จ่อลงดาบพระนอนกรงหมา คนร้องสุดทนเปิดเพลงวนเช้ายันดึก พบสลับลำโพงโชว์สื่อ (คลิป)

กรณีที่วัดโคศุภราช หรือวัดคลองวัว ต.คลองวัว อ.เมือง จ.อ่างทอง พระครูปลัดวิชาญ คำภีรปัญโญ เจ้าอาวาสวัดโคศุภราช ได้ขังตัวเองไว้ในกรงสุนัขบริเวณข้างพระอุโบสถภายในในวัดดังกล่าว เพื่อเรียกร้องขอตวามเป็นธรรม โดยอ้างว่าถูกกพระสังฆาธิการส่งคาดโทษเป็นเวลา 3 ปี

ทั้งนี้สาเหตุสืบเนื่องจาก พระครูปลัดวิชาญ ถูกร้องเรียนว่าเปิดบทสวดเสียงดังรบกวนชาวบ้าน โดยเมื่อเดินทางไปถึงพบชาวบ้านหลายสิบคน กำลังนั่งล้อมรอบกรงสุนัขที่เจ้าอาวาสเข้าไปนั่งอยู่ด้านใน และพุดคุยอยู่กับชาวบ้าน ขณะที่บางรายถึงกับน้ำตาไหลขอร้องให้ท่านเจ้าอาวาส ออกมาอยู่ด้านนอก แต่ทางเจ้าอาวาสก็ยังไม่ยอมออกมา ทำให้ชาวบ้านต้องนั่งอยู่เป็นเพื่อนที่บริเวณดังกล่าว

ล่าสุดวันที่ 14 ส.ค.63 ทีมข่าวอมรินทร์ เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุบริเวณ วัดโคศุภราช ม.3 ต.คลองวัว อ.เมือง จ.อ่างทอง เมื่อไปถึงพบว่า เจ้าอาวาสวัดดังกล่าว ได้นั่งอยู่ในกรงสุนัขตามที่เป็นกระแสข่าวจริง โดยมีชาวบ้านกว่า 20 คน ได้ต่างมาให้กำลังใจเจ้าอาวาส

ทีมข่าวได้พูดคุยกับ พระครูปลัดวิชาญ คมภีรปญโญ เจ้าอาวาสวัดโคศุภราช เปิดเผยว่า อาตมาอยากขอความเป็นธรรมกับเจ้าหน้าที่รัฐ โดยมีคนแอบอ้างว่าเป็นประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน นำเรื่องร้องเรียน กล่าวหาว่าอาตมาเปิดเครื่องเสียงรบกวนชาวบ้าน มีการร้องเรียนมาแล้วถึง 4 ครั้ง และทางคณะสงฆ์ได้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ โดยได้ลงมติว่า อาตมากระทำความผิดมาหลายครั้ง 

ทั้งนี้จึงมีความเห็นสรุปว่า อาตมาละเมิดจริยาพระสังฆาธิการ โดยมีการลงโทษตำหนิโทษ 3 ปี ถ้าภายในระยะเวลา 3 ปี มีอธิกรณ์เกิดขึ้นจะต้องโทษปลดจากเจ้าอาวาส โดยใช้กฎหมายสาธารณสุข พ.ศ.2535 หมวด 5 เหตุรำคาญ มาตราที่ 25 (4) การกระทำใด ๆ เป็นเหตุให้เกิดกลิ่น แสง รังสี เสียง ความร้อน สิ่งมีพิษ ความสั่นสะเทือน ฝุ่นละออง เขม่าเถ้าหรือกรณีอื่นใด จนเป็นเหตุให้เสื่อมหรือเป็นอันตรายต่อสุขภาพ

