ไขปริศนาวันชมพู่หาย ถ้าถูกซ่อนในถ้ำพ่อกับลุงยังไม่พ้นข้อสงสัย (คลิป)

11 ส.ค. 63

กรณีข้อสันนิษฐาน อุ้มน้องชมพู่ขึ้นเขา ในวันที่ 11 พ.ค.63 คนร้ายเจอน้องชมพู่ อุ้มขึ้นถ้ำน้ำลอดและทิ้งเด็ก ในวันที่ 12 พ.ค.63 กลับขึ้นเขาและนำน้องชมพู่ไปไว้ด้านบนแล้วกลับ 

328577

คลิกอ่านข่าว "น้องชมพู่" ทั้งหมดที่นี่ 

ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ได้จำลองเเบกกระสอบ น้ำหนัก 12 กิโลกรัม จากไร่มันสำปะหลังของนางจำลอง หลังบ้านน้องชมพู่ไปยังถ้ำน้ำลอด โดยขึ้นทางตรงเป็นเส้นทางที่ชาวบ้านไม่นิยมขึ้น ซึ่งจุดสตาร์ทอยู่กลางไร่มันสำปะหลังของนางจำลอง ห่างจากบ้านชมพู่ 100 เมตร ขึ้นภูทางตรง บริเวณเเท๊งน้ำของหมู่บ้าน พร้อมทั้งจับเวลาการเดิน โดยมีเจ้าหน้าที่อุทยานเเห่งชาติภูผายล คือ นายนภัสสร ตะวันคำ เป็นผู้นำทางให้

โดยตั้งเเต่กลางไร่มันจนถึงตีนภู ทางเดินยังราบเรียบ ผู้สื่อข่าวยังเเบกเดินได้สบาย เมื่อเดินต่อระยะทาง 400 เมตร ทางเป็นเนินสูงชัน 30 องศา สลับโขดหิน มีหญ้าเพ็กขึ้นรกทั่วบริเวณ ผู้สื่อข่าวเกิดอาการหอบ เดินได้ช้าลง เนื่องจากสภาพอากาศวันนี้ร้อนอบอ้าว จึงต้องหยุดพัก 5 นาที

215110

จากนั้นเดินต่อขึ้นไปอีก 50 เมตร ทางสูงชัน 40 องศา เมื่อเดินต่อไปอีก 250 เมตร ก็ถึงพักที่ 1 ทางมีความชัน 50 องศา โขดหินมากขึ้น ผู้สื่อข่าวเกิดอาการหอบ ปวดบ่าเเละปวดเอว จึงนั่งพัก 5 นาที จากนั้นเดินต่ออีก 400 เมตร ก็ถึงถ้ำน้ำลอด สภาพส่วนใหญ่เป็นพื้นราบ ไม่สูงชัน ผู้สื่อข่าวสามารถเดินได้ต่อเนื่องจากพักที่ 1 จนถึงถ้ำ

สรุปการจำลองเดินขึ้น ระยะทางจากจุดสตาร์ทไปถ้ำน้ำลอด 1,100 เมตร ทีมข่าวใช้เวลาเดิน 15 นาที มีการพัก 2 ครั้ง ครั้งละ 5 นาที รวมระยะเวลาทั้งสิ้น 25 นาที

163978

จากนั้นผู้สื่อข่าวได้จับเวลาขาลง โดยกึ่งเดินสลับวิ่ง เส้นทางด้านหลังโรงเรียนกกกอก สภาพพื้นที่มีหญ้าเพ็กขึ้นรกทั่วบริเวณ ทางค่อนข้างสูงชันกว่า ง่ายสำหรับการลง เเต่ยากสำหรับการขึ้น ระยะทางจากถ้ำน้ำลอดถึงโรงเรียนกกกอก 1 กิโลเมตร ทีมข่าวใช้เวลาเดิน 8 นาที

อย่างไรก็ตาม ช่วงเดือนพฤษภาคม ที่น้องชมพู่หายตัวไป ขณะนั้นเส้นทางหลังโรงเรียนค่อนข้างเตียนโล่ง เนื่องจากเพิ่งเกิดไฟป่า เเต่ปัจจุบันเป็นฤดูฝน หญ้าจะขึ้นรก ไม่สามามารถวิ่งต่อเนื่องได้ เมื่อเจอพื้นที่รกจะต้องเปลี่ยนเป็นการเดิน

720698

คาดการณ์เวลาซ่อนคนที่ถ้ำน้ำลอด เวลาน้องชมพู่หาย 09.11 น. เวลาขึ้นถ้ำน้ำลอด 15 นาที ลงจากถ้ำ 8 นาที รวม 23 นาที คาดการณ์เวลากลับบ้าน 09.34 น. 

ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ได้พูดคุยกับนายสหรัฐ ยาสาไชย หรือช่างเล็ก ช่างซ่อมรถประจำหมู่บ้านกกกอก พยานที่เห็นพ่อน้องอาชิในวันที่ 11 พ.ค.63 เเละร่วมตามหาน้องชมพู่กับพ่อน้องอาชิ ในวันที่ 12, 13 เเละ 14 พ.ค.63

941761

ช่างเล็ก เปิดเผยว่า วันที่ 11 พ.ค.63 ตนเห็นพ่อน้องอาชิ 2 ครั้ง โดยวันดังกล่าวตนขี่รถจักรยานยนต์พ่วงข้างออกจากบ้านช่วงสาย เพื่อไปยังสวนปาล์ม ระหว่างทางขับผ่านสวนยางพาราของพ่อน้องอาชิ ตนเห็นพ่อน้องอาชิกำลังทำหลังคาเล้าไก่อยู่ ก็ได้มีการจอดรถทักทายกันสั้น ๆ

หลังจากนั้นช่วงบ่าย ตนขับรถกลับบ้านที่ปากซอย 2 เมื่อถึงหน้าบ้าน จังหวะนั้นพ่อน้องอาชิขี่จักรยานยนต์สวนมา แล้วได้จอดคุยกัน ตนก็ถามว่าไปไหน พ่อน้องอาชิก็ตอบว่า "ตามหาน้องชมพู่" ซึ่งตอนนั้นตนไม่ค่อยได้สนใจ คิดว่าเด็กคงไปไหนไม่ไกล หลังจากพูดคุยกันเสร็จพ่อน้องอาชิก็ขี่รถจักรยานยนต์ เข้าซอย 2 ไปทางตีนภู

จากนั้นวันที่ 12 พ.ค.63 ช่วงสาย ตนนั่งพูดคุยกับวัยรุ่นบ้านกกตูม 7-8 คน อยู่ที่บ้าน เห็นพ่อน้องอาชิขี่รถจักรยานยนต์ตามหาชมพู่ผ่านหน้าบ้าน ก็มีการตะโกนทักทายกัน เเต่ไม่ทราบว่าไปหาเส้นทางไหน จนกระทั่งช่วงบ่ายได้ยินชาวบ้านพูดต่อ ๆ กันมา ว่ามีร่างทรงเเนะนำให้ไปหาเเถว ๆ โรงเรียนกกกอก ตนพร้อมกับชาวบ้านอีกหลายคน จึงขี่รถจักรยานยนต์ไปที่โรงเรียน ซึ่งพ่อน้องอาชิก็ขี่รถจักรยานยนต์อีกคันไปด้วยกัน แล้วจอดรถอยู่ที่บ้านพักครู ซึ่งตนสังเกตเห็นว่าที่ชั้น 2 ของบ้านพักครู มีหน้าต่างบานหนึ่งเปิดอยู่ ตอนนั้นเดาว่าหรือคนร้ายจะนำน้องชมพู่มาซ่อน จึงปีนขึ้นไปดูแต่ก็ไม่พบ

จากนั้นตนกับพ่อน้องอาชิ ได้ไปตามหาด้วยกัน 2 คน โดยนำรถจักรยานยนต์พ่วงข้างไปคันเดียว ตนเป็นคนขับ ส่วนพ่อน้องอาชินั่งไปด้วย เส้นทางที่ค้นหาคือทางห้วยปลากั้ง ผ่านทางเข้าวัดภูผาเเอก ซึ่งระหว่างทางมีการค้นหาตามเถียงนาของชาวบ้าน เเต่ก็ไม่พบจึงกลับบ้าน

ช่างเล็ก ยังกล่าวอีกว่า ตนไม่เชื่อว่าพ่อน้องอาชิ จะเกี่ยวข้องกับคดีชมพู่ เพราะเห็นกันมาตั้งเเต่เกิด พ่ออาชิเป็นคนดี อีกทั้งช่วงที่ตามหาชมพู่ ก็เห็นกันตลอด ไม่มีท่าทีเเปลก ๆ เเต่อย่างใด ตนมั่นใจในความบริสุทธิ์ เเละกล้าเอาหัวเป็นประกัน

397733

ไขปริศนา เวลา 09.34 น. ใครอยู่ไหน โดยนายอนามัย อยู่ที่นา ซึ่งนายธนกฤตอ้างว่าพบนายอนามัยอยู่บนถนนบ้านกกกอก ส่วนแม่สาวิตรี อยู่ที่สวนยางพารา ขณะที่ลุงพล อยู่ที่บ้าน ส่วนนายตั้ม อยู่ที่สวนยางพารา และไม่มีพยาน

