กลับมาสร้างอารมณ์หน่วงด้วยห้วงจังหวะเพลงช้ากรีดหัวใจตามสไตล์ LOMOSONIC (โลโมโซนิก) ส่งเพลง รักครั้งสุดท้าย (MY MAGNET) ออกมาแทงใจคนที่ผิดหวังในความรักแบบซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนต้องตั้งคำถามกับตัวเองว่า… รักครั้งสุดท้ายมีจริงหรือไม่?
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ไม่มี "โป่ง" วันนั้น อาจไม่มี "บอย โลโมโซนิก" ในวันนี้
- "มิ้นต์ ชาลิดา" ออกโรงป้อง "เต้ย จรินทร์พร" ไม่ใช่นางเอกร่างเล็กเช็กเรตติ้งไฮโซ
- "ริชชี่" โพสต์ซึ้งขอบคุณ "อุ๋ม อาภาศิริ" ที่เคียงข้าง ดาราแห่ให้กำลังใจ ล่าสุดเตรียมแถลงเคลียร์ดราม่า
บอย พูดถึงเพลงว่า เพลงนี้มาจากตอนที่เราผิดหวังกับความรักบ่อย ๆ แล้วรู้สึกว่าทุกครั้งที่มันต้องเกิดการตัดสินใจพอถึงทางแยกในเรื่องของความรัก ไม่ว่าจะเลือกทางใดมันจะเจ็บปวดเสมอครับ คนที่สมหวังก็ใช่ว่าจะสมหวังตลอดไป แต่ว่าไม่ได้ทุกคนที่โชคดีที่จะได้มีความรักครั้งเดียว ทุกครั้งที่กว่าจะเจอรักครั้งสุดท้าย หัวใจมันอาจจะต้องเจ็บเยอะหน่อยครับ
ในส่วนของดนตรี เนื้อร้อง ทำนอง วงจะดูแลพิถีพิถันในเรื่องการทำงานทุกๆขั้นตอนเองอยู่แล้ว แต่เพลงนี้ก็มี พี่อ๊อฟ บิ๊กแอส มาช่วยโปรดิวซ์ และพี่โป โปษยนุกูล มาดูแลเรื่องเนื้อเพลงให้ ซึ่งความพิเศษจะเป็นเรื่องดนตรีที่วงยังไม่เคยได้ทำ เป็นเพลงที่มีมวลลักษณะบรรยากาศแบบนี้ แล้วก็ยังมีเสียงกีตาร์ เสียงร้องเราจะเบา แต่ว่าไม่ได้หมายความว่าใช้เทคนิคน้อย จริง ๆ ใช้เทคนิคเยอะมาก แล้วก็ร้องยากมากกว่าจะอัดร้องเสร็จได้ แต่ก็พยายามทำให้มันออกมาฟังง่ายที่สุดครับ
แฟนเพลงก็จะได้เศร้า ได้ซึมกันไป สุดท้ายก็ได้ตั้งคำถามกับตัวเองปลายเปิดว่า…. แล้วเราต้องเสียใจเท่าไหร่ถึงจะมีความรักที่มันเป็น รักครั้งสุดท้าย แล้วจริง ๆ มันมีจริงอยู่รึป่าวไม่มีใครรู้เพราะคำตอบก็อยู่ที่แต่ละคนครับ
เพลงนี้ได้ผู้กำกับสาวไฟแรง โรส พวงสร้อย มาช่วยสร้างสรรค์เรื่องราว แถมยังได้ 3 นักแสดงแม่เหล็ก เต้ย จรินทร์พร , มินนี่ ภัณฑิรา , อุ๋ม อาภาศิริ มาร่วมเค้นอารมณ์ให้เต็มอิ่มอีกด้วย
เต้ย จรินทร์พร : “ครั้งแรกที่ได้ฟังเพลง รักครั้งสุดท้าย เต้ยรู้สึกว่าเป็นเพลงที่ดีเพลงนึงเลยค่ะ เพราะเชื่อว่าทุกคนที่เกิดมาต้องเกี่ยวเนื่องกับเรื่องความรักซึ่งเหมือนกับเพลงนี้ ที่เวลาเรารักใครสักคนก็อยากที่จะให้คนคนนั้นเป็นคนสุดท้ายของเรา เหมือนทุกคนต้องตามหาจุดนั้นอยู่ เต้ยคิดว่าเพลงนี้มันค่อนข้างเข้าได้กับทุกคน ทุกวัย จริง ๆ ค่ะ”
มินนี่ ภัณฑิรา : “ที่ตัดสินใจรับเสดงเอ็มวีเพลงนี้ เพราะว่ามันเป็นบทบาทใหม่มากจริงๆค่ะ เพราะในเรื่องเราต้องมีรักครั้งแรกที่เป็นผู้หญิงด้วยกัน ซึ่งเป็นบทที่เราไม่เคยเล่นมาก่อน แถมยังมีฉากเลิฟซีนที่ต้องทำสมาธิพอสมควร ยิ่งเวลาฟังเพลงนี้มินรู้สึกเศร้ามาก เรารู้สึกว่ารักครั้งสุดท้ายเป็นสิ่งที่ทุกคนรอคอยเสมอ”
อุ๋ม อาภาศิริ : “เพลงนี้ฟังครั้งแรกรู้สึกเสียงสูงมาก ๆ ๆ จะร้องตามได้ยังไงเนี่ย (หัวเราะ) แต่พอฟังอีกครั้งก็เริ่มติดละ มันจะมีท่อนฮุกที่มันรู้สึกแบบ เฮ้ยยยย โดนอะ แล้วมันก็จะมีเปลี่ยนอันสุดท้ายของท่อนสุดท้ายที่เป็นแบบ ที่ฉันจะเจอใครที่รักจริงสักคนมั้ยอะไรเงี้ยก็เพราะดี เรารู้สึกว่านิยามของเพลงนี้ ในความหมายของเพลงเค้าก็คือตัวเอง คือรักครั้งสุดท้ายของตัวเอง รักและก็ดูแลตัวเองให้มากที่สุด รักครั้งสุดท้ายของเราก็คือเรา ที่จะอยู่กับเราจนลมหายใจสุดท้ายจริง ๆ”
