จากกรณีเมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 10 ก.ย. 63 พบศพนายภควัต อินทชิต อายุ 60 ปี คว่ำหน้าเสียชีวิตอยู่ในอ่างอาบน้ำปูนทรงสี่เหลี่ยมซึ่งมีน้ำเต็มอ่างในห้องน้ำ สภาพศพสวมกางเกงวอร์มขายาวสีดำ ไม่สวมเสื้อ ภายในบ้านของตัวเอง ซึ่งตั้งอยู่หลังเดียว ลักษณะเป็นบ้านสวนอยู่กลางป่าละเมาะ พื้นที่ ต.ท่าไม้รวก อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ดับปริศนา! เจ้าของอู่ซ่อมรถพบรอยลากศพจับกดน้ำ ตร.สงสัยจัดฉากฆ่าชิงทรัพย์
วันที่ 11 ก.ย. 63 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่บ้านที่เกิดเหตุ พบว่าปิดประตูมีคราบเลือดอยู่ที่พื้น หน้าประตู และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ได้ลงพื้นที่มายังที่เกิดเหตุเพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ท่าไม้รวก ให้ข้อมูลว่า สำหรับบ้านหลังเกิดเหตุเป็นบ้านหลังท้ายสุด อยู่ในซอยจากถนนเส้นกลางหมู่บ้านเข้าไปประมาณ 1 กิโลเมตร มีเส้นทางเข้าออกได้ 2 ทาง เส้นทางแรกคือเข้าออกทางหน้าปากซอยหน้าหมู่บ้านตามปกติ เส้นทางนี้รถยนต์ รถจักรยานยนต์สามารถสัญจรเข้ามาได้
ส่วนเส้นทางที่สองเป็นเส้นทางเลยออกไปจากบ้านผู้ตาย เป็นเส้นทางค่อนข้างเล็ก รถยนต์ไม่สามารถสัญจรได้ สัญจรได้เฉพาะรถจักรยานยนต์ หรือจักรยานยนต์รถวิบากเท่านั้น เส้นทางที่สองจะไปทะลุสวนสัตว์ และภูเขาห้วยหินเพลิงที่อยู่ห่างจากบ้านที่เกิดเหตุ ประมาณ 6 กิโลเมตร โดยบริเวณรอบบ้านที่เกิดเหตุ มีบ้านของชาวบ้าน 1 หลัง ที่อยู่ก่อนจะถึงบ้านผู้ตายประมาณ 100 เมตร
นางนวล (นามสมมติ) บ้านหลังที่อยู่ใกล้กับบ้านผู้ตายประมาณ 100 เมตร เล่าว่า ตนเองไม่ได้อาศัยอยู่บ้านหลังดังกล่าว แต่ว่าจ้างให้คนงานมาดูแลสวน และนอนที่บ้านหลังดังกล่าว ซึ่งหลังเกิดเหตุตนก็ได้ถามคนงานที่อยู่อาศัยแล้วก็ไม่ได้ยินเสียงผิดปกติ
สำหรับผู้เสียชีวิต เขาจะมานอนอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าว บางวันเขาก็ขับรถยนต์เข้ามานอนที่บ้าน หรือบางวันเขาก็ขับรถมอเตอร์ไซค์เข้ามา สำหรับผู้เสียชีวิตก่อนหน้านี้ประมาณ 1 เดือน เคยมีปากเสียงกับนายทราย ชาวบ้านคนหนึ่งที่มาเลี้ยงวัว เลี้ยงแพะ ที่สวนของเขา ห่างจากบ้านที่เกิดเหตุ 150 เมตร แล้ววัวของนายทรายเข้ามารุกล้ำที่ดินของนายภควัต จนเป็นเหตุให้มีปากเสียงกัน
ด้านนายทราย กล่าวว่า ตนเองไม่เคยมีปากเสียงกับนายภควัต เรื่องการเลี้ยงวัวรุกล้ำที่ดินของผู้ตาย ปัญหาอื่น ๆ ตนก็ไม่มี แต่ตนยอมรับว่าตนเองเคยเจอกับผู้เสียชีวิตอยู่บ้าง เนื่องจากสวนของตนที่ตนไปเลี้ยงวัว เลี้ยงแพะ อยู่ห่างจากบ้านที่เกิดเหตุประมาณ 150 เมตร วันที่ 9 ก.ย. 63 ช่วงเวลา 08.30 น. - 16.00 น. ตนเองออกไปเลี้ยงวัวเลี้ยงแพะที่สวนของตนจริง แต่ตนก็ไม่ได้ยินเสียงผิดปกติ และเวลาประมาณ 20.00 น. ตนก็นอนอยู่ที่บ้า ถึงเช้าของวันที่ 10 ก.ย. มีภรรยาและแม่ตนเป็นพยานยืนยันได้ ทั้งนี้ ตนเองยืนยันว่าบริสุทธิใจ ตนไม่เกี่ยวข้องกับการตายของนายภควัตแต่อย่างใด
นายตู่ ชาวบ้านที่ไปตัดหญ้าใกล้บ้านจุดเกิดเหตุ เล่าว่า เมื่อวันที่ 9 ก.ย. ที่ผ่านมา ตนเองได้ไปตัดหญ้าที่บริเวณสวนห่างจากบ้านนายภควัต ผู้เสียชีวิตประมาณ 80 เมตร จุดที่ตนตัดหญ้าเป็นพื้นดินที่ต่ำกว่าบ้านผู้เสียชีวิต จึงมองไม่เห็นเหตุการณ์ กระทั่งเวลาประมาณ 17.30 น. ระหว่างที่ตนเองตัดหญ้า ตนก็ได้ยินเสียงพูดคุยกัน และหลังจากนั้นก็มีเสียงผู้ชายหัวเราะเสียงดัง มาจากทางบ้านที่เกิดเหตุ แต่ไม่ได้ยินเสียงคนทะเลาะกัน ส่วนรถต้องสงสัยตนก็ไม่รู้ว่ามีรถคันไหนสัญจรผ่านเข้าออกบ้านที่เกิดเหตุบ้าง
โดยวันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้เรียกตนเองมาสอบถามข้อมูล เพราะตนเป็นบุคคลที่อยู่ใกล้บ้านที่เกิดเหตุที่สุด ตนเองก็ไม่ได้หนักใจ และไม่ได้กลัวว่าตนจะเป็นผู้ต้องสงสัย เพราะตนไม่เคยมีปัญหากับผู้ตายมาก่อน
สำหรับช่วงเวลา 18.15 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าไม้รวก ได้เชิญตัวนางเรไร ภรรยาผู้เสียชีวิต และแม่ผู้เสียชีวิตมาสอบปากคำเพิ่มเติม ด้านความคืบหน้าทางคดี เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ. ท่าไม้รวก ได้เร่งตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด พร้อมทั้งติดตามตัวนายใจ ผู้ต้องสงสัย ที่ทางครอบครัวสงสัยเพื่อมาสอบสวนต่อไป
ทั้งนี้ คาดว่าวันเกิดเหตุ นายใจได้เข้ามาที่บ้านหลังเกิดเหตุ จากนั้นก็พบกับผู้ตาย และมีปากเสียงกันเรื่องการทวงรถยนต์ของผู้ก่อเหตุ กับผู้ตาย แต่เนื่องจากผู้ตายไม่ยอมคืนรถให้ผู้ก่อเหตุ ทำให้ผู้ก่อเหตุชกต่อยทำร้ายร่างกายผู้ตายที่หน้าบ้าน ก่อนที่ผู้ตายจะบาดเจ็บหมดสติ และจากนั้นผู้ก่อเหตุก็นำศพของผู้ตายเข้าไปทิ้งที่อ่างน้ำในห้องน้ำ ก่อนหลบหนีไป และนำกุญแจบ้าน เงินสดจำนวน 10,000 บาท โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง และกระเป๋าสตางค์ของผู้ตายไปด้วย
นอกจากนี้ ทีมข่าวได้ภาพจากกล้องวงจรปิด จากบ้านหลังหนึ่งที่อยู่หน้าปากซอยทางเข้าเส้นทางที่ 1 ซึ่งสามารถบันทึกภาพรถต้องสงสัย เป็นรถกระบะสีดำ วันที่ 9 ก.ย. 63 เวลา 17.35 น. ที่มุมด้านบนของภาพจากกล้องวงจรปิด เห็นรถกระบะสีดำขับออกมาจากถนน ลักษณะขับออกมาจากทางบ้านที่เกิดเหตุ กระทั่งมาถึงถนนเส้นกลางหมู่บ้าน เป็นรถกระบะต้องสงสัยที่ใกล้เคียงกับรถกระบะของผู้ตาย ที่นายใจได้แลกเปลี่ยนไปก่อนหน้านี้
ขณะที่วัดพระพุทธบาทเขาลูกช้าง สถานที่ตั้งศพของนายภควัต อินทชิต ผู้เสียชีวิต บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า นางเรไร บรือสันเที๊ยะ ภรรยาของผู้เสียชีวิต จุดธูปเรียกสามีกินข้าวที่ข้างโลงศพ ก่อนจะน้ำธูปมาปักที่หน้าโลงศพ
นางสาวอริสา พรมสิทธิ ลูกสาวของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ตนเองก็ไม่รู้ว่าพ่อตนเองมีปัญหากับใครบ้าง เพราะตนอาศัยอยู่กับสามีที่ต่างจังหวัด เท่าที่ตนถามแม่ได้บอกกับตนว่า ก่อนหน้านี้หลายเดือน พ่อของตนได้รู้จักและสนิทสนมกับนายใจ ช่างนับเหมาก่อสร้างคนหนึ่ง
กระทั่งนายใจได้ขอร้องพ่อตนให้สลับรถยนต์กันใช้ โดยรถยนต์ของพ่อตนเป็นรถยนต์กระบะมิตซู มิชิ สีดำ สภาพเก่า นายใจเขาทำงานก่อสร้างเขาอยากมีรถยนต์ที่บรรทุกสิ่งของได้ เขาจึงนำรถเก๋งของเขามาเปลี่ยนกับพ่อของตนใช้
และตนคิดว่าปมในการก่อเหตุ ถ้าเป็นนายใจก่อเหตุกับพ่อตนเองจริง ๆ เขาน่าจะมาขอเปลี่ยนเอารถเก๋งของเขาคืน และได้มีปากเสียงกับพ่อของตน กระทั่งเจรจากันไม่ได้ และทำร้ายพ่อของตนจนเสียชีวิต ตนเองก็เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และรู้สึกแค้นใจกับผู้ก่อเหตุโดยเร็ว
พันตำรวจเอกมนัสพันธ์ กิ่งนอกวงศ์ ผู้กำกับการ สภ.ท่าไม้รวก เปิดเผยว่า ล่าสุดสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้แล้ว คือนายใจ ซึ่งเป็นช่างรับเหมาก่อสร้าง ตามที่ภรรยาของผู้ตายสงสัยตั้งแต่แรก โดยสาเหตุเบื้องต้นมาจากความขัดแย้งเรื่องการเปลี่ยนรถใช้กันแล้วปรากฏว่าแอร์เสีย ทำให้นายภัควัฒน์ติดต่อไปหานายใจแล้วแลกเปลี่ยนรถคืน ซึ่งทำให้นายใจไม่พอใจก่อนลงมือก่อเหตุ
อย่างไรก็ตาม ในวันพรุ่งนี้จะมีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการอีกครั้งที่ สภ.ท่าไม้รวก ก่อนนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพต่อไป