เมื่อวันที่ 27 ก.ย.63 ที่ผ่านมา ตำรวจ สภ.เมืองมุกดาหาร รับแจ้งว่ามีเหตุเพลิงไหม้บ้านที่บ้านบุ่งอุทัย ตำบลนาสีนวน อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร ที่เกิดเหตุพบเป็นบ้าน 2 ชั้น ครึ่งปูนครึ่งไม้ ไฟกำลังลุกไหม้บริเวณชั้นล่างของบ้าน ลามขึ้นไปชั้นที่ 2 รถดับเพลิงได้ฉีดน้ำเพื่อสกัดเพลิงไม่ให้ไฟไหม้ไปบ้านข้างเคียง ใช้เวลาประมาณ 30 นาที่ จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ ทำให้บ้านเสียหายทั้งหลัง
ต่อมาชาวบ้านช่วยกันพังประตูบ้าน เพื่อเข้าไปช่วยเด็กอายุ 3 ขวบ ทราบชื่อ เด็กชายพัชรพล หรือ น้องเมฆ อยู่ชั้นที่ 2 ของบ้าน แต่ชาวบ้านไม่สามารถเข้าไปช่วยเด็กที่ติดอยู่ข้างในบ้านได้ เพราะว่าประตูข้างนอกถูกล็อก ทำให้เด็กชายเสียชีวิต
ทีมข่าวลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ พบว่าสภาพบ้านถูกไฟไหม้เหลือแค่โครงสร้างและผนังปูนเท่านั้น ส่วนทรัพย์สินภายในถูกไฟไหม้เสียหายไปทั้งหมด หน้าต่างบ้านต่างติดเหล็กดัดทุกบาน ทำให้ยากที่จะเข้าไปช่วยเหลือเด็ก 3 ขวบ จุดที่ไปไหนได้รับความเสียหายมากที่สุดคือ บริเวณที่นอนยางพารา ใกล้กับทางขึ้นบันไดชั้น 2 คาดว่าเป็นต้นเพลิง
นางสาวภัทรศร ว่องไว หรือ ไอช์ อายุ 28 ปี น้าของน้องเมฆที่เสียชีวิต เล่าว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ เวลาประมาณ 08.00 น. ตนเองได้ยินพ่อตะโกนบอกว่าไฟไหม้บ้านญาติ ตนจึงได้วิ่งมาดู พบว่าต้นเพลิงกำลังลุกไหมที่ชั้นล่าง จึงได้เรียกให้คนมาช่วย พร้อมทั้งช่วยกันพังประตู แต่ประตูล็อกแน่นจึงเข้าไปไม่ได้ ได้ใช้ของแข็งทุบกำแพงไม้เพื่อจะเข้าไปข้างในบ้าน แต่ต้นเพลิงได้โหมแรง ไหม้อย่างรวดเร็ว จนกระทั่งเริ่มลามขึ้นไปที่ชั้น 2
โดยชั้น 2 มีน้องเมฆนอนหลับอยู่ ซึ่งตื่นขึ้นมาด้วยความตกใจจากความร้อนและกลุ่มควัน ออกมายืนขอความช่วยเหลือที่หน้าต่างข้างบ้าน ตะโกนช่วยด้วยและกรีดร้อง แต่ด้วยหน้าต่างที่มีเหล็กดัดจึงไม่สามารถออกมาได้ ตนก็พยายามตะโกนบอกให้มาเปิดประตูที่ล็อก แต่น้องเมฆวัยเพียง 3 ขวบ ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ ผ่านไป 5 นาที เสียงน้องเมฆเงียบไป ไฟก็เริ่มโหมแรงไหม้ทั้งบ้าน จนสุดท้ายพบร่างหลานนอนอยู่ใกล้กับหน้าต่าง โดนไม้วงกบทับร่างอยู่ ภายในบ้านไม่เหลือทรัพย์สินใด ๆ เพราะถูกไฟไหม้ทั้งหมด แม้แต่แมว 2 ตัวยังถูกไฟคอกตายด้วย
ด้านนางกฤษณา บร็อค หรือ เพ็ญ ยายของน้องเมฆ เปิดเผยว่า ช่วงเวลาเกิดเหตุตนเองออกไปเก็บเห็ดที่หลังบ้าน โดยห่างจากตัวบ้านประมาณ 200 เมตร มีต้นไม้และทุ่งหญ้าปิดบังอยู่ จึงมองไม่เห็นตัวบ้าน แต่หลังจากที่มีเปลวควันพวยพุ่ง และรู้ว่ามีเหตุเพลิงไหม้จึงรีบกลับมาบ้าน แต่ก็ไม่ทัน เพราะเนื่องจากเปลวไฟได้ลุกไหม้ท่วมทั้งบ้านแล้ว ส่วนตัวรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ส่วนช่วงเวลาที่ออกจากบ้านนั้น เป็นช่วงเวลาที่หลานกำลังหลับอยู่ เพราะโดยปกติช่วงวัน ศุกร์-เสาร์ จะเล่นโทรศัพท์มือถือ ดูโทรทัศน์ดึก เนื่องจากไม่ต้องไปโรงเรียน จึงทำให้นอนดึกและตื่นสาย แต่ช่วงเวลาที่หลานยังหลับ ตนเองจึงได้ออกไปหาเห็ด ส่วนประตูบ้านก็ไม่ได้มีการล็อกกุญแจหรือประตู เพราะประตูบวมน้ำจากฝนตก จึงล็อกกลอนไม่ได้
ซึ่งสาเหตุที่ชาวบ้านมาช่วยกันเปิดประตูไม่ออกนั้น เป็นเพราะว่าประตูเสีย สำหรับสาเหตุของเพลิงไหม้ครั้งนี้ ส่วนตัวมองว่าเกิดจากปลั๊กไฟที่เสียบพัดลมมาไว้บริเวณที่นอนด้านล่าง เพราะเป็นจุดที่หลานนอนหลับอยู่
