หนุ่ม FC แม่ชมพู่เคลียร์ใจซึ่งหน้า ปัดอมเงินบริจาค แม่วอนหยุดทำร้ายใจกันอีก (คลิป)

13 ส.ค. 63

เมื่อวันที่ 12 ส.ค.63 นางสาวิตรี วงศ์ศรีชา แม่ของน้องชมพู่ ให้ข้อมูลว่า สำหรับการเตรียมพร้อมทำบุญ 100 วันให้น้องชมพู่ ตอนนี้ได้จ้างช่างมาก่ออิฐที่ริมระเบียงบ้าน และตีระแนงไม้กั้นเพื่อกันแดดส่อง ส่วนสถานที่นั่งของพระและโต๊ะหมู่บูชา ก็จะใช้ลานปูนหน้าบ้านให้พระนั่ง โดยน่าจะจัดพระนั่งสวดเป็น 2 แถว เพราะพื้นที่อาจจะไม่พอ และจะตั้งโต๊ะหมู่ไว้ที่หัวแถว

คลิกอ่านข่าว "น้องชมพู่" ทั้งหมดที่นี่ 

585637851177390331

สำหรับวัตถุดิบอาหาร จะเริ่มซื้อในวันที่ 18 ส.ค.63 ที่จะถึงนี้ ส่วนพระสงฆ์จะนิมนต์ใกล้ถึงวันทำบุญ โดยเป็นพระจากวัดหมู่บ้านกกกอก 7 รูป และนิมนต์พระจากหมู่บ้านกกตูม 2 รูป รวมเป็น 9 รูป ส่วนโกศกระดูกน้องชมพู่ ยังไม่รู้ว่าจะนำโกศออกมาทำความสะอาดหรือไม่ ขอปรึกษาพระอธิการบุญมาก่อน

333960

บรรยากาศที่บ้านน้องชมพู่ โดยวันนี้ได้มีคนมาให้กำลังใจ ผูกฝ้ายเรียกขวัญทั้งพ่อแม่ของน้องชมพู่ รวมถึงนำเสื้อผ้าเด็ก ชุดเดรสสีขาว และสีชมพู อย่างละ 1 ตัว มามอบให้ครอบครัวเพื่อให้ทำไปทำบุญ ซึ่งบรรยากาศเต็มไปด้วยรอยยิ้ม รวมถึงร่วมถ่ายรูปกับครอบครัวของน้องชมพู่ ซึ่งวันนี้มีชาวบ้านที่เดินทางมาให้กำลังใจพ่อแม่ตลอดทั้งวันนับร้อยคน ทำให้พ่อแม่ต้องปูเสื่อที่ลานหินหน้าบ้านเพื่อต้อนรับแขก

527122

โดยวันนี้ ทางครอบครัวได้สั่งทราย ก้อนหิน ปูน 5 กระสอบ และก้อนอิฐ 200 ก้อน มาตั้งไว้ข้างบ้านเพื่อที่จะต่อเติมบ้านบริเวณหน้าบ้านกั้นให้เป็นสัดส่วน

773551

นางสมพร หลาบโพธิ์ ป้าของชมพู่ กล่าวว่า ตนได้ปรึกษากับลุงพลแล้ว ซึ่งระบุว่าหากตนไม่สบาย หรือไปแล้วทำให้น้องไม่สบายใจ ตนก็คิดว่าจะยังไม่เข้าไปร่วมงานทำบุญ 100 วันของน้องชมพู่ โดยน่าจะเลือกไปทำบุญที่อื่น เนื่องจากคิดว่าน่าจะสบายใจ ส่วนเรื่องร่วมทำบุญคงไม่ได้นำไปร่วมด้วย หากไม่ได้ไปร่วมงานบุญครั้งนี้

609358

เมื่อวันที่ 12 ส.ค.63 แฟนเพจเฟซบุ๊ก "อย่าหาทำ" แชร์เรื่องราวว่ามีชายรายหนึ่งเปิดรับบริจาคเงินเข้าบัญชีตัวเอง โดยอ้างว่าจะนำไปทำบุญบริจาคให้ครอบครัวน้องชมพู่ โดยมีการโพสต์ตั้งแต่เมื่อวันที่ 11 ส.ค.63 ที่ผ่านมา แต่ล่าสุดได้ลบโพสต์ดังกล่าวออกไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งนายธีร์ คือคนที่เคยนำกรอบรูปให้กำลังใจให้กับครอบครัวน้องชมพู่ เมื่อวันที่ 10 ส.ค.63 ที่ผ่านมา

