พ่อค้าไก่อึ้งคนเหมาแผงหลังติดป้ายไม่ขายคนจาบจ้วง ปัดโยงม็อบแค่ขอแสดงจุดยืน (คลิป)

จากกรณีที่โซเชียลมีเดียมีการแชร์ภาพจากผู้ใช้เฟซบุ๊ก ไพศาล สุวรรณชัย พ่อค้าขายไก่ทอด ซึ่งได้ติดป้ายกระดาษที่หน้าแผงไก่ทอดของตนว่า "ร้านนี้ไม่ขายคนจาบจ้วง"

วันที่ 22 ต.ค. 63 ทีมข่าวลงพื้นที่ร้านขายไก่ทอด ตั้งอยู่ที่หน้าร้านตัดผมบาร์เบอร์ สเตชั่น ภายในชุมชนวัดสิงห์ ซอยเอกชัย 43 ถนนเอกชัย แขวงบางขุนเทียน เขตจอมทอง กรุงเทพฯ ใกล้กับทางเดินรถไฟสถานีวัดสิงห์

นายไพศาล สุวรรณชัย อายุ 44 ปี เจ้าของร้านขายไก่ทอด เปิดเผยว่า ตนเองนำป้ายมาติดไว้ที่เสาเต็นท์หน้าร้านได้ 3 วันแล้ว เพราะตนเองดูข่าวและเห็นเหตุการณ์การชุมนุม จึงอยากประกาศย้ำจุดยืนในการทำจิตอาสา ที่ยึดมั่นและรักสถาบัน รวมไปถึงทำตามพระราชปณิธานของในหลวง ร. 9 ที่ทรงงานเพื่อประชาชน

ส่วนผลกระทบจากการติดป้ายและโพสต์ลงในโซเชียลนั้น ก็มีคนทักมาบ้าง บางส่วนมีน้อง ๆ เข้ามาให้กำลังใจ รวมถึงมีบางส่วนเข้ามาเตือนและตำหนิด้วย เช่น ประกาศชัดเจนไปหรือไม่ เป็นการเลือกข้างหรือไม่ และคนที่ทักมาด่าก็มี แต่เป็นส่วนน้อย และตนเองมองว่าถึงแม้จะเห็นต่างแต่ก็สามารถอยู่ได้ ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน รวมไปถึงลูกของตนเองก็ทักว่า เราแสดงออกแบบนี้ถูกต้องหรือไม่ ตนเองบอกว่า ที่เราแสดงออกเป็นจุดยืนของเราไม่ถือว่าผิด ติดป้ายเพราะต้องการประกาศจุดยืนเท่านั้น แต่ลูกค้าที่เลือกฝ่ายการเมืองมาซื้อ ตนเองก็ขายให้ทั้งหมด เพราะเป็นจรรยาบรรณของพ่อค้า

ตนเองขายไก่ทอดมาบริเวณนี้มานาน 3 ปี โดยลูกค้าส่วนใหญ่ที่ซื้อคือเด็กนักเรียน ตั้งแต่ 14.00 - 17.00 น. ใช้ไก่ทั้งหมด 80 กิโลกรัม และหลังจากติดป้ายดังกล่าวไปจะมีคนมาเหมาจำนวนมาก ตนเองบอกลูกค้าว่าถ้าเหมาหมดจะไม่มีขายนักเรียน และที่เหลือแจกฟรีให้เด็กทั้งหมด ทั้งนี้ หากลูกค้าจะมาซื้อเพราะโซเชียลมีเดีย ไม่ต้องมาซื้อ อยากให้มาเพราะรสชาติดี และยังสามารถชวนตนเองไปทำบุญทำจิตอาสาได้

และจากการโพสต์ในเฟซบุ๊กของบางคนเกี่ยวกับป้ายร้านของตน ตนเองมองว่าเป็นความคิดเห็นส่วนตัวที่ต่างกันสุดขั้ว และสุดโต่ง ตนเองมีหลายอาชีพ น้าของตนเองเป็น ส.ส. แม่ของตนเองเป็นประธานชุมชน ตนเองเป็นรองประธานชุมนุม เป็นอาชีพข้าราชการทั้งหมด คนในบ้านค้าขายหมด และตนเองก็ชอบค้าขาย และมีลูก 3 คน สามารถส่งเสียลูกจนจบปริญญาตรีได้เพราะร้านไก่ทอด

ส่วนป้ายที่ติดอยู่ตนเองยืนยันว่าจะติดต่อไป และจะไม่เอาป้ายลง แต่จะนำไปเคลือบทำให้หนาขึ้น อาจจะเปลี่ยนคำบางคำให้เหมาะสมกับสถานการณ์ต่อไป