"แซม ยุรนันท์" เคยหนีออกจากบ้าน เพราะอยากเข้าวงการบันเทิง!

23 ต.ค. 63

พระเอกมากความสามารถ "แซม ยุรนันท์" มีผลงานมากมายในวงการบันเทิง ไม่ว่าจะเป็นนายแบบ พระเอกภาพยนตร์ พระเอกละคร นักร้อง หรือแม้กระทั่งพิธีกร แต่ย้อนกลับไปเมื่อ 16 ปีที่แล้ว "แซม ยุรนันท์" ก็หายหน้าหายตาจากวงการเพื่อทำธุรกิจส่วนตัว ล่าสุดเขาได้มาเปิดใจในรายการ ต้มยำอมรินทร์ แบบหมดเปลือกถึงเรื่องที่หายหน้าไปจากวงการ 16 ปี แต่เพราะยังคงคิดถึงวงการบันเทิงตลอด จึงหวนกลับมารับละครอีกครั้ง เพราะการเล่นละครคือความสุข พร้อมเล่าเส้นทางการเข้าสู่วงการบันเทิง ที่ต้องหนีออกจากบ้าน เพราะพ่อไม่ยอมให้เข้าวงการบันเทิง!

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ปังไม่หยุด!! "เปา กิ่งกาญจน์" ปล่อยเพลงเร็วเพลงแรกในชีวิต คืนเดียวยอดวิวทะลุล้าน!!
- "หนุ่ม ศรราม" ไม่เคยเหนื่อยกับคำว่า "พ่อ" รอคำว่ารักจากปากลูกสาว
- "อิน บูโดกัน" เผยยอมให้สามีซื้อกินได้ แต่ห้ามเลี้ยงเป็นตัวเป็นตน!
- "ลูลู่ อาร์สยาม" แค่งอน “ลาล่า” ตามประสาพี่น้อง ไม่ได้สร้างกระแสโปรโมทเพลง!!
- "ต่าย สายธาร" เผยประสบการณ์การทำงานของหน่วยกู้ชีพ ที่ต้องอยู่กับความเป็นความตายตลอดเวลา!
- "ดวงตา คงทอง" กลับมาทวงบัลลังก์ดีว่าลูกทุ่ง ยันไม่ได้หนีไปบวชชีเพราะหนีรัก!
- ดูเพลิงนางย้อนหลัง ละครแซบอมรินทร์ทีวี ที่นี่  

s__63324249

ถาม ย้อนไปถึงการเข้ามาในวงการของเขา ไม่ธรรมดาเลย เพราะแมวมองกระโดดลงจากรถเมล์เพื่อชวนไปเล่นหนัง

แซม ยุรนันท์ : ตอนนั้นประมาณ 15-16 ได้ เดินอยู่ริมถนนแล้วมีคนกระโดดลงมาจากรถเมล์ "น้องๆๆ (ตะโกนดังมาก) เล่นหนังไหม" เราก็มองรอบตัวเรา เล่นหนังไหน ใครเหรอ เราเหรอ เราก็ถามว่าเล่นหนังอะไร ตอนนั้นก็ตกใจว่าคนที่จะมาชวนเราเล่นหนังต้องเอารถเบนซ์มาเทียบไหม แต่ลงมาจากรถเมล์ เขาจะมาชวนเราไปเล่นหนังอะไร แต่ตอนนั้นไม่ได้คิดว่าจะเล่นด้วยนะ คิดว่าเล่นไม่ได้อยู่แล้ว เพราะพ่อไม่ให้ พี่สาวก็สวยแล้วมีคนมาขอให้ไปเล่น พ่อก็ไม่ให้ เราก็คิดว่าไม่ได้หรอก แต่ก็ลองดู ตื่นเต้นดี พอขอพ่อก็ไม่ให้ครับ เราก็เริ่มมีคำถามกับเขาว่าทำไมถึงไม่ให้ เขาก็บอกเราว่ามันเสียการเรียน เราก็อธิบายว่าเขาถ่ายเสาร์ อาทิตย์ ก็ไม่ได้ เดี๋ยวเสียการเรียน เดี๋ยวเสียคน เราก็ถามเขาไปเรื่อยๆ เขาก็หาเหตุผลที่จะไม่ให้เราไปเล่น ว่าพ่ออายเต้นกินรำกิน เพราะพ่อเป็นถึงรัฐมนตรีศึกษา ปัญหาของพ่อคือพ่ออาย เราก็ถามแล้วพ่อมีเมียเป็นนางงามทำไม (เพราะคุณแม่เป็นอดีตนางงามสาวไทย)


ถาม พอเราพูดกับคุณพ่อไปเขาโกรธไหม

แซม ยุรนันท์ : โกรธครับ อยู่บ้านไม่ได้เลย ก็ตีกัน แต่สุดท้ายเราก็ไปเล่น ตอนนั้นคือออกจากบ้านเลย อายุ 17 ตัดสินใจออกมาจากบ้าน เราคิดว่าเราต้องชนะ ต้องไม่เสียคน เพราะเราจะเล่น คือถ้าให้เล่นดีๆ เรื่องเดียว เราก็ไม่ต้องเล่น 200 กว่าเรื่อง (หัวเราะ) เราก็พิสูจน์ให้คุณพ่อเห็น แต่ไม่ถึง 2 ปี คุณพ่อก็เสีย ที่เราทำแบบนั้นคืออยากให้เขาเห็นว่ามันไม่เห็นเสียคนเลย ไม่เห็นจะเป็นอย่างที่ว่าได้เลย เพราะทุกอย่างมันอยู่ที่คนนะ ซึ่งก่อนที่คุณพ่อจะเสีย เขาก็เห็นที่เราเล่นหนัง

แซม ยุรนันท์ : หนังเรื่องแรกที่เราเล่น หน้าเขาบอกว่าหน้าเราหน้า จารุณี มาก คือตอนนั้นเราได้เล่นเป็นน้องเขานะไม่ได้เล่นเป็นพระเอก แล้วเราก็ถ่ายแบบ ถ่ายแมกกาซีน แล้วแม่ก็เอาไปให้พ่อดูตอนนั้นก็เป็นปกหนังสือ ถามคุณพ่อว่าคนนี้เป็นยังไงบ้าง พ่อเขาก็บอกว่าดูฝรั่งธรรมดา คือ จำลูกตัวเองไม่ได้ เพราะตอนนั้นที่เราถ่ายแบบคือ เราใส่วิกเพราะเรายังผมสั้นมากๆ เขาเลยจำเราไม่ได้


ถาม ตั้งแต่นั้นมา กลายเป็นพระเอกที่ฮอตและโด่งดังมาก ถ่ายหนังวันละ 3 เรื่อง

แซม ยุรนันท์ : เราไม่ได้อยากทำอย่างนั้น แต่คนจัดคิว ซึ่งสมัยก่อนแนวตบจูบก็ต้องเป็น ยุรนันท์ นาถยา (แดงบุหงา) ก็ต้องเป็นคู่นี้ กุ๊กกิ๊กหน่อยก็จะเป็น ยุรนันท์ จินตหรา มาช่า ถ้าชีวิตหน่อยเป็น สินจัย ก็จะมีคู่แมตว่าพระนางคู่นี้ราคาเท่าไหร่ ถ้าเขาได้ชื่อเรา พระเอกคนนี้ นางเอกต้องคนนี้ ทุกคนอยากได้คิว เผื่อที่จะได้ถ่ายให้เสร็จเร็วๆ เราก็ต้องแบ่งว่าเรื่องนี้ครึ่งวันนะ เรื่องนี้ครึ่งวันนะ ก็แบ่งกันไปเพื่อถ่ายให้ทุกเรื่องจบ เมื่อก่อนคิวที่เขาขอมาคือ 2 วันครึ่ง ได้หนัง 1 เรื่องต้องจบ พอเราเล่นหนังจนอิ่มตัวแล้วก็มาเล่นละคร


ถาม พอมาเล่นละครก็โด่งดังมาก ได้รับจดหมายกองเป็นภูเขา

แซม ยุรนันท์ : วันนึงเป็นร้อยครับ ส่วนมากที่เขียนมา จะขอรูปกับลายเซ็น เราก็จะไปก็อปปี้รูปไว้เยอะมาก แล้วก็เซ็นไว้ๆ


ถาม แต่ถึงจุดหนึ่ง อยู่ดีๆ หายไปจากวงการไปถึง 16 ปี

แซม ยุรนันท์ มันอิ่มตัวครับ แต่เราโชคดีที่เราอยู่วงการนี้เราทำหลายอย่าง ถ้าเราแค่เล่นหนัง เล่นละคร เราคงเลิกไปนานแล้ว แต่เรามีโอกาสได้ไปร้องเพลง ไปเป็นพิธีกร