656715

ทีมข่าวจึงโทรศัพท์ติดต่อไปหา นายธีร์ ผู้เปิดรับบริจาค ขณะเดียวกันก็มีแม่ของน้องชมพู่นั่งรับฟังอยู่ด้วย โดยนายธีร์ เปิดเผยว่า ตนไม่ได้ตั้งใจเปิดรับบริจาคตั้งแต่แรก เพียงแต่คนในกลุ่มที่สนับสนุนแม่น้องชมพู่ รู้ว่าตนจะมาร่วมงานทำบุญร้อยวัน คนที่มีจิตศรัทธา จึงจะฝากเงินร่วมทำบุญ โดยระหว่างที่ได้รับบริจาค ตนก็มีการคอมเมนต์อัปเดตให้ผู้บริจาครู้ตลอดว่า มียอดเงินเท่าไร ซึ่งตนก็รู้สึกตกใจที่ถูกเพจดังกล่าวนำไปโพสต์โจมตี

file329585

นายธีร์ กล่าวต่อว่า วันนี้ตนได้ไปปิดบัญชีรับบริจาคที่ธนาคาร เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ โดยได้ยอดเงินประมาณ 5,000-6,000 บาท แต่ตอนนี้ยังไม่สะดวกที่จะแสดงรายละเอียด ต้องรอพรุ่งนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้ยอมรับว่าไม่ได้ปรึกษาครอบครัวน้องชมพู่ว่าจะมีการรับบริจาค เพราะตนคิดว่าตนจะไปเยี่ยมคนที่เรารัก ซึ่งก็เหมือนคนอื่น ๆ ฝากเงินมากับตนเท่านั้น ซึ่งตนก็จะนำเงินนี้ไปร่วมทำบุญให้กับครอบครัวน้องชมพู่

706125395866

นายธีร์ ยังบอกอีกว่า หลังจากเกิดเรื่องตนก็ยังไม่ได้โทรพูดคุยกับแม่ชมพู่ ส่วนวันที่ตนไปเยี่ยมแม่ชมพู่ที่บ้านนั้น เพื่อนของตนก็เป็นคนโทรประสาน ตนไม่ได้โทรด้วยตัวเอง ซึ่งถ้าหากใครต้องการให้ตนโอนคืนก็ยินดี แต่จริง ๆ แล้วตนอยากจะนำไปทำบุญมากกว่า อย่างไรก็ตาม ตนไม่ได้ขอเลขบัญชีของแม่ชมพู่ เพราะตนติดต่อแม่ชมพู่ไม่ได้ ไม่มีช่องทางการติดต่อ ซึ่งตนตั้งใจทำให้ครอบครัวน้องชมพู่ในใจจริง แต่เมื่อมาถูกทำแบบนี้ก็เสียใจ

ล่าสุดแม่ของน้องชมพู่ ได้เดินทางไป สภ.กกตูม เพื่อลงบันทึกประจำวันว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการรับบริจาคเงินครั้งนี้ โดยได้นำรูปโพสต์ของเพจ "อย่าหาทำ" เข้าลงบันทึกประจำวัน

802208

นางสาวิตรี วงศ์ศรีชา แม่ของน้องชมพู่ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ตนเคยให้เลขบัญชีกับคนอื่นไปช่วงที่น้องชมพู่หายแรก ๆ และเป็นช่วงตั้งศพน้องชมพู่ เพราะตอนนั้นเขาต้องการทำบุญ ส่วนกลุ่มรักสาวิตรี ที่สนับสนุนตนนั้น ตนไม่เคยให้เลขบัญชีกับกลุ่มนี้ไปเลย ซึ่งวันนี้ตอนเที่ยง มีสายจากกลุ่มนี้โทรมา แต่ตนก็ไม่ได้รับสาย ซึ่งตนคิดจะรับเงินบริจาค แม้แต่อาจารย์เอก ฝ่ามือพลังจิต ขอเลขบัญชีจากตน ๆ ก็ยังไม่ให้เลย

298402643784859646

ทั้งนี้ตนไม่ได้อยากได้รับเงินบริจาคและฝากถึงคนที่หวังดี ตนเข้าใจถึงความตั้งใจและความบริสุทธิ์ใจของพวกเขา แต่ตนไม่อยากให้ทำแบบนี้ เพราะตัวเขาและตนก็จะลำบาก เพราะคนที่มองไม่ดีมันมีเยอะ กระแสสังคมที่จะตีกลับก็มี เพราะจะเป็นการทำร้ายตนโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งตนเสียลูกไปแล้ว ตกเป็นผู้เสียหายก็ไม่อยากจะได้รับปัญหามาเพิ่ม ไม่อยากให้มองว่าเอาลูกมาหากิน

อย่างไรก็ตาม เรื่องความช่วยเหลือตนก็อยากได้รับ แต่ต้องมองถึงความเดือดร้อนที่จะตามมาด้วยจึงอยากบอกว่า "อย่าเปิดรับบริจาคเพื่อสาวิตรีและครอบครัวอีกเลย"

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส