เมื่อวันที่ 12 ต.ค.63 เวลา 01.06 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ประตูน้ำ จ.ปทุมธานี รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตอยู่ภายในซอยหอบัณฑิต ต.หลักหก อ.เมือง จ.ปทุมธานี ที่เกิดเหตุเป็นซอยหอพัก หลังมหาวิทยาลัยชื่อดังย่านรังสิต บนพื้นถนนพบคราบเลือดจำนวนมากอยู่หลายจุด
ผู้เสียชีวิตรายแรกนอนหงาย สวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีฟ้า กางเกงยีนต์ขายาว ไม่สวมรองเท้า มีบาดแผลถูกของมีคม บริเวณชายโครงด้านขวาและหลังมือซ้าย ต่อมาทราบชื่อนายธนาทิพย์ หรือ ฟลุ๊ค (สงวนนามสกุล) อายุ 19 ปี นักศึกษา ปวช.ปี 3 สถาบันเทคนิคชื่อดังย่านดอนเมือง
ใกล้กันพบผู้เสียชีวิตรายที่ 2 อยู่ในลักษณะนอนหงายสวมเสื้อยืดสีน้ำตาล กางเกงยีนส์ขายาว สวมรองเท้าแตะ มีบาดแผลถูกของมีคมที่ลำตัวด้านขวา ต่อมาทราบชื่อนายธีรภัทร หรือ ตุ้ย (สงวนนามสกุล) อายุ 19 ปี เพิ่งเรียนจบจากสถาบันเทคนิคแห่งหนึ่งย่านดอนเมือง
นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บอีก 1 ราย เป็นผู้หญิง ซึ่งอยู่ในกลุ่มเดียวกันกับผู้เสียชีวิต เจ้าหน้าที่นำส่ง รพ.มงกุฎวัฒนะ อย่างเร่งด่วน เนื่องจากมีอาการบาดเจ็บสาหัส ส่วนในที่เกิดเหตุตำรวจสามารถเก็บมีดปลายแหลมได้จำนวน 2 เล่ม ซึ่งมีขนาดความยาวประมาณ 1 ฟุต คาดว่าน่าจะเป็นอาวุธที่ใช้ในการก่อเหตุ รวมทั้งกระเป๋าสะพายอีก 1 ใบ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
ด้านพ่อของนายธีรภัทร บอกว่า ลูกชายเคยเรียนอยู่เทคนิคดอนเมือง แต่ได้ออกมาแล้วทำงานรับ-ส่งของ ซึ่งเมื่อคืนที่ผ่านมา ลูกชายบอกว่าจะไปกินเลี้ยงกับเพื่อน และก็มาทราบข่าวว่าลูกชายถูกแทงเสียชีวิต คู่อริของลูกชายที่มากระทำนั้น ได้มีเรื่องกันตั้งแต่ 2 ปีก่อนแล้ว ขณะนั้นลูกชายยังเรียนอยู่เทคนิคดอนเมือง แต่ก็ไม่คิดว่าจะมาถูกแทงเสียชีวิตพร้อมเพื่อนเช่นนี้ ซึ่งพ่อและแม่ของทั้งสองคนจะนำศพลูกชายไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดทุ่งสีกัน กรุงเทพฯ
ทีมข่าวจึงได้เดินทางไปที่วัดทุ่งสีกัน เขตดอนเมือง ซึ่งเป็นที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพของ นายธนาทิพย์ และนายธีรภัทร โดยเมื่อเวลา 16.00 น. ที่ผ่านมา มีพิธีรดน้ำศพ มีเพื่อนสนิทและญาติพี่น้องเดินทางมาร่วมงาน บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า และสำหรับพิธีฌาปนกิจศพจะมีขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ 15 ต.ค.63 โดยจะมีการฌาปนกิจศพของนายฟลุ๊คก่อน เวลา 14.00 น. และตามด้วยศพของนายตุ้ย เวลา 17.00 น. และสำหรับการตั้งบำเพ็ญกุศลศพ ยังได้ใช้ศาลาร่วมกัน และจะมีการจัดสวดพร้อมกัน
ทีมข่าวได้พูดคุยกับนางอำนวย เหรา อายุ 53 ปี แม่ของนายตุ้ย เปิดเผยว่า ในวันเกิดเหตุลูกชายกินข้าวร่วมกับตนที่บ้านแล้ว จากนั้นมีเพื่อนมาชักชวนออกไปกินข้าวนอกบ้าน ลูกชายก็ได้มาขออนุญาตออกไป แต่ก็ไม่คิดว่าการออกไปในคืนนั้นจะเกิดเหตุสลด เพราะไม่มีลางสังหรณ์ใดบอกว่าลูกจะจากไปด้วยฝีมือของกลุ่มวัยรุ่น อีกทั้งลูกชายเป็นคนไม่ชอบเที่ยว หรือออกไปมีเรื่องกับใคร ส่วนใหญ่ก็จะอยู่บ้าน เพราะตอนเช้าต้องตื่นแต่เช้าไปทำงานบริษัทเอกชนเพื่อรับส่งสินค้า จากนั้นก็จะใช้เวลาว่างในการเรียนออนไลน์ ซึ่งเป็นวิทยาลัยเอกชนย่านพระราม 2 พร้อมกับทำงานไปด้วย
