"การบินไทย" เผยผลประกอบการ ครึ่งปีแรกขาดทุนยับ 2.8 หมื่นล้านบาท ขณะที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ สั่งห้ามซื้อขายหุ้น “การบินไทย-นกแอร์” ชั่วคราว 14-17 ส.ค.นี้
นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร รักษาการแทนกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงผลประกอบการในครึ่งปีแรกปี 2563 โดยไตรมาสที่ 1 มีรายได้รวมทั้งสิ้น 38,001 ล้านบาท ต่ำกว่าไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 11,790 ล้านบาท หรือ 23.7% สาเหตุสำคัญเนื่องจากรายได้จากการขนส่งผู้โดยสารและสินค้าลดลง ทำให้ขาดทุนสุทธิ 22,676 ล้านบาท
สำหรับไตรมาส 2 ขาดทุนสุทธิ 5,353 ล้านบาท เนื่องจากยังได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ทำให้ต้องยกเลิกเที่ยวบินทั้งหมด เนื่องจากคำสั่งห้ามขนส่งผู้โดยสารทำการบินเข้าสู่ประเทศไทยเป็นการชั่วคราว
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ศาลล้มละลายรับฟื้นฟู "การบินไทย" พักชําระหนี้
- "การบินไทย" ประกาศลดเงินเดือนพนักงาน ต่ออีก 3 เดือน
- "นกแอร์" ยื่นศาลล้มละลาย ขอฟื้นฟูกิจการตามรอย "การบินไทย"
ขณะเดียวกันวันนี้ (14 ส.ค.) ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) สั่งห้ามซื้อขายหุ้น บมจ.การบินไทย (THAI) โดยให้ขึ้นเครื่องหมาย SP (ห้ามซื้อขายหลักทรัพย์จดทะเบียนเป็นการชั่วคราว) และขึ้นเครื่องหมาย NP (บริษัทจดทะเบียนมีข้อมูลที่ต้องรายงานและตลาดหลักทรัพย์อยู่ระหว่างรอข้อมูลจากบริษัท) ในระหว่างวันที่ 14-17 สิงหาคม 2563 เหตุผู้สอบบัญชีไม่ให้ข้อสรุปต่องบการเงินของบริษัทสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2563 และวันที่ 30 มิถุนายน 2563
นอกจากนี้ หุ้นของ บมจ.สายการบินนกแอร์ (NOK) ยังถูก ตลท.ขึ้นเครื่องหมาย SP และเครื่องหมาย NP ในระหว่างวันที่ 14-17 สิงหาคม 2563 เช่นเดียวกัน เหตุจากผู้สอบบัญชีไม่ให้ข้อสรุปต่องบการเงินของบริษัทสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2563 ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) อาจสั่งการให้บริษัทแก้ไขงบการเงินได้
