โจรแสบอ้างเจ็บขา หลอกเด็ก ม.1 ขี่จยย.ไปส่งบ้าน ก่อนออกอุบายเหนือเมฆเชิดรถหนี

14 ก.ย. 63

ชายวัยกลางคนทำทีเจ็บขาเดินไม่ไหว หลอกเด็กนักเรียนชาย ม.1 ขับ จยย.ไปส่งบ้าน ด้วยความสงสารจึงขับไปส่งไกลเกือบ 8 กม. ก่อนออกอุบายขอยืมรถจะไปซื้อน้ำร้านค้ามาให้ดื่มเพื่อตอบแทนน้ำใจ ทิ้งน้องยืนรอเป็น ชม. สุดท้ายหายทั้งคนทั้งรถ เชื่อตั้งใจขโมย แจ้ง ตร.ติดตามตัวดำเนินคดี ถามชาวบ้านบอกเจอแบบนี้หลายราย

14 ก.ย. 63 มีผู้ใช้เฟสบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ขอความช่วยเหลือ โดยระบุว่ามีน้องนักเรียนถูกชายวัยกลางคนหลอกให้ขับรถจักรยานยนต์ไปส่ง ก่อนออกอุบายยืมรถไปซื้อน้ำแล้วขโมยหายไป ทิ้งน้องยืนรอนานเป็นชั่วโมง จึงขอให้ประชาชนที่พบเห็นช่วยแจ้งเบาะแสด้วย เหตุเกิดที่ อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์

จากนั้นผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พบว่าน้องนักเรียนที่ถูกหลอกขโมยรถ คือ ด.ช.พรพิพัฒน์ หรือน้องโย อายุ 13 ปี ปัจจุบันเรียนอยู่ชั้น ม.1 ก็พาไปชี้จุดเกิดเหตุที่ถูกชายปริศนาหลอกพาไปส่ง พร้อมเล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า เมื่อเวลาประมาณ 07.00 น. วานนี้ (13 ก.ย.) ได้ขับรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีแดง-ดำ ทะเบียน 1กฌ-2038 บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นรถของตาที่ไว้สำหรับขับไปทำไร่ทำสวน ไปเติมเงินโทรศัพท์ที่หน้าทางเข้า-ออกหมู่บ้าน ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านประมาณ 200 เมตร จู่ๆ มีชายวัยกลางคนอายุประมาณ 40 – 45 ปี รูปร่างผอมสูง ผิวดำ-แดง เดินเข้ามาหาบอกว่าลุงเจ็บขาเดินกลับบ้านไม่ไหว ขอให้ตนช่วยขับรถไปส่งที่บ้านหน่อยอยู่หมู่บ้านใกล้ๆ นี่แหละไม่ไหว

ด้วยความสงสารเห็นว่าลุงเจ็บขาจึงให้ลุงซ้อนท้ายแล้วขับรถไปส่ง กระทั่งไปถึงบริเวณสี่แยกบ้านละลม ต.ตาจง อ.ละหานทราย ซึ่งห่างจากบ้านตาแอกเกือบ 8 กิโลเมตร ลุงก็บอกให้จอด จากนั้นลุงคนดังกล่าวก็ออกอุบายหลอกว่าขอยืมรถไปซื้อน้ำร้านค้าใกล้ๆ เพื่อมาให้ตนเองดื่มเป็นการตอบแทนน้ำใจที่ช่วยขับมาส่ง โดยบอกให้ตนยืนรอตรงนี้แป๊บเดียว ด้วยความที่ไม่ได้คิดว่าจะถูกหลอกจึงให้ยืมไป กระทั่งยืนรอนานเกือบชั่วโมงก็ยังไม่เห็นลุงกลับมาซักที ก็รู้สึกเอะใจจึงตัดสินใจไปถามร้านขายของใกล้ๆ ว่าเคยเห็นหรือรู้จักลุงรูปร่างลักษณะนี้มั๊ยก็ไม่มีใครเคยเห็นจึงมั่นใจว่าถูกหลอกและถูกขโมยรถแน่นอน จากนั้นชาวบ้านจึงแจ้งกู้ภัยฯ ให้ช่วยพาน้องไปส่งที่บ้าน แล้วไปเล่าให้พ่อแม่ฟังจากนั้นพ่อและแม่ก็พาไปแจ้งตำรวจ ให้ช่วยติดตามตัวชายคนดังกล่าวมาดำเนินคดี และนำรถจักรยานยนต์กลับมาคืน

ด้านนายปิยะ ชีวะคุณานนท์ อายุ 39 ปี พ่อของน้องโย บอกว่า รถจักรยานยนต์คันที่หายไปเป็นรถของตาที่ไว้ขับไปทำไร่ทำสวน ช่วงเช้าวันเกิดเหตุซึ่งเป็นวันหยุดลูกชายไม่ได้ไปโรงเรียน จึงขับรถไปเติมเงินออนไลน์หน้าหมู่บ้าน กระทั่งมีกู้ภัยฯ ขับรถมาส่งลูกชายที่บ้านก็ตกใจ และมารู้ทีหลังว่าถูกหลอกขโมยรถไป จึงได้ไปแจ้งความให้ตำรวจช่วยตามหา และแชร์ในสื่อออนไลน์ให้ประชาชนช่วยแจ้งเบาะแสด้วย เบื้องต้นตนก็พาลูกชายไปขับตระเวนหา พร้อมทั้งสอบถามตามร้านค้า ชาวบ้านใกล้เคียงเพื่อขอดูกล้องวงจรปิด แต่ก็ไม่เห็นภาพเพราะช่วงเกิดเหตุไฟฟ้าดับพอดีจึงบันทึกภาพไม่ได้ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก็อยากฝากเตือนภัยทั้งประชาชน และเยาวชน ว่าอย่าหลงเชื่อใครง่ายๆ เพราะทุกวันนี้มิจฉาชีพมาในหลายรูปแบบรู้หน้าไม่รู้ใจ ขนาดลูกชายหวังดีช่วยขับรถไปส่งยังทิ้งลูกไว้แล้วขโมยรถหนีหายไป

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