สาวผ่าตัดเข่าเบี้ยว! เครียดชีวิตเปลี่ยนแฟนทิ้ง

27 ส.ค. 63

สาวร้องขอความเป็นธรรม หลังหมอวินิจฉัยผิด หวิดพิการ แพทย์ผ่าตัดทำเข่าเบี้ยว ขาไม่เท่ากัน ก่อนย้ายรักษา รพ. ใหม่ เปลี่ยนข้อสะโพกเทียม เรียกเงิน 5 ล้าน รพ.เสนอให้ 5 หมื่น ลั่น! ไม่เป็นธรรม เผยเครียดชีวิตเปลี่ยนแฟนทิ้ง ด้าน รพ. เตรียมประชุมภายในถึงกรณีดังกล่าวอีกครั้ง

จากกรณีที่เพจ “อยากดังเดี๋ยวจัดให้ Travel” มีการโพสต์ภาพเอกซเรย์กระดูกสะโพก กระดูกขา และภาพการรักษา ของหญิงสาวรายหนึ่ง ภายหลังจากเกิดอุบัติเหตุหกล้ม ตั้งแต่วันที่ 23 ต.ค. 61 กระทั่งเข้าไปรักษาที่ รพ.แห่งหนึ่งย่านพระราม 2 โดยใช้สิทธิ์ประกันสังคม แต่แพทย์กลับวินิจฉัยผิดพลาด นำไปสู่การรักษาที่ทำให้ขาสั้นลง 2 ซม. และกระดูกสะโพกยุบจากการรักษาไม่ทันท่วงที กระทั่งทำให้เกือบพิการนั้น

1598511734625

ล่าสุดวันนี้ (27 ส.ค.) ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี เดินทางมาพูดคุยกับ นางสาวรมย์นลิน สุนทรเรืองยศ อายุ 38 ปี ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 23 ต.ค. 2561 ตนประสบอุบัติเหตุลื่นล้มทางลาด ก้นกระแทกพื้นอย่างแรง กระทั่งมีอาการปวดที่สะโพก จึงเข้ารักษาตัวที่ รพ.แห่งหนึ่ง ย่านพระราม 2 โดยใช้สิทธิประกันสังคมในการรักษา จากนั้นเมื่อไปรักษาที่ รพ. พบกับแพทย์ทั่วไปไม่ใช่แพทย์เฉพาะทาง มีการเอกซเรย์ แล้วบอกกับตนว่า “ข้อสะโพกกระดูกอักเสบ” จากนั้นแพทย์ให้ทานยาแก้ปวด ต่อมาเมื่อทานยาแก้ปวดได้ 2 วัน ไม่ดีขึ้นจึงตัดสินใจไป รพ. อีกครั้ง แทพย์จึงฉีดยาแก้ปวดให้ แต่อาการไม่ดีขึ้น กระทั่งวันต่อมา จึงไปขอตรวจอีกครั้ง โดยมีแพทย์คนเดิมเป็นผู้ตรวจวินิจฉัย กระทั่งทราบว่า ความเป็นจริงแล้วข้อสะโพกกระดูกร้าวและข้อกระดูกหลุด ก่อนส่งตัวไปรักษากับแพทย์ด้านกระดูกโดยตรง จากนั้นจึงตัดสินใจเซ็นเอกสารยินยอมการรักษาผ่าตัด

1598511718304

จากนั้นเริ่มมีการเตรียมผ่าตัดรักษา งดน้ำ งดอาหาร เข้าผ่าตัดในวันที่ 28 ต.ค. 2561 ใช้เวลาในการผ่าตัดประมาณ 6 ชม. โดยการใช้เหล็กดามกระดูกสะโพกไว้ ใช้ถุงทรายน้ำหนัก 20 กก. มาถ่วงขาไว้ตลอดเวลา 1 เดือนที่มีการพักรักษาที่ รพ. อีกทั้งพบว่าหลังผ่าตัดเกิดอาการเข่าซ้ายเบี้ยว ขาซ้ายผิดรูป เจ็บปวดทรมาน มีการกายภาพบำบัด เนื่องจากไม่สามารถนั่งได้ กระทั่งอาการดีขึ้น แพทย์อนุญาตให้กลับไปพักรักษาตัวที่บ้าน

กระทั่งต่อมาเมื่อเวลาผ่านไป 1 เดือนครึ่ง ตนมีอาการแย่ลง ก้นบวม ขาหนีบบวม ปวดสะโพกจึงกลับไปพบแพทย์กระดูกคนเดิมที่ผ่าตัดให้ ซึ่งแพทย์แจ้งว่า กระดูกสะโพกติด 50% แล้วส่วนที่เหลือต้องใช้เวลาอีก 2 เดือน ดูอาการ

1598511790694

นางสาวรมย์นลิน ผู้เสียหาย เล่าต่อว่า ภายหลังจากรักษาอาการยังไม่ดี ช่วงเดือน ธ.ค. 2561 จึงตัดสินใจทำเรื่องขอเปลี่ยนแปลง รพ.ในสิทธิประกันสังคม ก่อนเข้ารับการตรวจรักษาที่ รพ. แห่งใหม่ จึงทราบว่า กระดูกสะโพกไม่ติด ข้อสะโพกขาดเลือด และขาสั้นลง 2 ซม. ก่อนผ่าตัดรักษารอบที่สอง ที่ รพ. แห่งใหม่ ในวันที่ 12 ม.ค. 2562 ซึ่งแพทย์ผู้รักษามีการผ่าตัดนำข้อสะโพกจริงออก ก่อนใส่ข้อสะโพกเทียมแทน หลังผ่าตัดแล้วเสร็จใช้เวลาฟื้นฟูรักษากว่า 1 ปี และมีการกายภาพจนถึงทุกวันนี้ เนื่องจากแพทย์ให้กายภาพ หวั่นขาและสะโพกเกิดพังผืด ปัจจุบันมีการเดิน ยืน นั่งได้ แต่ยังคงมีอาการปวดตามข้อสะโพกอยู่ อีกทั้งต้องดูแลน้ำหนักและออกกำลังกายเสมอ

ทั้งนี้ เหตุที่ตนออกมาโพสต์เรื่องนี้ เนื่องจากต้องการให้ทาง รพ. แห่งแรกและต้องการให้แพทย์ผู้ตรวจวินิจฉัย และแพทย์ผู้ผ่าตัดดามเหล็ก ออกมาพูดยอมรับความจริง ชดเชยค่าเยียวยาที่ผ่านมาตลอดจน ค่ารักษาในการผ่าตัดครั้งต่อไปๆ เนื่องจากอีก 15 ปี ตนต้องผ่าตัดเปลี่ยน กระดูกสะโพกเทียม ตามอายุของวัสดุ

1598511812494

ซึ่งภายหลังจากรักษา ตนเคยเข้าไปเจรจากับคนไกล่เกลี่ยจาก รพ. ซึ่งในรอบแรกตนเรียกร้องค่าเสียหายจำนวน 5 ล้านบาท เพื่อชดเชยข้อสะโพกที่หายไป แต่ทาง รพ. ไม่ยินยอม และเสนอเงินชดเชยมา 5 หมื่นบาท แต่ตนไม่ยอมรับเพราะมองว่า ไม่คุ้มสำหรับความเสียหายที่เกิดขึ้น หลังจากนั้นก็ยังไม่ได้มีการเจรจาไกล่เกลี่ยกันอีก

อีกทั้งเมื่อต้นปี 2562 ตนยื่นฟ้องศาลจังหวัดนนทบุรี เกี่ยวกับกรณีดังกล่าว เพื่อเอาผิดกับแพทย์ที่รักษาทั้งสองรายใน รพ. แรก และเอาผิดกับประกันสังคม ที่ต้องรับผิดชอบ เพราะเป็นหน่วยงานที่คัดกรอง รพ.มาให้ผู้ประกันตน

ขณะนี้ นางสาวรมย์นลิน ผู้เสียหาย ยอมรับว่าเครียดมาก เพราะชีวิตไม่เหมือนเดิม การใช้ชีวิตไม่เหมือนเดิม แฟนเลิกรา คนเข้ามาในชีวิตก็หนีหายไปหมด เพราะส่วนใหญ่มองตนเป็นภาระ อย่างไรก็ตาม ต้องการให้ รพ. แห่งแรกออกมารับผิดชอบ ชดเชยค่าเสียหาย

1598511770864

ขณะเดียวกัน ด้านของโรงพยาบาลแห่งแรกที่แพทย์มีการวินิจเรื่องอาการ และผ่าตัดรอบแรกด้วยการใช้เหล็กดาม เบื้องต้นวันนี้ ผู้อำนวยการ รพ. ติดภารกิจ จึงยังไม่สามารถตอบข้อเท็จจริงส่วนนี้ได้ ซึ่งหลังจากนี้ ทาง รพ. จะมีการตรวจสอบข้อเท็จจริง ทั้งการรักษาและกระบวนการรักษา หรือการเยียวยาอีกครั้ง ส่วนจะมีการไกล่เกลี่ยกับคนไข้ หรือไม่นั้น ต้องรอปรึกษาประชุมภายในอีกครั้งก่อน ทั้งนี้ในเรื่องของการฟ้องศาล ก็ต้องปล่อยให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย และคุยกันในชั้นศาลต่อไป

advertisement

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