โดยในการประชุม ไม่มีการไต่สวนว่าชาวบ้านคนใดได้รับความเดือดร้อน เอกสารที่อ้างอิงในการร้องเรียนมีข้อมูลที่ถูกต้องหรือไม่ โดยในวันตัดสินได้มีชาวบ้าน ประมาณ 50 คนซึ่งเป็นชาวบ้านที่พักอาศัยอยู่บริเวณโดยรอบวัด เดินทางไปร่วมรับฟังด้วย แต่ไม่มีการซักถามชาวบ้าน และมีการอ้างว่ามีการลงรายชื่อของชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน จึงอยากทราบที่มาที่ไปและแสดงตัวตนของผู้ร้องเรียน แต่ก็ไม่สามารถเปิดเผยรายชื่อผู้ที่มาร้องเรียนได้ อาตมาจึงอยากขอความเป็นธรรม ให้มีการตัดสินอย่างรอบคอบ

นอกจากนี้ผู้ร้องเรียน มีการระบุในคำร้องขอให้เจ้าหน้าที่ของรัฐปิดบังชื่อ ไม่ให้เปิดเผยว่าใครเป็นผู้ร้องเรียน ที่ผ่านมา อาตมาไม่เคยสร้างความเดือดร้อน ให้กับชาวบ้าน อาตมาบวชเรียน 28 พรรษา เป็นเจ้าอาวาสอยู่ที่วัด โคศุภราช 16 พรรษา ปฏิบัติตนตามหน้าที่ของเจ้าอาวาสมาโดยตลอด ไม่เคยมีปัญหาอะไร ส่วนปมเหตุที่เกิดขึ้นคาดว่า น่าจะเกิดจากเรื่องบุคคลกลุ่มหนึ่งอยากได้ผลประโยชน์จากทางวัด ที่ต้องการอยากให้อาตมาถูกปลดจากการเป็นเจ้าอาวาส เพื่อจะได้เข้ามาจัดการได้เต็มที่

อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุอาตมาจะอยู่แบบนี้ ฉันข้าวและจำวัดในกรงสุนัข โดยช่วงเช้าจะออกบิณฑบาตปกติเหมือนเดิม ส่วนในเรื่องที่เปิดเครื่องเสียง อาตมาเปิดเกี่ยวกับบทสวดต่าง ๆ ไม่เคยเปิดเสียงดังรบกวนใคร เนื่องจากเสียงบทสวดที่เปิด มีค่าความดังเสียงไม่เกิน 50-60 เดซิเบล จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ของรัฐช่วยเหลือ ทบทวนการตัดสิน มีการไต่สวนให้รอบคอบ และหาความกระจ่าง ความชัดเจน ความถูกต้องในเรื่องดังกล่าว 

หลังจากนั้นทีมข่าว ได้ขอให้พระลูกวัด ช่วยทดสอบการเปิดลำโพง ฟังเสียงบดสวดดังกล่าว เพื่อวัดค่าความดังเสียงว่า เกินกว่าระดับ 95 เดซิเบลตามที่กฎหมายกำหนดจริงหรือไม่

ทีมข่าวได้ลองการวัดค่าความดังเสียง จำนวน 3 ระยะห่าง ซึ่งค่าที่วัดได้ไม่เกิน 95 เดซิเบล

1 ระยะ 20 เมตร : ค่าที่ได้ 69 DB
2 ระยะ 50 เมตร : ค่าที่ได้ 40-50 DB
3 ระยะ 100 เมตร ค่าที่ได้ 30-40 DB

หลังจากนั้นทีมข่าวได้พูดคุยกับ นายสมพงษ์ (นามสมมุติ) ชาวบ้านหมู่ 3 คนหนึ่ง ที่ออกมายอมรับว่า เป็นผู้ร้องเรียนไปที่นายอำเภอเมืองอ่างทอง กรณีที่พระครูปลัดวิชาญ เปิดเครื่องขยายเสียงเสียงดัง ทั้งนี้การใช้เครื่องขยายเสียงของวัดนั้น ก็ไม่ได้สร้างความเดือดร้อน หรือก่อให้เกิดความรำคาญอะไร หากเปิด-ปิดเป็นเวลา แต่หลวงพ่อเปิดตั้งแต่ตี 5 เปิดบทสวดมนต์, คาถามหารวยวนไปวนมาทั้งวัน โดยจะปิดอีกทีก็เวลา 20.00 - 21.00 น. เป็นแบบนี้ทุกวัน จนตนทนไม่ได้ จึงตัดสินใจไปร้องเรียนที่อำเภอเมื่อช่วงกลางปี 2562

หลังการร้องเรียนเกิดขึ้น หลวงพ่อวิชาญ ถึงได้ลดระดับเสียงลง โดยใช้ลำโพงขนาดเล็กเปิดให้อยู่ในบริเวณวัดเท่านั้น ซึ่งก่อนที่จะมีการร้องเรียน หลวงพ่อวิชาญได้เปิดผ่านเครื่องขยายเสียงที่เรียกว่า "ฮอน" ขนาดดอกลำโพงประมาณ 14-16 นิ้ว เปิดทั้งหมด 2 ตัว โดยหันลำโพงมาทางทิศตะวันตก เป็นจุดพักอาศัยของบ้านชาวบ้านในเขตหมู่ 3 เต็ม ๆ

ทั้งนี้หากใครอาศัยอยู่ในหมู่บ้านทั้งวัน ก็จะรู้ว่าเสียงดังขนาดไหน โดยที่ผ่านมาตนและชาวบ้านบางส่วนที่ทนไม่ไหว เคยเดินทางไปที่วัด ไปบอกหลงงพ่อให้ช่วยลดเสียงลง ก็มักจะถูกหลวงพ่อต่อว่ากลับมาว่า "ทำไม เสียงพระสวดที่อาตมาเปิด มันดังจนฟังไม่ได้เลยเหรอ" และ "ถ้าไม่ปิด จะเป็นอะไรไหม อาตมาใช้ไฟวัด ไม่ได้ไปขอต่อไฟใครใช้ ทำไมจะเปิดไม่ได้" โดยยืนยันว่า สิ่งที่พูดนั้นเป็นเรื่องจริง ไม่ได้กุเรื่องหรือแต่งเรื่องให้เกิดความแตกแยกในหมู่บ้าน

ประเด็นการเข้าไปในกรงสุนัขนั้น ก็เป็นการกระทำเพื่อเรียกร้องความสนใจ และเรียกคะแนนความสงสารของสังคม แต่หากหลวงพ่อวิชาญ ไม่เปิดบทสวดมนต์เสียงดังจนถูกร้องเรียน เรื่องทั้งหมดก็ไม่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม ตนยืนยันว่าสิ่งที่ตนทำนั้นทำเพื่อส่วนรวมของชาวบ้าน ไม่ใช่มารศาสนา ตนก็เป็นอดีตเด็กวัด กินนอนที่วัดนี้ เป็นลูกศิษย์เข้าอาวาสมาหลายรุ่นแล้ว กระทั่หลวงพ่อวิชาญเข้ามาเป็นเจ้าอาวาส ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป

ด้านพระครูสุทธิกิจจาทร เลขานุการเจ้าคณะจังหวัดอ่างทอง กล่าวว่า เรื่องพระที่เข้าไปอยู่ภายในกรงสุนัขตอนนี้ทางเจ้าคณะทราบเรื่องแล้ว พร้อมได้ทำหนังสือถึงเจ้าคณะอำเภอให้สั่งการถึง พระครูปลัดวิชาญ คมภีรปญโญ ให้เลิกกระทำพฤติกรรมดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม หากพบปัญหาใดไม่ได้รับความยุติธรรม ก็ให้ทำหนังสือยืนตามกฎหมายของสงฆ์ หากยังดื้อดึงไม่ยอมออกมาจากกรงสุนัขดังกล่าว ก็จะลงโทษขั้นเด็ดขาดต่อไป