s__63324245

ถาม อะไรคือสิ่งที่ทำให้กับมาในวงการอีกครั้ง

แซม ยุรนันท์ : เพราะเรื่องใบไม้ที่ปลิดปลิว 16 ปี เราปฏิเสธมาตลอดเลย แต่เรื่องนี้ที่ติดต่อมา ตอนแรกเราก็ปฏิเสธนะครับ เราไม่เคยไม่เล่นเป็นพระเอก ตลอด 200 เรื่องที่ผ่านมาทั้งละคร ทั้งหนัง เราเล่นเป็นพระเอกมาตลอด การที่เราจะกลับมารับอะไรอีกสักครั้งเราต้องเปลี่ยนอยู่แล้วตามกาลเวลา แต่เรื่องที่จะเล่นต้องพาอะไรให้เป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์ แล้วเรื่องนี้เป็นนิยายที่เคยติดต่อให้เราเล่นแล้วเมื่อ 30 ปีที่แล้ว ตั้งแต่คุณทมยันตีเขียนมาใหม่ๆ เรื่องมันแรงไปสำหรับ 30 ปีที่แล้ว แต่พอเราได้อ่านเนื้อเรื่องสองสามครั้งแล้ว เราก็บอกพี่ฉอดว่าเราโทรคุยดีกว่า เราก็ถามว่าเนื้อเรื่องต้องการสื่อสารให้ออกมาแบบไหน ถ้าเป็นละครสนุกทั่วไป ผมคงลำบากใจ ถ้าจะพูดเรื่องเพศที่สาม ตั้งใจจะพูดเรื่องนี้กันจริงๆ หรือเปล่า เราจะพูดไหมว่าเหตุผลอะไรเขาถึงเป็นแบบนี้ เกิดอะไรขึ้น แล้วในสังคมจะให้เขายืนอยู่ในจุดไหน มันถึงเวลาหรือยังที่เราจะพูดถึงเรื่องนี้กันอย่างจริงจัง พี่ฉอดบอกว่าอยากพูดเรื่องนี้ แต่อยากพูดผ่านละคร ให้คนสังเคราะห์ ซึ่งมันก็ได้ผล คนแชร์และพูดถึงกันในมุมต่างๆ พ่อผิด สังคมผิด หรือทำไมบูลลี่ ทำให้คนพูดกันอย่างแพร่หลาย มันก็เป็นผลดีที่เราอยากให้มันเป็น


ถาม เป็นการกลับหลังจากหายไป 16 ปี อย่างสมเกียรติมาก

แซม ยุรนันท์ : เราไม่ได้คาดหวังขนาดนั้น เราคิดแค่ว่าเราทำหน้าที่ในบทเรา หน้าที่ของเราให้ดีที่สุด ยากที่สุดคือวันแรกที่เราเข้าฉาก กู่ ผู้กำกับ เขาอยากให้เราถล่มเลย เพราะเราต้องตบตีลูกเมีย เราก็ไม่เคยทำแบบนั้น คือแรงมากในใจ ตบลูกแล้วด่าเมีย ต้องขอบคุณละครเรื่องนี้ที่ทำให้กลับมารับรางวัลอีกหลายรางวัล ขอบคุณคนดูและคณะกรรมการมากๆ ที่ให้โอกาสพระเอกโบราณคนนี้ได้มีโอกาสได้มีที่ยืนอีกครั้ง


ถาม ล่าสุดก็มาร่วมงานกับทางเช้นจ์2561 และช่องอมรินทร์ทีวีอีกครั้งกับละครเรื่อง "เพลิงนาง" คุณชุมสายของเรา

แซม ยุรนันท์ ชอบเล่นละครกับพี่ฉอด เพราะว่าพี่ฉอดมักจะนำบทประพันธ์มาทำเป็นละคร จะหยิบประเด็นในเรื่องนั้นๆ ออกมาคลุกใหม่ให้มันเข้ากับยุคกับสมัยมากขึ้น เรื่องเพลิงนางถูกเขียนมา 30 ปีแล้ว ละครในยุคก่อนคือแรงมาก แต่ยุคนี้ผู้หญิงแบบน้องพลอย มันมีจริง เพราะงั้นตัวละครมันเหมือนมีชีวิตโลดแล่นทั่วไป


ถาม กระแสตอบรับจากละคร "เพลิงนาง" เป็นยังไงบ้าง

แซม ยุรนันท์ : ขอบคุณแฟนๆ ที่ติดตาม เกิดการสังเคราะห์ เขาดูแล้วมาคอมเม้นท์บอกเราว่าเขาได้อะไร วิเคราะห์กันว่าทำไมคนนี้ต้องออกไปหาเศษหาเลยนอกบ้าน เมียไม่ต้อนรับกลับบ้านแล้วไม่อบอุ่น มันก็จำเป็นต้องไปหาสีสันนอกบ้านหรือเปล่า เรื่องนี้สอนทั้งผัวเมีย คนรอบข้างว่าเกิดปัญหาคนไปมองที่ปลายเหตุ ต้องมองว่าต้นเหตุของปัญหาคืออะไร อย่าไปมองว่าคนนี้ดี คนนั้นเลว นางเอกพระเอก ก็สามารถเลวได้ ตัวร้ายอาจจะดี สุดท้ายจะเห็นว่าละครพี่ฉอดมีทางออกเสมอว่าจุดจบละครแต่ละตัวมันจะเป็นอย่างไร มันเกิดขึ้นจากการกระทำ

แซม ยุรนันท์ : ขอฝากผลงานที่กำลังเล่นอยู่ ณ ตอนนี้ อยากจะบอกทุกคนว่าที่กลับมาเล่นตอนนี้ เพราะอยากเล่น มีความสุขมากที่ได้ไปเล่น จะกี่เรื่องก็แล้วแต่ ภรรยายังบอกเลยว่ากลับไปเล่นละครเถอะ เพราะเขาเห็นเรามีความสุข คือความสุขของเราจริงๆ

advertisement

ข่าวยอดนิยม

ข่าวบันเทิง เป็นกระแส