จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ข้อความระบุว่า “ระวังกันด้วย..มีโจรมาปล้นจี้แม่ชีที่วัดบ้านเนินพระจันทร์..แม่ชีถูกทำร้ายบาดเจ็บอาการสาหัส ตอนนี้ส่ง รพ.ภูเขียว..แม่ชีเพิ่งเสียหลวงพ่อ..เลยอยู่ตัวคนเดียวตอนนี้คนร้ายยังจับไม่ได้”
ล่าสุดวันที่ 9 ส.ค.63 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี เดินทางมาที่ สภ.ห้วยยาง ม.8 ต.ห้วยยาง อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ โดยระหว่างที่ทีมข่าวลงพื้นที่ เจ้าหน้าที่กำลังทำการสอบสวนพยานแวดล้อมอยู่ ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นคนที่แม่ชีเข้ามาขอความช่วยเหลือ
ทีมข่าวเดินทางมาที่ โรงพยาบาลคอนสาร อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ เพื่อเช้ามาเยี่ยม นางสาวชุตินันท์ สิงห์ศักดา 50 ปี แม่ชี ผู้เสียหาย สังเกตเห็นว่า ที่ดวงตาปูดแดง ตาข้างขวาลืมตาได้เล็กน้อย ส่วนตาข้างซ้ายลืมตาไม่ได้ และบริเวณริมฝีปากมีรอยแตก ทำให้พูดไม่ค่อยถนัด
โดยแม่ชีได้พูดคุยกับทีมข่าวเพียงเล็กน้อยว่า มีอาการเจ็บบริเวณดวงตา และปาก ตอนนี้ยังกินข้าวไม่ค่อยได้ ก่อนจะนอนหลับพักผ่อน
จากการสอบถาม น้องสาวของแม่ชี ให้ข้อมูลว่า แม่ชีถูกขโมยเงินจำนวน 4,000 บาท และถูกขโมยโทรศัพท์ 1 เครื่อง 2,000 บาท พร้อมบัตรเอทีเอ็ม บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และบัตรประจำตัวประชาชน
เบื้องต้น ได้รับบาดเจ็บบริเวณใบหน้า ที่ดวงตาบวมแดง กับ ริมฝีปากแตก ขณะนี้ได้ทำการเอกซเรย์สมองแล้ว แต่ยังเดินไปค่อยได้ เพราะมีอาการปวดหัว
ทีมข่าวได้เดินทางมาที่ สำนักสงฆ์ไกลลาศประชาบำรุง หมู่ 8 ต.ห้วยยาง อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ สังเกตว่า ด้านในสำนักสงฆ์ไม่มีใครอยู่ และมีกุฏิตั้งอยู่ประมาณ 3 หลัง ห่างจากถนนทางเข้าสำนักสงฆ์ประมาณ 300 เมตร โดยจุดที่เกิดเหตุ อยู่ที่กุฏิตรงกลาง สังเกตเห็นว่า มีเสื้อผ้าของแม่ชีแขวนอยู่ และด้านในกุฏิถูกล็อกไว้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องทำการพิสูจน์หลักฐานเพิ่มเติม
จากการสอบถาม นางสุชาดา ศรศักดา อายุ 50 ปี ชาวบ้านใกล้ที่เกิดเหตุ เปิดเผยว่า ตนอยู่ที่นี่มา 30 ปี ไม่เคยเจอเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน โดยครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งแรกที่เกิดเหตุรุนแรงขึ้น ทั้งนี้ตนมองว่า คนร้ายอาจจะเตรียมการณ์ไว้ และเห็นว่าแม่ชี เป็นคนต่างถิ่น มาจาก จ.สมุทรปราการ จึงเข้ามาก่อเหตุ ทั้งนี้แม่ชีเพิ่งจะมาอยู่ที่นี่ได้ไม่ถึงปี เพื่อมาดูแลหลวงตา กระทั่งหลวงตาเสียไป แม่ชีจึงอยู่คนเดียว
โดยแม่ชีกับหลวงตาเป็นดีมาก และไม่เคยมีเรื่องกับใครมาก่อน ถ้าเป็นวันพระตนก็เข้าไปใส่บาตรเป็นประจำ และเวลาแม่ชีเดินผ่านบ้าน ก็จะแวะมาทักทายกันตลอด
ทีมข่าวได้เดินทางมาที่ บ้านพักแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ หมู่ 8 ต.ห้วยยาง อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ พบกับน.ส.แดง (นามสมมติ) อายุ 68 ปี แม่ของผู้ต้องสงสัย เปิดใจว่า เมื่อวานนี้ลูกชายออกไปทำสวนยาง และตนก็ไม่ทราบว่าลูกไปไหนอีก จนมาทราบอีกครั้งคือ ลูกชายถูกจับเรื่องยาเสพติด เพราะปัสสาวะมีสีม่วง
ส่วนเรื่องทำร้ายร่างกายแม่ชี ตอนนี้ลูกชายของตนยังไม่ยอมรับผิด และยืนยันว่าไม่ได้ทำ ซึ่งตนไม่รู้ว่าลูกชายทำจริงหรือไม่ ส่วนตัวรักแม่ชีมาก และตนเข้าไปกราบไหว้ตลอด เวลาไปสำนักสงฆ์ลูกชายจะไปส่งตลอด ช่วงที่จัดงานศพหลวงตา ลูกชายของตนก็ยังเข้าไปช่วยจัดงาน ก่อนหน้านี้ลูกชายของตนเคยติดคุกข้อหาฆ่าคนตายมาเกือบ 14 ปีแล้ว และเพิ่งจะออกมาจากคุกได้ไม่นาน ประมาณ 2-3 ปี แต่ลูกชายไม่เคยมีประวัติไปขโมยของมาก่อน และตนไม่ทราบว่า ลูกชายมีปัญหาเรื่องเงินหรือไม่ เพราะลูกชายของตนไม่เคยบ่นเรื่องเงินมาก่อน และตนให้เงินไปทำงานตลอด
ทั้งนี้ตนพยายามบอกกับลูกชายว่า ถ้าทำจริง ให้ยอมรับผิดไป เพราะไม่ว่าลูกจะทำอะไร ในฐานะแม่ ตนก็รักเสมอ อีกทั้งตนยังสั่งสอนลูกตลอดว่า ให้เป็นคนดี เพราะ “ซื่อกินไม่หมด คดกินไม่นาน” อย่างไรก็ตาม ตนมองว่าทำกับแม่ชีขนาดนี้เป็นบาป และจะต้องรับกรรมหนัก ถ้าทำผิดจริงก็แล้วแต่บุญแต่กรรมที่ก่อไว้ และครั้งนี้ตนคงจะหาเงินไปประกันตัวไม่ได้แล้ว
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ห้วยยาง ให้ข้อมูลว่า ขณะนี้มีเพียงนายสงกรานต์ บุญจันทร์ ซึ่งเป็นผู้ต้องสงสัย ได้ถูกจับกุมในข้อหายาเสพติด และกำลังอยู่ในระหว่างการสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อทำการจับกุมผู้ก่อเหตุ และดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