746414

ไขปริศนา วันที่ 12 พ.ค.63 ใครอยู่ไหน โดยพ่อแม่น้องชมพู่ ค้นหาลูก ช่วงเช้าไม่มีพยาน แต่ช่วงเที่ยงมีพยาน ด้านลุงพล ค้นหาน้องชมพู่ มีพยาน และนายตั้ม ค้นหาน้องชมพู่ มีพยาน 

586070

ทดสอบเส้นทางลงเขาถึงโรงเรียนกกกอก ในวันที่ 12 พ.ค.63 ระยะทาง 2 กิโลเมตร ห่างจากจุดพบศพน้องชมพู่ ซึ่งจะต้องใช้เวลาประมาณ 20 นาที 

584767

รวมเวลาการอุ้มขึ้น-ลงเขา ในวันที่ 12 พ.ค.63 เวลาขึ้นไปจุดพบศพ 35 นาที ลงเขาอีก 20 นาที รวมเวลาทั้งสิ้นประมาณ 55 นาที 

319414

ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ได้พูดคุยกับ นายพูล ชัยมะโย ชาวบ้านกกกอก ผู้ชำนาญเส้นทางภูเหล็กไฟ เเละเป็นคนที่ตามหาน้องชมพู่ใกล้ถ้ำน้ำลอดมากที่สุด โดยลุงพูล เล่าว่า วันที่ 11 พ.ค.63 ที่ผ่านมา ช่วงสายขณะที่ตนนั่งอยู่ใต้ถุนบ้านนางจำลอง เห็นน้องสะดิ้งเดินไปเดินมา ตอนนั้นยังไม่ทราบว่าเดินหาอะไร จึงไม่ได้สนใจมอง กระทั่งผ่านไปสักพัก เห็นพ่อน้องชมพู่ขับรถไถกลับมาบ้าน ตนจึงเดินไปหา ก็ทราบว่าน้องชมพู่หายไป จึงเริ่มเดินหาตามไร่มันสำปะหลัง สวนยาง เเละตีนภู เเต่ไม่ได้ขึ้นภู ซึ่งตนช่วยหาจนถึงเวลา 01.00 น. 

จากนั้นวันที่ 12 พ.ค.63 ช่วงสาย เวลาประมาณ 08.00 น. เริ่มตามหาตีนภูก่อน เเล้วกลับบ้านมากินข้าว จากนั้นช่วงบ่าย ได้ขึ้นไปตามหาบนภูเหล็กไฟ โดยขึ้นทางตรงหลังเเท๊งน้ำ ขึ้นไปจนถึงพักเเรกก็เดินอ้อมทางด้านซ้าย เพื่อลงเส้นทางหลังโรงเรียน ระหว่างทางได้เดินผ่านถ้ำน้ำลอด ในระยะห่างประมาณ 30 เมตร เเต่ไม่ได้ยินเสียงเด็กร้อง เเละไม่พบสิ่งผิดปกติเเต่อย่างใด ซึ่งตนก็ไม่ได้สนใจถ้ำเท่าไหร่นัก เนื่องจากตอนนั้นยังไม่ทราบว่าเด็กถูกอุ้ม คิดว่าคงหลงป่าธรรมดา จึงเดินผ่านไป

ส่วนถ้ำน้ำลอด ตนเคยเดินผ่านหลายครั้งเวลาไปหาของป่า เเต่เคยลงไปด้านล่างถ้ำเเค่ครั้งเดียว โดยตอนนั้นลงไปจับเขียด ซึ่งหากถามว่าช่วงหน้าเเล้ง ด้านล่างถ้ำจะมีน้ำหรือไม่ มีเป็นบางปี เพราะหากปีไหนเเล้งจัดน้ำก็อาจเเห้งได้ เเต่ปีนี้ไม่ทราบว่ามีน้ำหรือไม่ เพราะยังไม่ได้ลง

ส่วนกรณีสมมุติฐานของลุงคล้าย นายพราน ที่คาดการณ์ว่าเด็กอาจถูกซ่อนในถ้ำ จะมีความเป็นไปได้หรือไม่นั้น ตนไม่สามารถตอบได้ เพราะไม่ทราบว่าตอนนั้นความคิดคนร้ายเป็นอย่างไร เเต่ตนไม่เชื่อว่าเด็กจะเดินขึ้นเองได้ เชื่อว่าต้องมีคนพาขึ้น ส่วนเรื่องทางลง ช่วงเวลาขณะนั้นเพิ่งเกิดไฟป่า พื้นที่ค่อนข้างโล่งเตียน สามารถลงได้หลายทิศทาง รวมถึงเส้นทางหลังโรงเรียนก็เป็นไปได้ เพราะลับตาคน

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส