บริษัทพร้อมเยียวยา 3 คนงานตายคาบ่อเกรอะ พี่สาวติดใจศพถูกไฟช็อต ไม่ใช่เพราะแก๊ส (คลิป)

30 ส.ค. 63

กรณีตำรวจ สภ.คูบางหลวง ได้รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตและสูญหาย อยู่ภายในบ่อเกรอะของบริษัทเอกชนรายใหญ่ ถนนปทุมธานี-ลาดหลุมแก้ว ตำบลคูขวาง อำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี ที่เกิดเหตุเป็นบริษัทเอกชนขนาดใหญ่ เจ้าหน้าที่กู้ภัยที่เข้าไปตรวจสอบหลังได้รับแจ้งพบว่า จุดเกิดเหตุเป็นบ่อเกรอะซีเมนต์ความกว้างประมาณ 3 เมตร ยาว 3 เมตร และลึก 3 เมตร ใกล้เคียงบ่อเกรอะมีรถดูดสิ่งปฏิกูลจอดอยู่

433402

โดยมีการลากสายดูดสิ่งปฏิกูลลงจากรถไปถึงบ่อ มีคนงานได้เข้ามาดูดสิ่งปฏิกูลภายในบ่อเกรอะเสียชีวิต 3 ราย ทราบชื่อผู้ตายดังนี้ นายบุญส่ง อินสระ อายุ 35 ปี ชาวจังหวัดลพบุรี นายโอ๊ต (ยังไม่ทราบชื่อจริง) อายุ 16 ปี และนายตังกุย อายุ 15 ปี ทั้งหมดเป็นพนักงานของบริษัทเอกชน รับดูดสิ่งปฏิกูล

301252

ล่าสุดวันที่ 30 ส.ค.63 เวลาประมาณ 16.30 น. ทีมข่าวเดินทางไปที่เกิดเหตุ พบว่าตำรวจและรปภ.บริษัทเอกชน ได้เข้ามากันพื้นที่ สังเกตว่ามีเจ้าหน้าที่รถกู้ชีพกำลังลงไปในบ่อเกรอะเพื่อเคลื่อนย้ายร่างผู้ตายทั้ง 3 ขึ้นมา จากนั้นจะนำร่างส่งตรวจที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ศูนย์รังสิต ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี

535590

จากนั้น ทีมข่าวได้เดินทางไปที่บริษัทของผู้ตาย 3 คน ซึ่งเป็นบริษัทที่ได้รับการว่าจ้างจากบริษัทเอกชนให้มีการเข้าไปดูดสิ่งปฏิกูลที่บ่อเกรอะ โดยจะได้รับการว่าจ้างเป็นประจำทุกเดือน มีรถดูดสิ่งปฏิกูลจอดอยู่กว่า 6-7 คัน โดยจะรับงานทั้งบริษัทและดูดสิ่งปฏิกูลตามบ้านเรือนประชาชน

992200

ทีมข่าว เจอกับนายสุวิทย์ แซ่เตีย หรือ ปุ้ย อายุ 40 ปี น้องชายเจ้าของบริษัทฯ เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุตนได้เข้าไปตรวจสอบ ซึ่งก็ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะกระแสไฟฟ้ารั่วหรือไม่ แต่ขณะนั้นพบว่าไม่ได้มีกระแสไฟฟ้าอยู่ภายในบ่อ แต่จะเป็นบ่อใกล้เคียงที่มีไฟฟ้าอยู่ เนื่องจากมีเครื่องสูบน้ำติดตั้งอยู่ เพราะจะต้องใช้ในการบำบัดน้ำเสียก่อนที่จะถูกผลักดันออกไป โดยบ่อทั้ง 2 มีลักษณะเชื่อมต่อกันด้วยท่อส่งกลาง แต่ระดับน้ำไม่ได้ล้นหรือสูงเท่ากับท่อเชื่อม จึงเป็นไปไม่ได้ที่กระแสไฟฟ้าจะถูกเชื่อมไปยังจุดดังกล่าว แต่ก็ยังไม่สามารถคาดเดาได้ ว่าจะมีกระแสไฟฟ้ารั่วมาจากจุดไหน

