“ทนายเจมส์” เผยสิ่งที่ชาวเน็ตขุดคุ้ยไม่ส่งผลต่อรูปคดีของ “ไมค์”

ต้องบอกเลยว่าตอนนี้โซเชี่ยลกำลังขุดคุ้ยเรื่องราวเก่าๆของทั้งฝั่งซาร่า คาซิงกินี และไมค์ พิรัชต์ไม่ว่าจะเป็นคลิป หรือแชทไลน์ รวมถึงอื่นๆอีกมากมาย เพื่อต่างจะช่วยซัพพอร์ตในแต่ละฝั่ง ไม่รู้งานนี้จะส่งผลต่อรูปคดีหรือเปล่า จากการที่หนุ่มไมค์ ยื่นฟ้องขอจดทะเบียนรับรองบุต

ล่าสุดได้เจอทนายเจมส์ ซึ่งเป็นทนายความของหนุ่มไมค์ เลยเข้าไปถามถึงเรื่องนี้ เจ้าตัวก็บอกเลยว่า ทั้งหมดทั้งมวลที่มีการขุดคุ้ยกันเกิดขึ้น ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับการฟ้องคดีนี้เลย เพราะคำร้องที่พวกตนขอ คือ ขอจดทะเบียนรับรองบุตร กับขอใช้อำนาจปกครองร่วม โดยตนมองว่าทุกคนก็มีสิทธิ์ที่จะขุดคุ้ยเพื่อปกป้องตัวเอง แต่หากเบาได้ก็เบาเพราะตนสงสารเด็ก

ถามถึงความคืบหน้าคดีของไมค์ ?
“ น้องไมค์ก็สบายดี ตอนนี้มีคนขุดคุ้ยอะไรขึ้นมาเยอะแยะมากมาย ผมก็ไม่ว่าอะไร ก็เป็นสิทธิ์ของเขาที่เขาจะชี้แจง “

สิ่งที่ชาวเน็ตขุดมาเอาไปใช้ในศาลได้ไหม ?
“ มันก็เป็นได้ในอนาคต ถึงการเลี้ยงดูของแม่ ที่เอาใจใส่มากน้อยขนาดไหน หรือว่าคุณปล่อยให้ใครดูแลแทน มันก็เป็นเหตุผลได้ แต่ ณ วันนี้คำร้องที่เราขอ คือขอจดทะเบียนรับรองบุตร กับขอใช้อำนาจปกครองร่วม แค่นั้นเอง ถ้าศาลมองว่าการขอปกครองร่วมเป็นอุปสรรคในการเลี้ยงดูบุตร ศาลจะไม่ให้ แล้วก็ให้ใครคนใดคนหนึ่งปกครองไป แต่ ณ วันนึงเราจะมีเอกสารที่กำหนดไว้ชัดเจนเลยว่า ใครจะมีอำนาจปกครองบุตร ใครมีหน้าที่ในการเลี้ยงดู , ส่งเสียค่าเทอม , ค่าอุปการะ ที่สำคัญที่ไมค์ต้องการเลยก็คือ มีระยะเวลาในการติดต่อเยี่ยมบุตร วันเสาร์-อาทิตย์ หรือช่วงปิดเทอม อันนี้เราจะมีลายลักษณ์อักษรเลย ตลอด 6 ปีที่ผ่านมาที่ไมค์อุปการะมา ไมค์ไม่มีสิทธิ์ในตัวเด็กเลยนะ ถ้าแม่บอกไม่ให้เยี่ยม จบเลย ทำอะไรไม่ได้ แต่ ณ วันนี้ถ้ามีลายลักษณ์อักษรปรากฎขึ้น มันก็สามารถที่จะไปบังคับใช้ได้ ถ้าในอนาคตสมมติแม่เด็กกีดกัน ก็จะสามารถที่จะบังคับได้ “

สิ่งที่ชาวเน็ตขุดมาถือว่าเป็นผลดีต่อรูปคดีไมค์ ?
“ เท่าที่ผมเห็นมันจะทั้งคลิป และอะไรหลายอย่าง ผมขอเรียนว่ามันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับการฟ้องคดีนี้เลย แต่ผมเป็นห่วง เบาได้ก็เบานะ สงสารเด็ก “

คดีจะงอกใหม่ไหม ?
“ สำหรับฝั่งไมค์ไม่มีแน่นอน เพราะเขาต้องการแค่ความชัดเจนที่จะได้เยี่ยมบุตร สมมติเขาว่างเราไม่ว่าง มันไม่ตรงกัน ก็ตกลงกันไม่ได้ ถ้ามันมีวัน เวลา ชัดเจน คงดีกว่า แต่ถ้าไม่ว่างก็เคสบายเคสไป แต่หากทำบ่อยๆ มันก็เหมือนเป็นการกีดกัน หรือการกลั่นแกล้งหรือเปล่า “

อีกฝ่ายมีติดต่อมาหลังไมค์ไหม ?
“ มีเล็กๆ เป็นการคุยไลน์กันของสองคน แต่แค่เล็กน้อยยังไม่ได้จริงจัง ซึ่งไม่ได้เกี่ยวกับข้อตกลงอะไรเลย แค่คุยถึงเรื่องลูก “

คิดว่าวันที่ 2 ตุลาคมนี้จะไกล่เกลี่ยกันลงตัวไหม ?
“ จริงๆแล้วผมอยากให้ไกล่เกลี่ยจบลงโดยเร็ว ไม่ต้องถึงวันที่ 2 ด้วยซ้ำ แต่ ณ วันนี้พอทั้งสองฝั่งมีแฟนคลับ ต่างขุดคุ้ยอะไรกันขึ้นมา สุดท้ายคนที่รับผลเสียไม่ใช่ไมค์ หรือซาร่า แต่เป็นเด็กที่เขาจะโตมาเห็นอะไรก็ไม่รู้ “

จากการคุยเขาจะได้ไปเจอหน้าลูกไหม ?
“ ก็มีนะ แต่ว่ามันยังไม่มีความชัดเจน สมมตินะ บอกว่ามาเยี่ยมเมื่อไหร่ก็ได้นะ แต่พอถามวันก็ไม่ตอบ มันคือการแสดงความจริงใจที่จะให้ไปเยี่ยมไหม ไปแล้วไม่เจอทำไง เพราะกรุงเทพกับภูเก็ตก็ไกลเหมือนกันนะ พอเวลาเขาไป ไม่ได้ไปคนเดียว เขายกทีมไป อันนี้คือความกังวลที่มันจะเกิดขึ้น เพราะฉะนั้นในระหว่างนี้ผมก็เลยบอกว่า ในฐานะที่น้องมอบอำนาจให้พี่ดูแลคดีนี้แล้ว น้องไปทำงานเถอะ “

เขามีแพลนจะเจอกันไหม ?
“ มีอยู่ แต่ผมยังไม่แน่ใจว่าเขาจะไปก่อนวันที่ 2 หรือยังไง แต่ที่แน่ๆเขาแคนเซิลงานไป 2-3 งานแล้ว เพื่อจัดการเรื่องนี้ คือทุกวันนี้มันไม่มีข้อตกลงไง สมมติฝ่ายหนึ่งไม่ให้เยี่ยม คุณทำยังไงกับเขาหละ เขามีสิทธิ์เต็มอะ อันนี้พูดถึงครอบครัวโดยทั่วไป “

ข้อตกลงที่ซาร่าเสนอมา 6 ข้อมีความเป็นไปได้ไหม ?
“ ในข้อเสนอ 6 ข้อ มันเป็นเพียงแค่คำขอท้ายคำคัดค้าน ซึ่งไม่ได้มีสภาพบังคับ ไม่ได้เป็นการฟ้องแย้งกลับมา เพื่อให้จ่ายค่าอุปการะเลี้ยงดู เพราะงั้นการขอมาแบบนั้น เราจะให้ก็ได้ ไม่ให้ก็ได้ มันอยู่ที่การตกลง อย่าลืมผมขอแค่ 2 อย่าง เป็นพ่อโดยกฏหมาย กับปกครองร่วม ถ้าไม่ได้อำนาจปกครองร่วม ก็ทำอะไรให้มันชัดเจนในการเยี่ยมเยียนบุตร ในอนาคตถ้ามีอะไรไม่ชอบมาพากลจะได้มีตรงนี้ไปบังคับใช้ “

นักกฏหมายหลายคนบอกคดีนี้ไมค์มีโอกาสชนะสูง ?
“ ในมุมของการจดทะเบียนรับรองบุตร อย่างเดียวที่ผมมองว่าจะเป็นประเด็นใหญ่ก็คือไม่ใช่พ่อ แล้วไปขอจดรับรองบุตร เพราะมันเคยเกิดแบบนี้นะ ไม่ใช่พ่อโดยสายเลือดแล้วไปขอรับรองบุตร เพื่อไปเอามรดกของเด็ก กฏหมายกลัวแบบนั้นเลยตั้งเงื่อนไขไว้ค่อนข้างสูง ใครที่จะรับรองบุตร ไม่ใช่ว่าสมมติยื่นคำร้องเพื่อรับรองบุตร ฝ่ายแม่ไม่คัดค้าน ศาลไม่ได้อนุญาตทันที ต้องมีการไต่สวน ไม่เหมือนคดีโดยทั่วไป ที่ฝ่ายหนึ่งไม่มาก็พิพากษาให้บังคับคดีเลย ต้องมีการไต่สวนเพื่อให้ศาลเชื่อว่าคนๆนี้เป็นบิดาที่แท้จริง ตอนนี้ผมมีผลตรวจดีเอ็นเอแล้ว ยืนยันชัดเจน แล้วก็การส่งเสียเลี้ยงดู การลงชื่อในสูติบัตร มีชื่อในทะเบียนบ้าน แล้วก็พฤติกรรมที่แสดงออก ไม่มีอะไรปฏิเสธเลยว่า ไมค์ไม่ใช่พ่อ เพราะงั้นผมค่อนข้างเชื่อว่า ศาลจะให้การรับรองบุตร เพราะเด็กได้ประโยชน์ล้วนๆ “

จะมีการตรวจดีเอ็นเออีกครั้งไหม ?
“ ถ้าจะตรวจคือต้องมีการคัดค้านเข้ามา อันนี้ไม่มีครับ โอกาสจึงน้อย ไม่มีเลยดีกว่า “