แม่ใจสลายลูกนิ้วขาด ครูอ้างลมพัดประตูแล้วหนีบมือ แต่พอดูกล้องวงจรปิดกลับพบว่าครูจงใจปิดประตูทำร้ายเด็ก วอนขอความธรรม ล่าสุดเข้าแจ้งความกับตำรวจแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ สภ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย ได้มีนางพิมญาดา รุซโซ่ว์ อายุ 37 ปี ชาว อ.เมืองเชียงราย ได้พร้อมด้วยญาตินำหลักฐานเป็นภาพถ่ายและใบรับรองแพทย์เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ ร.ต.อ.อิทธิพล ฉลาดธัญญกิจ รอง.สว.(สอบสวน) สภ.เมืองเชียงราย เพื่อให้ดำเนินคดีกับผู้บริหารของโรงเรียนอนุบาลแห่งหนึ่ง อ.เมืองเชียงราย โดยนางพิมญาดาระบุว่าบุตรชายของตนชื่อว่า น้องเอเค อายุ 3 ปี 3 เดือนซึ่งเคยเรียนอยู่ชั้นเตรียมอนุบาลของโรงเรียนดังกล่าวได้รับบาดเจ็บจากประตูภายในโรงเรียนหนีบตรงปลายนิ้วของมือซ้าย ซึ่งเมื่อเข้าตรวจที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งใน จ.เชียงราย ทางแพทย์ก็ยืนยันว่าปลายนิ้วชี้ด้านซ้ายขาดถาวรโดยเล็บสั้นลง 50% จนนิ้วสั้นลงเล็กน้อย
นางพิมญาดา เปิดเผยว่าตนและสามีซึ่งเป็นบิดาของน้องเอเค เป็นชาวฝรั่งเศสได้ส่งบุตรชายเข้าเรียนที่โรงเรียนดังกล่าวเพราะในอดีตมีประวัติดูแลเด็กดีและมีชื่อเสียง กระทั่งเมื่อวันที่ 28 ส.ค.ที่ผ่านมาทางผู้อำนวยการโรงเรียนได้โทรศัพท์ถึงตนแจ้งว่าน้องเอเคประสบเหตุบาดเจ็บที่นิ้วและได้นำตัวส่งโรงพยาบาลแล้วจึงขอให้ไปพบกันที่โรงพยาบาล ตนจึงรีบไปดูก็พบว่าแพทย์ได้ให้การรักษาอาการบาดเจ็บที่นิ้วแล้วโดยได้พันผ้าเอาไว้ให้เรียบร้อย เมื่อสอบถามสาเหตุก็ทราบจากทางผู้บริหารโรงเรียนว่าเกิดจากประตูไม้ภายในห้องของโรงเรียนหนีบขณะที่น้องเอเคกำลังจะนำกล่องนมไปทิ้งถังขยะนอกห้องก่อนจะเข้านอน ซึ่งเบื้องต้นตนก็ไม่ได้ติดใจมากนักโดยหลังจากนั้นก็พาบุตรชายกลับบ้านตามปกติแต่ปรากฏว่าหลังจากนั้นเพียง 1 วันบุตรชายก็มีอาการจนร้องไห้งอแงมากขึ้น และผ้าพันแผลก็หลุดออกมาทำให้เห็นถึงบาดแผลว่าร้ายแรงว่าที่คิดโดยปลายนิ้วได้หายไปทำให้ตนเสียใจอย่างมาก
นางพิมญาดา กล่าวว่าเมื่อเห็นดังนั้นตนจึงได้ไปพบผู้อำนวยการโรงเรียนเพื่อแจ้งว่าแผลที่เกิดขึ้นกับบุตรชายร้ายแรงกว่าที่คิดเอาไว้ และขอดูภาพจากกล้องวงจรปิดซึ่งทางโรงเรียนก็ยอมให้ดูปรากฏว่าเป็นภาพครูพี่เลี้ยงเป็นผู้หญิงอยู่ในห้อง 2 คนกำลังเตรียมให้เด็กๆ เข้านอน แต่น้องเอเคได้นำกล่องนมไปทิ้งถังขยะนอกห้องแต่ขณะที่มือข้างซ้ายจับอยู่กับขอบประตู ได้เห็นภาพครูพี่เลี้ยงปิดประตูที่เป็นไม้อย่างแรงจนขอบประตูทับกับนิ้วได้รับบาดเจ็บดังกล่าว ซึ่งเมื่อเห็นเช่นนั้นตนก็รู้สึกผิดหวังอย่างมากเพราะเหตุการณ์ไม่ใช่เหตุลมพัดตามที่บอกแต่เกิดจากการปิดประตู จึงได้สอบถามไปยังผู้อำนวยการโรงเรียนก็ได้รับการขอโทษพร้อมแสดงความเสียใจว่าไม่ได้ตรวจดูเหตุการณ์อย่างละเอียดและพร้อมจะจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้ทุกอย่าง อย่างไรก็ตามช่วงนั้นตนก็เสียน้ำใจไปแล้วเพราะไม่ได้บอกความจริงมาตั้งแต่ต้น
นางพิมญาดา กล่าวอีกว่าตนเสียใจอย่างมากเพราะเมื่อนิ้วมีสภาพเช่นนี้ก็อาจทำให้ลูกต้องเสียโอกาสในการทำงานในอนาคตไปเพราะนิ้วไม่สมบูรณ์ แม้ปัจจุบันแผลจะหายดีขึ้นและได้ย้ายโรงเรียนไปอยู่ที่อื่นแล้วแต่ก็อยากได้รับการเยียวยา เมื่อสอบถามไปยังทางโรงเรียนก็มีการรับว่าจะเยียวยาให้ทางตนจึงยื่นข้อเสนอไปว่าขอค่าเสียหายจำนวน 400,000 บาท แต่ทางโรงเรียนต่อรองเหลือเพียง 100,000 บาทซึ่งตนเห็นว่าไม่เพียงพอล่าสุดก็ได้เจรจากันที่จำนวน 350,000 บาท โดยทางโรงเรียนแจ้งว่าจะติดต่อมาในช่วงเที่ยงของวันที่ 30 ก.ย.นี้แต่ปรากฏว่าเงียบหายไปเมื่อตนใช้ไลน์สอบถามไปยังผู้อำนวยการโรงเรียนก็มีการอ่านแต่ไม่ตอบกลับจึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ดังกล่าว
ด้านพนักงานสอบสวนได้สอบถามข้อมูลและรวบรวมหลักฐานต่างๆ เพื่อนำมาประกอบการแจ้งความ จากนั้นจะประสานไปยังแพทย์เพื่อขอหลักฐานผลการชันสูตรบาดแผล และข้อมูลการรักษา เพื่อจะนำกลับมาพิจารณาว่าจะดำเนินคดีกับผู้กระทำได้อย่างไร ส่วนในอนาคตหากคู่กรณียังประสงค์จะเจรจากันเรื่องค่าสินไหมทดแทนอีกครั้งก็จะมีการจัดทำเป็นบันทึกข้อตกลงกันได้ต่อไป
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- แฉ "ครูอิ้ว" แชทขอโทษรับผลักหัวเด็ก ก่อนดีดตัวออกจากกลุ่มไลน์
- ตะลึง! เปิดสถิติ "ครูจุ๋ม" วันเดียวทำร้ายเด็กนักเรียน 15 ครั้ง
- เดือด! ผู้ปกครองบุกโรงเรียน “ครูจุ๋ม” อึ้งเพื่อนครูนับ 10 จับเด็กกระแทกโต๊ะ - ไล่ให้ไปตาย
Advertisement