cg_14

แต่ตนยอมรับว่าประสบการณ์ของ 3 คนค่อนข้างสูง เพราะเคยเข้าไปดูดสิ่งปฏิกูลที่บ่อมาแล้วหลายครั้ง รวมถึงสามารถที่จะเอาตัวรอดจากระดับน้ำที่อยู่ภายในบ่อ และกลิ่นแก๊ส จึงยากที่จะทำให้ทั้ง 3 คนเสียชีวิตจากระดับน้ำและแก๊สภายในบ่อ ขณะเดียวกันช่วงที่ตนไปถึงหน้างาน ระดับน้ำภายในบ่อสูงเพียงแค่ 1 เมตร ดังนั้นจึงไม่มีเหตุผลใดที่จะสรุปได้ว่าเป็นการจมน้ำตาย

196485

อย่างไรก็ตาม ตนในฐานะบริษัท ก็พร้อมที่จะช่วยเหลือครอบครัวผู้ตายอย่างเต็มที่ ทั้งค่าทำศพ และจ่ายเยียวยาครอบครัวผู้สูญเสีย แต่ทั้งนี้ก็ต้องรอขั้นตอนการตรวจสอบจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า เกิดจากความผิดพลาดส่วนใด หรืออาจมีกระแสไฟฟ้ารั่วเกิดขึ้นจริง

530241

สำหรับศพของ 3 คนตอนนี้ถูกนำส่งตรวจชันสูตรพลิกศพที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ศูนย์รังสิต ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี โดยคาดว่าหลังจากที่มีการตรวจอย่างละเอียดแล้ว ในวันที่ 31 ส.ค.63 ญาติ ๆ จะสามารถเดินทางไปรับศพ เพื่อกลับไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิดได้

185787

ด้านน.ส.วาสนา ตัญวิเชียร์ หรือ นก อายุ 38 ปี พี่สาวของคนตาย เปิดเผยว่า ตนไปถึงที่เกิดเหตุ ได้พยายามขอเข้าไปดูศพในบ่อเกรอะ ซึ่งมองลงไปเห็นเพียง 1 คน นอนสภาพนอนคว่ำหน้า จากนั้นได้พยายามมองหาโดยรอบภายในบ่อ จนกระทั่งพบศพของน้องชายและลูกพี่ลูกน้องนอนอยู่ใกล้กัน ไม่นานเจ้าหน้าที่ได้มีการนำร่างทั้ง 3 คนขึ้นมา สังเกตว่ามีลักษณะอาการตัวเกร็ง มือหยิกงอ มีเลือดไหลออกทางจมูก สภาพศพตัวเริ่มเขียวช้ำ ซึ่งสังเกตว่าไม่ใช่อาการของคนจมน้ำตาย แต่เชื่อว่าอาจเป็นเพราะสาเหตุอื่น เพราะเนื่องจากทั้ง 3 คนค่อนข้างมีความชำนาญในเรื่องของการดูดบ่อเกรอะ และเคยเข้ามาดูดที่บ่อนี้มาแล้วหลายครั้ง

แต่ในช่วงหนึ่งที่เจ้าหน้าที่กำลังปฎิบัติงาน ตนได้มีการพูดคุยกับหัวหน้าคนควบคุมงานของบริษัท เดินมาคุยกับตัวเองว่า “ได้มีการตัดกระแสไฟฟ้าที่บ่อออกไปแล้ว” ด้วยความสงสัยจึงได้ถามว่าทำไมถึงต้องมีการตัดกระแสไฟฟ้า ทางคนคุมงานบอกว่า “อาจมีไฟรั่วที่ก้นบ่อใต้ดิน” ตนจึงปักใจเชื่อว่าการตายของ 3 คน จึงไม่ใช่อุบัติเหตุหรือการจมน้ำ แต่เป็นเพราะเรื่องของกระแสไฟฟ้า

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส