เมื่อวันที่ 19 ต.ค.63 สถานการณ์การชุมนุมของราษฎรในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีการนัดรวมตัวกัน 3 จุด ได้แก่ หน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ แยกเกษตร และจ.นนทบุรี MRT กระทรวงสาธารณสุข นอกจากนี้ยังมีการนัดรวมตัวกันในพื้นที่ต่างจังหวัดด้วย
เวลา 19.22 น. บริเวณแยก ม.เกษตรศาสตร์ ถนนพหลโยธิน แกนนำที่ขึ้นปราศรัยได้ประกาศยุติการชุมนุม หลังกลุ่มผู้ชุมนุมแยกเกษตร จัดกิจกรรมเรียกร้องประชาธิปไตยเสร็จสิ้น มวลชนก็ได้ถือถุงดำเพื่อเคลียร์ขยะในบริเวณดังกล่าวให้กลับคืนภาวะปกติ ก่อนจะแยกย้ายกันกลับบ้าน
ขณะที่การจราจร ถนนพหลโยธินทั้งขาเข้าและขาออก เริ่มสัญจรได้คล่องตัวมากขึ้น แต่รถเมล์ของ ขสบก. อาจจะยังผ่านเข้ามาที่ป้ายรถเมล์ไม่ได้ ส่วนรถที่ลอดใต้อุโมงค์เพื่อไปถนนงามวงศ์วาน มุ่งหน้าแยกบางเขน และเรือนจำคลองเปรม ก็สามารถเคลื่อนตัวได้เช่นกัน ทั้งนี้เวลา 19.38 BTS เปิดให้บริการทุกสถานี และรถเมล์หลายสายกำลังปรับเส้นทาง
ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ว่า รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ แต่เนื่องจากขณะนี้ประเทศไทยมีปัญหาอยู่หลายประการ รัฐบาลจึงต้องมีบทบาทนำในเรื่องเหล่านี้ และยินดีให้กลไกในรัฐสภาแก้ปัญหา
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการหารือการขยายพื้นที่การประกาศบังคับใช้ พ.ร.ก.ในสถานการณ์ฉุกเฉิน นอกเหนือจากท้องที่กรุงเทพฯ หรือไม่ ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีการขยายพื้นที่ใด ๆ ทั้งสิ้น แต่จะเห็นได้ว่ารัฐบาลพยายามประนีประนอมให้มากที่สุด
ผู้สื่อข่าวสอบถามพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ว่าการสลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 16 ต.ค.63 อาจเป็นการยั่วยุเรียกแขกให้ผู้ชุมนุมออกมาเพิ่มหรือไม่ ซึ่งพล.อ.ประวิตร ตอบว่า "ห๊ะ!"
พรรคพลังประชารัฐ ประกาศ 3 จุดยืน ได้แก่ 1.ยึดมั่นระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข 2.มุ่งมั่นทำให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตดีขึ้น และ 3.สนับสนุนการแก้รัฐนูญโดยกระบวนการทางรัฐสภา
พรรคภูมิใจไทย ประกาศ 3 จุดยืน ได้แก่ 1.ปกป้อง เทิดทูนสถาบัน 2.แก้รัฐธรรมนูญ มาตรา 256 ให้ประชาชนร่วมร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และ 3.แก้ปัญหาปากท้องประชาชน
พรรคประชาธิปัตย์ ประกาศ 3 จุดยืน ได้แก่ 1.ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข 2.ควรใช้สันติวิธี ไม่ใช้ความรุนแรง และ 3.ควรใช้รัฐสภาเป็นเวทีหาทางออก
นอกจากนี้ยังมีอีก 7 พรรคเล็กร่วมรัฐบาล แถลงจุดยืนเทิดทูนสถาบัน ได้แก่ พรรคพลังไทยรักไทย พรรคพลเมืองไทย พรรคประชาภิวัฒน์ พรรคครูไทยเพื่อประชาชน พรรคพลังชาติไทย พรรคประชาธิปไตยใหม่ และพรรคพลังธรรมใหม่