เจ้าของร้าน "ชาบูนางใน" สาขากัลปพฤกษ์ เล่าความลับ "ลุงวันเลิด" ต้นตำรับชาบูดัง เป็นผู้ให้ มอบทั้งสูตร และวิชา แถมไม่คิดค่าแฟรนไชส์ วอนอย่าเข้าใจผิดหลังเกิดดราม่า ขอคิดเงินเพิ่ม
จากกรณีดราม่า ลูกค้าท่าหนึ่งออกมาโพสต์ว่าร้านชาบูบุฟเฟ่ต์ชื่อดัง ขอคิดเงินเพิ่ม เพราะรับประทานเนื้อและกุ้งจำนวนมาก ทำให้ร้านไม่ได้กำไร ก่อนที่เจ้าของร้านชาบูสาขาดังกล่าว มาโพสต์ตอบโต้ ว่าการรับประทานบุฟเฟ่ต์ ต้องกินแบบหลากหลาย ไม่ใช่กินแต่เนื้อกับกุ้ง จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์สนั่นโลกออนไลน์วานนี้
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ร้านชาบูดัง แจงปมดราม่า ขู่คิดเงินลูกค้าเพิ่ม เพราะกินเยอะไปจนร้านไม่ได้กำไร
ล่าสุด เพจ "ชาบู ชาบู นางใน กัลปพฤกษ์" หนึ่งในสาขาของร้านชาบูชื่อดัง ได้ออกมาโพสต์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยยืนยันว่า "ชาบูนางใน" แทบทุกสาขายึดมั่นหลักการทำธุรกิจ ให้ทุกคนได้กินของดี กินได้เต็มที่ โดยจุดเริ่มต้นมาจาก "คุณลุงวันเลิด" เจ้าของร้านสาขาต้นตำรับ ที่มอบทั้งสูตร และวิชา แถมไม่คิดค่าแฟรนไชส์แม้แต่บาทเดียว โดยระบุข้อความดังนี้
"ขอเล่าความลับ ที่ไม่เคยมีใครรู้ให้ฟัง เพื่อปกป้อง ผู้มีพระคุณของร้านชาบู นางใน อย่างที่หลายๆ ท่านได้เห็นข่าวในวันนี้
ย้อนไปเมื่อประมาณ 10 กว่าปีที่แล้ว ที่ ร้านชาบูนางในยังไม่มีแฟรนไชส์ ร้านต้นตำหรับอยู่ พระรามเก้าซอย 41 หลังเดอะไนน์ ทุกคนที่เป็นแฟนพันธุ์แท้รู้ดี (ไม่ใช่ร้านที่เป็นข่าวนะคะ อันนั้นเป็นแฟรนไชส์) คุณลุงวันเลิด เริ่มต้นร้านนี้ ด้วยความตั้งใจ ใส่ใจ อยากให้ทุกคนได้ทานของดีดี ในราคาที่สบายกระเป๋า เลือกคัดสรรวัตถุดิบอย่างตั้งใจ เหมือนนางในวัง สมัย ร.5
ยึดคติขอบคุณลูกค้าทุกคน ให้ทุกคนได้กินได้เต็มที่ กินของดี กินของอร่อย กินให้รู้สึกคุ้มค่า แล้วเขาจะกลับมากินร้านเรา นี่คือสิ่งที่คุณลุงสอนเรา อย่าไปเสียดายของ เราให้เขาให้เต็มที่ ให้เขารู้สึกคุ้มค่า บริการด้วยใจ บริการเต็มที่เป็นอย่างดี
วันนี้ ด้วยความที่สาขาที่เกิดเรื่อง อยู่ใกล้กับร้านของคุณลุงมาก และมีหลายคนเข้าใจผิด และหลายสื่อ ที่ไม่ตรวจสอบข้อมูลเลย ก็เอาไปเขียนข่าวแบบผิดๆ อันนี้แอบโกรธนะคะ คือรู้แหละว่ากระทบกันหมด แต่ตอนนี้ ไม่ได้ห่วงสาขาตัวเองเท่าไหร่เลย เพราะห่างจากจุดที่เกิดเหตุ พอสมควร และเรารู้ว่าลูกค้าของเราเข้าใจ
เรากลัวและเป็นห่วงร้านของคุณลุงมาก อยากบอกทุกๆ คนเลยว่า อย่าแบนร้านคุณลุงเลยนะ คุณลุงเป็นคนดีจริงๆ คนที่ให้อาชีพคนเป็นร้อย คนที่ช่วยคนมากมาย แต่ไม่ยอมออกสื่อใดๆ เลย คนที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของใครหลายๆ คน
หลายสาขาที่เปิด ลืมตาอ้าปากได้ มีชีวิตสุขสบาย ก็เพราะคุณลุง ส่วนคุณลุงก็มีแค่สาขาเดียว ที่หลังเดอะไนน์ พระราม 9 ซอย 41 นะ คนที่มาเปิดใกล้ๆ คุณลุง แล้วทำให้เสื่อมเสียขนาดนี้ เราเองก็ไม่รู้จักเขา ไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร ถึงทำแบบนี้ได้ วอนทุกคนโปรดเข้าใจ
#saveชาบูนางใน #saveคุณลุง
วันที่เข้าไปขอแฟรนไชส์ สิ่งแรกที่เซอร์ไพรส์มาก คือ คุณลุงไม่ได้คิดค่าแฟรนไชส์นะ และคุณลุงให้ ให้ทุกอย่าง สอนทุกสิ่ง บอกหมดไม่มีกั๊ก ให้ไปเรียนอยู่ที่ร้านคุณลุงอยู่เป็นอาทิตย์ ฝึกฝนว่าต้องทำยังไง คุณลุงเล่าว่า ตอนจะเปิดไป ถามใครก็ไม่มีใครบอก ทุกอย่างต้องลองเอง หาเอง ลำบากมาก ลองนึกดูนะ สมัยสิบกว่าปีที่แล้ว ยังไม่มี Social media แบบนี้เลย คุณลุงต้องพยายามมามากขนาดไหน คุณลุงช่วยทุกคน แบบไม่ได้หวังผลตอบแทนใดๆ
คุณลุงมาดูที่ มาดูทำเล ก่อนที่จะเปิดร้านให้ เราเลือกร้านบ้านเลขที่ 53 เหมือนร้านต้นตำหรับของคุณลุงเลย แต่ละสาขาก็บริหารกันเอง โดยที่คุณลุงไม่ได้อะไรเลยกับการที่เปิดสาขาที่ไทยเป็นร้อยสาขา คุณลุงให้ทุกอย่าง โดยไม่หวังผลอะไรเลย
เงินกำไรที่ร้าน ส่วนหนึ่งก็ไปทำบุญโรงพยาบาล เราจะไปเจอคนดีแบบนี้ได้จากที่ไหน ไม่เข้าใจทำไมถึงเกิดเรื่องวันนี้ได้ วอนอยากให้ทุกท่านเข้าใจ คุณลุงคือผู้ให้ และคุณลุงคือผู้มีพระคุณ
วันนี้ เราเชื่อว่าคุณลุงก็คงเสียใจ แต่คุณลุงก็ไม่ออกมาแก้ข่าวใดๆ เลย ใครอ่านมาถึงตรงนี้ ต้องขอบคุณมากเลยนะคะ อยากให้รู้ไว้ว่า ต้นตำหรับ อยู่ที่พระราม 9 หลังเดอะไนน์ ไม่ใช่สาขาที่เป็นข่าวค่ะ
ภาพนี้ คือ ภาพนางใน ที่นิมิตของคุณลุง แล้วให้คนวาดขึ้นมา คุณลุงจะนำภาพนี้ มามอบให้ที่สาขาด้วยตัวเองในวันเปิดร้าน ให้เรายึดมั่นคติ เตรียมอาหารอย่างนางในวัง
ชาบูนางใน ของแท้ ต้องมีภาพนี้ติดอยู่กลางร้านนะคะ"
