อุ๊บ วิริยะ ชวนแม่ชมพู่เล่นมิวสิคนาธาน เจ้าตัวบอกปัดไม่เหมาะสม (คลิป)

เมื่อวันที่ 19 ส.ค.63 บรรยากาศงานทำบุญ 100 วันน้องชมพู่ ช่วงเช้าได้มีทนายรัชพล ศิริสาคร และผู้เฒ่าผู้แก่ ชาวบ้านในหมู่บ้านมาร่วมงานนับร้อยคน ส่วนญาติ ๆ ที่มาร่วมงานในวันนี้มีตาชาญ ยายสมควร น้าต่าย น้าเสริม น้าแต น้าฝน และพ่อแม่น้องชมพู่

คลิกอ่านข่าว "น้องชมพู่" ทั้งหมดที่นี่  

ในเวลา 08.00 น. พ่อแม่และชาวบ้านได้นำข้าวเหนียวมาใส่บาตรพระ หลังจากนั้นพระทั้ง 7 รูป ก็ได้เดินทางมาถึงที่บ้าน ซึ่งพระที่มาในวันนี้เป็นพระที่มาจากวัดภูผาแอก 4 รูป และวัดภูหลวง 3 รูป โดยเริ่มทำพิธี ได้สวดบูชาพระรัตนตรัย, อาราธนาศีล 5, และได้ทำพิธีถวายสังฑทาน พร้อมกับอาหารคาวหวานให้พระทั้ง 7 รูป ซึ่งครอบครัวน้องชมพู่ได้ถวายสังฆทานชุดพิเศษที่ทำขึ้นเอง

โดยจะประกอบไปด้วย ชุดเดรสสีชมพู ชุดเดรสสีขาว รองเท้าสีเทาลายการ์ตูน น้ำยาทาเล็บสีชมพู่ และนมเปรี้ยวรสผลไม้รวมอีก 1 แพ็ก ซึ่งเป็นของที่น้องชมพู่ชื่นชอบ บรรยากาศเป็นไปด้วยความเรียบร้อย แม่มีสีหน้าที่ยิ้มแย้มและเข้มแข็งมากขึ้น ซึ่งงานในวันนี้ปราศจากเงาของลุงพลและป้าแต๋น เพราะทั้งคู่มีธุระต้องเดินทางไปกรุงเทพฯ

นอกจากนี้ พ่อของน้องชมพู่ได้จัดสำรับอาหารถวายให้น้องชมพู่ ประกอบด้วย ไก่ทอด พะโล้หมู ขนมจีนน้ำยา แกงเขียวหวาน ลาบหมู ผัดคะน้าหมู ข้าวเหนียว นมเปรี้ยวรสผลไม้รวม นมถั่วเหลือง และน้ำเปล่า โดยปักเทียน 2 เล่มลงในอาหาร หลังจากนั้นก็ทำพิธีกรวดน้ำ โดยพ่อและแม่ได้นำน้ำที่กรวดไปเทบริเวณโคนต้นชมพู่ที่คนที่มาให้กำลังใจนำมาให้

หลังจากที่ อุ๊บ วิริยะ เดินทางถึงท่าอากาศยานสกลนคร เเละกำลังเดินทางไปยังหมู่บ้านกกกอก เพื่อร่วมงานทำบุญร้อยวันน้องชมพู่ โดยระหว่างทางได้พูดคุยกับทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ถึงถึงความตั้งใจที่เดินทางมาร่วมงาน เนื่องจากครั้งที่เเล้วได้มาให้กำลังใจกำลังใจ ทั้งพ่อเเม่น้องชมพู่ เเละให้กำลังใจลุงพลกับป้าเเต๋น รวมถึงไหว้อัฐิน้องชมพู่ ซึ่งตนเหมือนตัวเเทนคนในวงการบันเทิงที่มาให้กำลังใจ เเละได้มีการบอกกับเเม่น้องชมพู่ ว่าในวันทำบุญร้อยวัน จะมาร่วมเป็นเจ้าภาพ วันนี้จึงเดินทางมาตามสัญญาที่เคยให้ไว้ เเละจะมีการมอบเงินช่วยงาน 10,000 บาท ซึ่งตนเดินทางมาด้วยใจ

นอกจากนี้ยังตั้งใจมาขอโทษเเม่น้องชมพู่ เนื่องจากครั้งที่เเล้วมีข้อผิดพลาด หลังจากมีสื่อนำเสนอข่าวว่าตนจะให้เงิน 3 ล้านบาท เป็นค่าลิขสิทธิ์ภาพยนตร์ ทั้งที่ความเป็นจริง เป็นการพูดคุยกันเรื่องเคสอื่น ๆ ที่เคยช่วยเหลือมา เเต่นักขักข่าวบางคนอาจได้ยินไม่ถนัด เเล้วนำไปเขียนบิดเบือนความจริง ซึ่งเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องละเอียดอ่อน เพราะคุณเเม่เป็นผู้สูญเสีย ดังนั้นขอฝากไปถึงนักข่าวบางคนว่า การทำข่าวควรเสนอข้อมูลที่เป็นความจริง หากไม่ชัดเจนก็ให้ถาม เพราะความรีบเร่ง หรือการสะเพร่าอาจทำให้ผู้อื่นได้รับผลกระทบ

ผู้สื่อข่าวถามถึงน้ำหนักทองที่ใส่มา อุ๊บ วิริยะ กล่าวว่า "น้ำหนักก็ใกล้เคียงกับครั้งที่เเล้ว มีเพิ่มเเค่ต่างหู 2 ข้าง ราคารวมกันทั้งสร้อย เเหวน ต่างหู เฉียดล้าน"

อุ๊บ วิริยะ เดินทางร่วมงานทำบุญร้อยวันน้องชมพู่ ซึ่งทันทีเดินทางถึงบ้านน้องชมพู่ มีการนำเงินจำนวน 10,000 บาท ใส่ซองช่วยงานกับครอบครัว โดยมอบให้กับมือคุณเเม่น้องชมพู่ ซึ่งคุณเเม่ก็ทราบซึ้งเเละขอบคุณอุ๊บ วิริยะ จากนั้นอุ๊บมีการกล่าวขอโทษพ่อกับเเม่น้องชมพู่ เนื่องจากครั้งที่เเล้วเกิดการสื่อสารที่ผิดพลาด ทำให้เเม่ถูกสังคมวิพากษ์วิจารณ์

เเม่น้องชมพู่กล่าวว่า "ความจริงเเล้ว พี่อุ๊บไม่ต้องขอโทษก็ได้ เพราะความผิดไม่ได้เกิดจากพี่อุ๊บ ซึ่งวันนั้นเราคุยกันเข้าใจดีว่าไม่มีการเสนอเงิน 3 ล้าน ใด ๆ ทั้งสิ้น เเต่ผิดจากสื่อมวลชน ที่มีการสื่อสารผิด"

นอกจากนี้อุ๊บ วิริยะ ยังกล่าวถึงการทำมิวสิกวีดีโอเพลง ของนาธาน โอมาน ที่มีการร้องไว้ก่อนจะเสียชีวิต ซึ่งเหมาะกับคุณเเม่ เพราะเป็นเพลงเเนวให้กำลังใจ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับน้องชมพู่ ซึ่งหากเรื่องทุกอย่างจบเเล้ว จะมีการทาบทามพ่อกับเเม่น้องชมพู่มาร่วมเล่น เพื่อให้มีรายได้ หรือหากคุณเเม่ไม่พร้อมเล่น ก็อาจเป็นการขออนุญาตใช้รูปภาพ ซึ่งเป็นเรื่องของอนาคต

ด้านคุณเเม่น้องชมพู่ กล่าวว่า "ตอนนี้เเม่ยังไม่ได้คิดเรื่องการเเสดง เเต่ก็ขอขอบคุณพี่อุ๊บที่ให้โอกาสตลอด ตอนนี้เเม่ยังรับปากอะไรไม่ได้"

หลังจากนั้นภายในงานมีพิธีบายศรีสู่ขวัญ โดยเครื่องพิธีประกอบด้วย บายศรี ขันธ์ 5 สายสิญจน์ ไข่ต้ม เเละข้าวเหนียว โดยข้าวเหนียว มีความหมายถึงความกลมเกลียว ส่วนไข่ต้ม มีความหมายให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน สวยงามเหมือนกับไข่ที่ปอก

โดยผู้เฒ่าผู้เเก่ในหมู่บ้าน รวมถึงตาชาญ ยายสมควร เเละเเขกผู้มาร่วมงาน ได้ผูกข้อไม้ข้อมือพ่อเเม่น้องชมพู่ น้องสะดิ้ง พร้อมทั้งมีการอวยพรให้หมดทุกข์หมดโศก ซึ่งอุ๊บ วิริยะ เเละทนายรัชพล ศิริสาคร ก็ร่วมผูกด้วย

ทนายรัชพล ศิริสาคร ได้เดินทางมาร่วมงานทำบุญ 100 วันน้องชมพู่ โดยได้นำเงินมาช่วยเหลือ จำนวน 5 พันบาท และได้นำพระเครื่อง เป็นเหรียญไอ้ไข่ และขุนแผน วัดบึงบา จังหวัดปทุมธานี กว่าร้อยองค์มามอบให้ครอบครัวน้องชมพู่ มอบให้แขกที่มาร่วมงานเป็นที่ระลึก อีกทั้งทนายรัชพล ได้เดินแจกของที่ระลึกให้แขกในงานร่วมกับแม่ของน้องชมพู่ด้วย

ทนายรัชพล เปิดเผยว่า วันนี้ที่มาร่วมงานทำบุญ 100 วันของน้องชมพู่ เพราะรู้สึกสงสารที่น้องเสียชีวิตก่อนวัยอันควร จึงอยากมาร่วมงานทำบุญ รวมถึงรู้สึกเห็นใจแม่ของน้องชมพู่ที่ต้องสูญเสียลูก ตนจึงอยากมาให้กำลังใจ ซึ่งวันนี้ตนได้นำพระกว่าร้อยองค์มาให้แม่น้องชมพู่แจกชาวบ้าน และได้มอบเงินทำบุญช่วยเหลืองานทำบุญร้อยวันอีก 5,000 บาท

ทีมข่าวได้พูดคุยกับนางสาวิตรี วงศ์ศรีชา แม่ของน้องชมพู่ เปิดเผยว่า วันนี้ได้ทำบุญครบ 100 วันให้น้องชมพู่ รู้สึกเหมือนน้องชมพู้ได้อิ่มบุญ ซึ่งวันนี้ได้ทำสังฆทานชุดพิเศษขึ้นมาเป็นชุดเดรสของเด็ก รองเท้า น้ำยาทาเล็บ ถวายให้พระเอาไปแจกจ่ายให้คนอื่น ซึ่งทำแบบนี้เพราะวันทำบุญ 100 วัน เปรียบเสมือนวันสำคัญ จึงอยากให้ลูกได้ใส่เสื้อผ้าสวย ๆ

โดยเสื้อผ้าที่นำมาทำสังฆทานนั้น เป็นเสื้อจากผู้ใจบุญคนหนึ่ง นำบริจาคให้เพื่อที่จะทำบุญให้น้องชมพู่ อย่างไรก็ตาม วันนี้ตนรู้สึกอบอุ่น เพราะชาวบ้านในหมู่บ้านกกกอกมาร่วมงานและมาให้กำลังใจค่อนข้างมาก

สำหรับพี่อุ๊บที่เดินทางมางานทำบุญ 100 วันของน้องชมพู่นั้น ตนก็ยินดีต้อนรับ แต่ส่วนเรื่องหนัง การแสดงเอ็มวีหรืออะไรต่าง ๆ ตนก็ยังไม่ได้ตัดสินใจอะไร ก็อยากขอบคุณพี่อุ๊บที่ยังให้โอกาสตน แต่ยอมรับว่ายังไม่พร้อมและการแสดงเป็นสิ่งที่ตนไม่ได้ถนัด

นายไชย์พล วิภา ลุงของชมพู่ กล่าวว่า ส่วนตัวก็รู้สึกเสียดายที่ไม่ได้ร่วมงานบุญน้องชมพู่ แต่ก็คิดว่าเพื่อความสบายใจ หากครอบครัวไม่มีการพาดพิงถึงญาติกัน ตนคงเข้าไปช่วยเหลือเหมือนเดิม แต่ตอนนี้สถานการณ์ดูห่างเหิน คงทำให้ตนยังไม่ได้เข้าไปร่วม ตนยอมรับว่าการที่ครบ 100 วันน้องชมพู่แล้ว แต่ตนคิดว่ายังหาเสื้อไม่เจอ มันก็ทำให้สถานการณ์ในครอบครัวค่อนข้างอึดอัด ตนไม่ได้กังวลอะไร คิดว่าเจ้าหน้าที่คงทำงานเต็มที่ ส่วนกระแสข่าวเรื่องหมายจับ ตอนนี้ตนยังไม่มี และญาติตนคนไหนก็ยังไม่มีใครหายไป

กรณีแฟนเพจเฟซบุ๊ก "ออยศรีและผองเผือก" ออกมาโพสต์ข้อความตั้งข้อสงสัยในคดีน้องชมพู่ ว่า "เด็กมรณะ 14-5-63 ถ้านับ 100 วันแล้วแต่วิธีนับจะจาก 14 หรือนับ 15 เป็น 1 ก็จะตกประมาณ วันที่ 22-23 สิงหาคม ซึ่งการนับให้วันที่ 19 สิงหาคมเป็นวันทำบุญ 100 วันจะยังไม่ครบตามวันที่มรณะ ขาดอีก 3 วัน แต่ไม่มีใครรู้ว่าน้องตายจริงวันที่เท่าไหร่ นอกจากฆาตกรและคนที่รู้เห็น ทำไมครอบครัวไม่นับวันตามวันที่บนหน้ารูปเป็นวันที่ 1 แต่ครอบครัวอาจจะนับจากวันที่ลูกหายไปเลย เพราะเขาเสียลูกไปจากอกตั้งแต่วันนั้น"

สำหรับการตั้งข้อสังเกตว่าการนับการทำบุญร้อยวันของน้องชมพู่ ไม่ได้นับตั้งแต่วันที่ 14 พ.ค.63 ที่เป็นวันพบศพ แต่นับตั้งแต่วันที่ 11 พ.ค.63 ที่น้องชมพู่หายตัวไป ด้านนางสาวิตรี วงศ์ศรีชา แม่ของน้องชมพู่ ให้ข้อมูลว่า โดยปกติตามประเพณีของชาวภูไทจะไม่มีการทำบุญ 100 วัน แต่จะทำบุญใหญ่หลังจากคนตายประมาณ 3 ปี หรือทำบุญให้เมื่อพร้อม แต่ครั้งนี้ได้ปรึกษาผู้ใหญ่ในหมู่บ้านว่าจะทำบุญให้น้องชมพู่ ซึ่งทุก ๆ คนก็เห็นด้วย โดยตนได้นับ 100 วัน ตามที่นักข่าวนับให้