ส่วนตัวเคยดูข่าวผ่านรายการของอมรินทร์ทีวี เคยเห็นนักศึกษายิงและแทงกันตาย รวมถึงข่าวเหตุการณ์ฆาตกรรม แต่ก็ไม่คิดว่าสิ่งที่เคยดูอยู่ในจอทีวี จะมาเกิดขึ้นกับคนในครอบครัว ลูกชายต้องมาพบกับความสูญเสียทั้งที่อายุยังน้อย และตนหวังจะให้ดูแลยามแก่เฒ่า เนื่องจากพี่ชายคนโตได้ออกไปมีครอบครัวเลี้ยงดูลูกและภรรยาไปแล้ว ตนจึงหวังพึ่งนายตุ้ย ซึ่งเป็นลูกชายคนรอง แต่สุดท้ายก็มาด่วนจากไปเสียก่อน
สำหรับสาเหตุที่ทำให้ลูกชายถูกแทงเสียชีวิต ตนได้พยายามพูดคุยกับกลุ่มเพื่อนของลูกทราบข้อมูลว่าเคยมีปัญหาที่สะสมกันมานานกว่า 2 ปี แต่ก็ไม่มีใครยอมพูดว่าเป็นเพราะประเด็นปัญหาเรื่องอะไร ส่วนตัวจึงเชื่อว่าอาจเป็นเพราะสถาบัน หรือกลุ่มคนที่เรียนสายเทคนิคมาด้วยกัน
ส่วนตัวอยากจะฝากให้ตำรวจเร่งติดตามตัวคนก่อเหตุมาดำเนินคดีทั้งหมด เพราะเป็นเหตุอุกอาจ รวมถึงถ้าจับกุมได้ทั้งหมดแล้ว อยากให้มาอโหสิกรรมต่อหน้าโลงศพคนตาย แต่ไม่จำเป็นต้องมาอโหสิกรรมจากตน เพราะตนไม่ให้อภัยอยู่แล้ว หากเป็นไปได้ก็ให้ประหารตายตามกันไป เนื่องจากเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ เป็นเพียงวัยรุ่นที่ทะเลาะกัน แต่ใช้อาวุธมีดไล่แทงทำร้ายกันจนตาย
อย่างไรก็ตาม นางอำนวย ยังเผยอีกว่า นายตุ้ยกับนายฟลุ๊ค ต่างเป็นคนที่สนิทสนมกัน ไปมาหาสู่กัน เวลาออกไปไหนก็จะไปพร้อมกัน หรือมีปัญหาอะไรก็จะปรึกษากัน จึงเชื่อว่าคนทั้งคู่อาจมีอะไรที่เชื่อมโยงกันมา เพราะรู้จักกันมาตั้งแต่มัธยมศึกษาปีที่ 1 กระทั่งเป็นเพื่อนกันมา 8 ปีแล้ว ดังนั้นจึงเชื่อว่าคนเป็นเพื่อนสนิทกัน มีดวงถูกกัน จึงทำให้เกิดไล่เลี่ยกันและตายไปพร้อมกัน
ทั้งนี้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยังมีนายต้น อายุ 19 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มที่อยู่กลุ่มเดียวกับผู้ตาย โดนฝ่ายของคู่อริรุมทำร้ายร่างกาย ใช้อาวุธมีดแทงชายโครงด้านขวา ถูกปอดทะลุ ทำให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส และยังคงพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ย่านแจ้งวัฒนะ
ทีมข่าวได้พูดคุยกับนายสมเกียรติ โพธิ์เชียงราก อายุ 44 ปี พ่อของนายต้น เปิดเผยว่า อาการของลูกชายดีขึ้นบ้าง แต่ยังพักรักษาตัวอยู่ภายในห้องไอซียู และแพทย์ได้ใช้ท่อต่อเลือดคั่งด้านในออก แต่ยังไม่ได้มีการเย็บแผล เพราะจะต้องรอให้เลือดคั่งภายในไหลออกมาให้หมดเสียก่อน จากนั้นจึงจะมีการผ่าตัดปอด
เหตุการณ์ครั้งนี้ตนได้สอบถามกับกลุ่มเพื่อน ก็ทราบว่าเป็นการแก้แค้นกับปมปัญหาที่มียาวนานต่อเนื่อง ในระดับกลุ่มวัยรุ่นย่านดอนเมือง และยังทราบมาอีกว่า หนึ่งในคนที่ก่อเหตุเป็นรุ่นน้องในสถาบันเดียวกันกับคนตาย แต่เป็นคนละสาขา ซึ่งนายฟลุ๊คเรียนช่างยนต์ ส่วนรุ่นน้องที่ก่อเหตุเรียนช่างก่อสร้าง แต่ลูกชายของตนเรียนสถาบันอื่น ดังนั้นจึงไม่รู้ว่า มีชนวนเกิดจากอะไร คงต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการของตำรวจ
ส่วนตัวตอนนี้ไม่รู้ว่าจะสอบถามใครเกี่ยวกับความคืบหน้าทางคดี และไม่รู้ว่าจะต้องจัดการปัญหาเรื่องนี้อย่างไร เนื่องจากมีทั้งคนตายและคนเจ็บ ซึ่งตอนนี้สิ่งที่ทำได้คือรักษาเยียวยาคนที่เหลืออยู่ แต่คนที่ตายก็ต้องให้ความเป็นธรรม ตอนนี้เบลอไปหมด ทำอะไรไม่ถูก ทำได้แต่หาเงินมารักษาลูกให้ดีที่สุดเท่านั้น
