วันที่ 26 ก.ย. 63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุแก๊งวัยรุ่นเกือบ 100 คน รวมตัวกันขับขี่รถจักรยานยนต์มากกว่า 30 คัน ทั้งมีรถกระบะประกบหน้าหลัง ออกจากงานเทศกาลไหม อ.นาโพธิ์ จ.บุรีรัมย์ ไปตามถนนสายบ้านบง อ.นาโพธิ์ เชื่อมต่อกับ อ.หนองสองห้อง จ.ขอนแก่น
จากนั้น กลุ่มนักเรียนนักศึกษาทั้งชาย-หญิง ขับรถจักรยานยนต์ซ้อนกันมา ประมาณ 10 กว่าคน ออกจากงานเดียวกัน กำลังมุ่งหน้าจะขับกลับบ้าน ถึงปากทางเข้าหมู่บ้านโคกเมฆ ต.บ้านคู อ.นาโพธิ์ แก๊งวัยรุ่นสาดกระสุนใส่จำนวนหลายนัด จนกลุ่มนักเรียนนักศึกษาถูกลูกหลงกระสุนปืนเสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 1 ราย คือ น.ส.ปอย อายุ 16 ปี นักเรียนชั้น ม.4 โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งใน อ.นาโพธิ์ กระสุนเจาะเข้าบริเวณหลังด้านซ้ายทะลุหน้าอกซ้าย บาดเจ็บสาหัส ทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตขณะนำส่งโรงพยาบาล
ทั้งนี้ กระสุนนัดเดียวกันยังทะลุไปโดนหลังของนายกิตติพัฒน์ หรือ โก้ อายุ 18 ปี ปัจจุบันศึกษาอยู่ชั้น ปวส.ปี 1 จ.มหาสารคาม ได้รับบาดเจ็บ นอกจากนี้ ยังมีนักศึกษา ปวช.ปี 3 ซึ่งขับซ้อนแฟนสาวกลับจากเที่ยวงานมาด้วยกัน ก็ถูกกระสุนยิงใส่รถจักรยานยนต์ จนรถเสียหลักล้มได้รับบาดเจ็บอีก 2 คน
ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านหัวฝาย ต.ดอนดอก อ.นาโพธิ์ สถานที่ตั้งศพของน้องปอย นักเรียนชั้น ม.4 บรรยากาศก็เต็มไปด้วยความโศกเศร้าเสียใจของครอบครัว ญาติพี่น้อง และเพื่อน ๆ มาร่วมงาน
โดยเฉพาะ นางสายฝน แพนไธสง อายุ 39 ปี แม่ผู้เสียชีวิต ที่ยังช็อกและทำใจไม่ได้กับการจากไปของลูกสาว ร้องไห้ปานจะขาดใจอยู่หน้าโลงศพของลูกสาว รำพึงรำพันบอกว่า ฎทำไมไม่เอาตัวเองไปแทน ทำไมต้องมาเอาลูกสาวตนเองไปด้วย" สร้างความสลดใจแก่ญาติและชาวบ้านที่มาร่วมงาน ต่างช่วยกันปลอบใจตลอดเวลา
นางสายฝน บอกว่า ลูกสาวเป็นคนน่ารัก นิสัยดี ที่ผ่านมาจะได้รับเลือกจากทางโรงเรียนให้เป็นตัวแทนถือป้าย และทำกิจกรรมต่าง ๆ บ่อยครั้ง และล่าสุดก็ได้รับเลือกให้เป็นตัวแทนไปถือป้ายในวันเปิดงานเทศกาลไหมประจำปีของ อ.นาโพธิ์ เมื่อวันที่ 24 ก.ย. ที่ผ่านมา และคืนวันนี้ 26 ก.ย. น้องปอยก็ได้รับเลือกให้เป็นตัวแทนประกวดธิดาไหมประจำตำบล ซึ่งลูกก็ซ้อมรำและเตรียมชุดไว้เรียบร้อยแล้ว แต่ไม่คาดคิดว่าจะมาเกิดการณ์แบบนี้ขึ้นกับลูกสาว
ซึ่งวันเกิดเหตุลูกสาวก็ไปเชียร์รุ่นพี่ซึ่งเป็นสาวประเภทสองที่เข้าประกวดในงานเทศกาลไหม แต่ขากลับไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น มาทราบอีกทีว่าลูกสาวถูกยิงเสียชีวิต ก็รู้สึกช็อกทำอะไรไม่ถูก ไม่คิดว่าลูกจะต้องมาจากไปเร็วแบบนี้ หลังเกิดเหตุเพื่อน ๆ ลูกสาวก็เอาเฟซบุ๊กมาให้ดูว่าลูกได้แชร์ภาพที่รูปปั้นน้ำตาไหลเป็นสายเลือดและมีผ้าปิดตาเอาไว้ จึงคิดว่าน่าจะเป็นลางบอกเหตุร้ายที่จะเกิดขึ้น อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามจับกุมคนก่อเหตุให้ได้โดยเร็ว
นอกจากนี้ นายอำนาจ แพนไธสง สามี ซึ่งเดินทางกลับมาจากประเทศไต้หวันเมื่อวานนี้ และถูกกักตัวอยู่ที่สถานกักกันของรัฐ ยังไม่รู้ว่าลูกสาวเสียชีวิต จึงอยากให้ทางราชการติดต่อสามีเพื่อแจ้งข่าวให้ทราบ และอยากวิงวอนให้รัฐอนุญาตให้สามีกลับมางานศพลูกสาวด้วย เพราะตอนนี้ตนเองติดต่อสามีไม่ได้
ขณะที่นายกิตติพัฒน์ หรือ โก้ แฟนที่ขับรถจักรยานยนต์ไปกับผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บถูกกระสุนเข้าที่หลังด้วย กล่าว่า คืนเกิดเหตุได้พากันไปเที่ยวงานเทศกาลไหมกับเพื่อน ๆ และพาน้องปอยไปเชียร์รุ่นพี่ที่ประกวดในงานด้วย
จากนั้น งานเลิกก็พากันขับขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้าน ยืนยันว่าไม่ได้มีเรื่องทะเลาะกับใครในงาน แต่ขณะขับรถกลับก็มีรถจักรยานยนต์กว่า 30 คัน รวมเกือบ 100 คน ขับผ่านมาแล้วสาดกระสุนใส่หลายนัดโดยไม่ทราบสาเหตุ ด้วยความตกใจจึงพากันขับรถแยกย้ายกันหลบหนี
กระทั่งขับไปถึงหน้าบ้านป้าซึ่งอยู่ในหมู่บ้านโคกเมฆ ผู้ตายจึงบอกว่าถูกยิงจึงตะโกนให้ป้าช่วยเหลือ จากนั้นได้ประคองลงจากรถแล้วโทรแจ้งหน่วยแพทย์ฉุกเฉิน พบว่า น.ส.ปอย ถูกกระสุนยิงเข้าที่บริเวณด้านหลังซ้ายทะลุหน้าอก และกระสุนยังทะลุไปโดนหลังของตนเองเลือดไหลด้วย เสียใจมากที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น หากย้อนเวลากลับไปได้ก็จะไม่พากันไปเที่ยวงาน
ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นาโพธิ์ ได้เรียกกลุ่มวัยรุ่นต้องสงสัยมาสอบปากคำ พร้อมตรวจสอบจุดเกิดเหตุเพื่อหากระสุนส่งตรวจพิสูจน์ ทั้งไล่กล้องวงจรปิดเพื่อเป็นเบาะแสในการติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว