้จักกับคนตายอย่างแน่นอน
ล่าวันที่ 9 ส.ค.63 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ลงพื้นที่มายังจุดเกิดเหตุ สภาพเป็นสวนปาล์ม มีร่องน้ำเป็นคูกั้น อยู่ห่างจากห้องพักของผู้ตายประมาณ 400 เมตร และเป็นสวนปาล์มที่อยู่ติดป่าชายเลน ค่อนข้างที่จะลับตาคน ส่วนห้องพักของน.ส.เหลือง พระชะนะ เป็นที่พักบังกะโลชั้นเดียว ประตูห้องปิดสนิท มีเสื้อของผู้ตายแขวนไว้ที่หน้าบ้าน 2 ตัว
นางแวว (นามสมมติ) เพื่อนของผู้ตาย ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวอมรินทร์ทีวีว่า ผู้ตายได้เป็นหนี้เจ้าหนี้ในหมู่บ้านคนหนึ่ง ชื่อนายสุเทพ โดยผู้ตายเป็นหนี้นายสุเทพ จำนวน 6,000 บาท
เมื่อวันที่ 1 ส.ค.63 ที่ผ่านมา นายสุเทพ ได้นั่งรอน.ส.เหลือง ที่หน้าปากทาง หลังจากน.ส.เหลืองกลับจากทำงาน โดยนายสุเทพได้ทวงหนี้ 6,000 บาทกับนางเหลือง แต่น.ส.เหลืองก็บอกว่าตนจ่ายหนี้แล้ว 3,000 บาท ที่เหลืออีก 3,000 บาท จะหามาให้ จากนั้นนายสุเทพก็บอกว่า ที่จ่ายหนี้มา 3,000 ถือว่าเป็นดอกเบี้ย ให้หาเงินมาใช้หนี้ให้ได้ แต่น.ส.เหลืองก็บอกว่า เพึ่งทำงานมาได้เงินแค่ 300 ขอจ่ายหนี้ 100 บาท ก่อนได้ไหม แต่เจ้าหนี้ก็ไม่ยอม
จากนั้นนายสุเทพ จึงเดินเข้ามาบีบคอน.ส.เหลือง จนฝ่ายหญิงหายใจไม่ออก ทำให้ชักมีดจะเอามาแทงนายสุเทพ จนนายสุเทพต้องยอมปล่อยมืออกจากคอ หลังจากปล่อยมือนายสุเทพก็ได้พูดกับน.ส.เหลืองว่า “ให้มึงเอาเงินมาใช้หนี้กูภายใน 3 วัน ไม่อย่างนั้น มึงจะกลายเป็นศพ”
และหลังจากนั้นประมาณ 2 วัน นายสุเทพ ก็ส่งข้อความมาทางไลน์ หาน.ส.เหลือง โดยข้อความที่นายสุเทพส่งมานั้นมีใจความว่า “ให้หาเงินมาใช้หนี้ภายในเวลาที่กำหนด ไม่อย่างนั้นจะกลายเป็นศพ” กระทั่งวันที่ 4 ส.ค.63 ที่ผ่านมา นายภาคร ทองวล หรือนายเหล็ง ลูกน้องของนายสุเทพ ได้โทรศัพท์มาหาน.ส.เหลือง และนัดแนะให้ไปคุยธุระกันที่สวนปาล์มจุดเกิดเหตุ เวลาประมาณเที่ยงคืน
โดยเวลาประมาณเที่ยงคืน น.ส.เหลือง ซ้อนรถมอเตอร์ไซค์ไปสวนปาล์มกับบุคคลปริศนา 2 คน ซึ่งบุคคลปริศนาที่มารับน.ส.เหลือง ออกไปจากบ้านนั้น คิดว่าน่าจะเป็นนายเหล็ง ลูกน้องนายสุเทพ และนางยา เพื่อนสนิทของน.ส.เหลือง และก็ไม่รู้ว่าเหตุการณ์หลังจากนี้เกิดอะไรขึ้น แต่ยอมรับว่าตนก็ไม่เห็นน.ส.เหลือง ปรากฏตัวภายในหมู่บ้านอีกเลย
ในเวลา 13.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ตะกั่วทุ่ง และเจ้าหน้าที่กองปราบ สภ.เมืองพังงา ได้ลงพื้นที่บริเวณสวนปาล์มจุดเกิดเหตุ เพื่อทำการปิดล้อมตัวนายภากร ทองวล หรือนายเหล็ง ผู้ต้องสงสัย ที่ก่อเหตุฆาตกรรมน.ส.เหลือง พร้อมกับอำพรางศพไว้ในสวนปาล์ม ตำรวจได้ปิดล้อมผู้ต้องสงสัยในสวนปาล์มรัศมี 40 ไร่ โดยปิดล้อมทั้งหมด 4 จุด และเจ้าหน้าที่บางส่วนก็ได้เข้าไปค้นหานายเหล็ง อยู่ในสวนปาล์ม ซึ่งรายงานเวลา 17.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่พบตัวนายเหล็งในสวนปาล์ม
ต่อมาทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ได้มาพูดคุยกับนางทองใบ นามสมมติ แม่ของนายภากร ทองวล หรือนายเหล็ง กล่าวว่า หลังจากที่ตำรวจให้ข้อมูลกับตนว่า นายเหล็งลูกชายตน ตกเป็นผู้ต้องสงสัย ฆาตกรรมน.ส.เหลืองนั้น ตนก็ตกใจมาก นึกไม่ถึงว่าลูกชายจะทำได้ถึงเพียงนี้
โดยช่วงระยะเวลา 4-5 วันที่ผ่านมา นายเหล็งลูกชายของตนก็ไม่ได้หายไปไหน เข้า-ออกบ้านอยู่ตลอด แต่ก็ไม่ได้อยู่บ้านทั้งวัน และตนก็ไม่ได้สังเกตลูกชาย เนื่องจากตนไปทำงานค้าขายอยู่ในตลาด และตนก็ไม่ทราบว่าลูกชายกับผู้ตายมีปัญหาส่วนตัวอะไร ส่วนปมการก่อเหตุก็ไม่รู้ว่าลูกชายตั้งใจก่อเหตุ หรือมีใครจ้างวาน สำหรับนายเหล็งลูกชายของตนนั้น ตนก็ไม่รู้ว่าสนิทกับนายสุเทพ เจ้าหนี้แค่ไหน เพราะตนไม่ค่อยได้สุงสิงกับลูกชาย
สำหรับวันนี้ที่เจ้าหน้าที่ปิดวงล้อมไล่ล่าลูกชายนั้น ตนก็อยากให้ลูกชายมามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โทษหนักจะได้กลายเป็นเบา ไม่อยากให้ลูกชายหนีการจับกุม ลูกทำผิดก็อยากให้ลูกยอมรับผิด อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาลูกชายก็ไม่เคยก่อเหตุฆ่าคนตายมาก่อน แต่เคยมีคดีลักทรัพย์มาก่อนหน้านี้
