หมอปลาขอ ผบ.ตร. เปลี่ยนชุดสอบคดีชมพู่ ฉะมีคนปั่นหัวสื่อ จี้เผยชื่อใครขึ้นเขาตี 2 (คลิป)

4 ต.ค. 63

จากกรณี พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้แถลงความคืบหน้าคดีน้องชมพู่ แต่ยังไม่สามารถระบุตัวคนร้ายได้ ขณะที่พ่อและแม่น้องชมพู่ ก็รู้สึกพึงพอใจที่ตำรวจยังไม่พักคดี ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

คลิกอ่านข่าว "น้องชมพู่" ทั้งหมดที่นี่  

จากนั้นลุงพลได้อยู่ต่อที่กรุงเทพฯ เพื่อไปร่วมเล่นคอนเสิร์ตกับหญิงลี ศรีจุมพล ที่จ.สมุทรปราการ เมื่อแล้วเสร็จลุงพลและป้าแต๋น ก็ได้เดินทางไปพักที่บ้านหมอปลาที่ จ.เพชรบุรี และปรึกษาเกี่ยวกับคดีน้องชมพู่

616705

ล่าสุดวันที่ 4 ต.ค.63 หมอปลา ลุงพล และป้าแต๋น ได้มีการพูดคุยกันเรื่องต่าง ๆ ประเด็นแรก คือ คิดเห็นอย่างไร กรณีผบ.ตร.บอกว่า หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ที่เก็บได้ ช่วยได้ไม่มากพอ ลุงพล กล่าวว่า เรื่องนี้เชื่อว่าตำรวจน่าจะมีหลักฐานมากพอ จากการใช้ระยะเวลา 4 เดือนในการรวบรวมพยานหลักฐาน แม้ว่าหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์จะเก็บได้ไม่มากพอ แต่หลักฐานที่จะเชื่อมโยงไปยังตัวคนที่กระทำความผิดน่าจะมี

ประเด็นที่ 2 เวลาช่องโหว่ของลุงพล 7-15 นาที ตำรวจจะตัดลุงพลออกจากคดีหรือไม่ ลุงพล ตอบว่า อยากจะย้อนถามว่าเวลาที่พ่อแม่ชมพู่ออกจากบ้านตั้งแต่กี่โมง ปล่อยน้องสดิ้งกับน้องชมพู่อยู่กันตามลำพังตอนกี่โมง และมีใครบ้างอยู่บริเวณนั้น เพราะตำรวจไม่มีการพูดถึง

906902

ประเด็นที่ 3 คิดอย่างไรที่นักวิชาการบอกว่า คนร้ายมีแค่ 1-2 คน เป็นคนใกล้ชิด ลุงพล ตอบว่า ถ้าให้ตนคิดตนคิดว่าหมอดูคู่กับหมอเดา นั่นคือการวิเคราะห์ เพราะไม่เห็นภาพจริง

ประเด็นที่ 4 การที่ตำรวจจำกัดเวลาการหายตัวไปของน้องชมพู่ ระหว่างเวลา 09.11 - 09.49 น. มีผลต่อลุงพลหรือไม่ ลุงพล ตอบว่า นั่นน่าจะเป็นหลักฐาน และข้อมูลที่ยืนยันว่าน้องสดิ้งไม่ได้หลับ มีการเล่นโทรศัพท์หรือเปิดคอมพิวเตอร์ทิ้งไว้ และเวลาช่วงนั้นจริง ๆ ก็น่าจะเกี่ยวพันไปหมดกับทุกคน

860803

ขณะที่หมอปลา เปิดเผยว่า อยากฝากถึงเจ้าหน้าที่ว่า เวลาที่น้องชมพู่หายตัว ซึ่งเป็นช่วงเวลาการตามหาคนหาย มีญาติของน้องชมพู่ได้ประกาศตามหาบนเฟซบุ๊ก โดยบอกถึงรูปร่างลักษณะ และช่วงเวลาการหายไว้ก่อนที่จะเป็นคดีน้องเสียชีวิต หลักฐานตรงนี้อยากให้ตำรวจตรวจสอบ เพราะเป็นข้อเท็จจริงที่ระบุช่วงเวลาการหายจากทางญาติที่ไม่ตรงกันกับเวลาที่ตำรวจระบุในวันแถลง ตนจึงเชื่อว่าตรงนี้มีส่วนสำคัญว่า หายจริงเวลาใด

อีกประเด็นก็คือในวันที่ ผบ.ตร.แถลง ท่านก็ยืนยันว่าตำรวจไม่สามารถระบุได้ ว่าใครเป็นผู้ต้องสงสัย หรือเป็นผู้ต้องหา เพราะไม่มีหลักฐานเพียงพอ แต่กลับพบว่าวันเดียวกันมีสื่อช่องหนึ่ง ระบุในข่าวว่า มีข้อมูลมาจากชุดสืบสวนว่า การหายตัวไปของน้องชมพู่มีส่วนเกี่ยวพันกับลุงพล จึงอยากให้ผบ.ตร.ตรวจสอบดูว่า ใครโกหกกันแน่ แล้วสื่อช่องดังกล่าวระบุชัดเจนว่าเป็นข้อมูลมาจากชุดสืบสวน ซึ่งประเด็นนี้ขัดแย้งกับ ผบ.ตร.แถลง จึงสร้างความเสียหายให้กับลุงพล

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส