เดือด! 2 หนุ่มวางมวยบนทางด่วน โวยเมียถูกตีเจ็บ อีกฝ่ายโต้ถูกขับจี้ถ่ายคลิปยั่ว (คลิป)

กรณีกระแสวิพากษ์วิจารณ์บนโลกโซเชียลฯ หลังมีการแชร์คลิปบนทางยกระดับอุตราภิมุข (โทลล์เวย์) ระบุว่า "ต่อยกับผมคนเดียวก็พอ ผญ.ไม่เกี่ยว" โดยภาพที่ปรากฏเผยให้เห็นเหตุการณ์รถสองคันจอดบริเวณขอบทางด่วน และลงมาจากรถเพื่อจะเคลียร์ปัญหากัน แต่เกิดการชกต่อย และทะเลาะวิวาทกัน

ล่าสุดวันที่ 26 ต.ค.63 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ เพื่อพูดคุยกับผู้โพสต์คลิปวิดีโอ นายจตุรงค์ ทองคำพันธ์ หรือ โน้ต อายุ 29 ปี เปิดเผยว่า วันที่ 25 ต.ค.63 เวลาประมาณ 16.00 น. ตนและภรรยากำลังจะเดินทางไปที่วัดสาครสุข เพื่อที่จะไปร่วมงานศพ เหตุการณ์เริ่มเกิดขึ้นเมื่อตนขึ้นโทลล์เวย์หน้าโรงกษาปณ์ ต.คลองหนึ่ง จ.ปทุมธานี ซึ่งมี 2 ช่องทาง ตนวิ่งช่องทางซ้ายตามรถเก๋งคันหนึ่งที่ขับช้า กระทั่งรถของคู่กรณีขับมาทางช่องทางขวาและแซงไป ตนจึงตัดสินใจเบี่ยงมาขับรถที่ช่องทางขวา เพื่อขับตามปกติ

หลังจากนั้นตนก็ขับตามรถคู่กรณีทางช่องทางขวาสุดมาด้วยความเร็วปติ จนกระทั่งเห็นว่ารถของคู่กรณี หักไปทางช่องทางซ้าย ตนคิดว่าหลบรถข้างหน้าหรือไม่ แต่เมื่อมองไปด้านหน้าก็ไม่มีรถ คิดว่าอาจจะทะเลาะกับแฟนบนรถและหักหลบปกติ จากนั้นรถของคู่กรณีก็เปลี่ยนช่องทางกลับมาทางขวาอีก และแซงออกไป ตนจึงขับตามต่อไปและไม่ได้คิดอะไร จนมาเจอรถของคู่กรณีอีกครั้ง และเบี่ยงมาช่องทางซ้าย คู่กรณีพยายามเปิดกระจกมาด่าทอ แต่ตนไม่เห็น เพราะภรรยาเป็นคนเห็น

ต่อมารถของคู่กรณี ก็ขับแซงตนเองไปอีก จนตนขับมาเจอรถของคู่กรณี รถคู่กรณีจึงชะลอและเปลี่ยนไปช่องทางซ้าย และพยายามด่าทอ ตนจึงเปิดกระจกเพื่อฟังว่ามีอะไร จนรถคู่กรณีพยายามขับมาทางขวาฝั่งตนและเปิดกระจกบอกว่า "มึงขับดูดตูดกู" จนตนเองเริ่มมีอารมณ์โมโห พยายามชิดซ้ายเพื่อจะลงไปเคลียร์ 

เวลาประมาณ 22.00 น. ตนจึงตัดสินใจเดินทางไปที่ สน.ดอนเมือง เพื่อลงบันทึกประจำวัน และรอเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกคู่กรณีมาที่โรงพัก เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง ก่อนที่จะเดินทางไปโรงพยาบาล เวลา 23.00 น. เพื่อตรวจร่างกายและนำส่งผลตรวจให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็มาเจอคู่กรณีอีกที่โรงพยาบาล แต่คู่กรณีจำตนไม่ได้ จึงเข้าไปทักทาย และมีการยั่วยุกัน ก่อนที่จะแยกย้ายกลับ

นายจตุรงค์ ยังเปิดเผยว่า เรื่องทำร้ายร่างกายตนไม่ติดใจเอาความ เพราะเป็นเรื่องของผู้ชายปกติ แต่เรื่องที่จะทำร้ายภรรยา ตนมองว่าผู้หญิงไม่เกี่ยว ทำไมต้องเข้ามาหาภรรยาตนและพยายามจะทำร้ายด้วย โดยภรรยาของตนเพิ่งคลอดได้ 20 วัน หากตนไม่เข้าไปขวาง ก็ไม่รู้ว่าภรรยาจะได้รับบาดเจ็บหรือไม่ จึงอยากฝากไปถึงผู้ขับขี่รถท่านอื่นว่า หากเกิดเรื่องแบบนี้ อย่าลงไปดีที่สุด โดยขณะนี้ตำรวจสน.ดอนเมือง อยู่ระหว่างรอผลตรวจร่างกายจากโรงพยาบาล เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

นอกจากนี้ ทีมข่าวเดินทางไปพูดคุยกับคู่กรณี นายเอก (นามสมมติ) อายุ 43 ปี เปิดเผยว่า ตนขับขึ้นมาจากโทลล์เวย์ คู่กรณีก็ขับจี้ท้ายรถมาตลอดทาง ตนไม่สามารถขับเร็วได้เพราะบนโทลล์เวย์จำกัดความเร็ว แต่อีกฝ่ายก็ยังไม่ยอมแซง ซึ่งความเร็วรถขณะนั้น ตนขับมาด้วยความเร็วประมาณ 110 - 120 กิโลเมตร/ชั่วโมง

ตนยืนยันว่าคู่กรณีขับเร็วมาตั้งแต่ขึ้นโทลล์เวย์ ตนพยายามจะขับหนีหลายรอบ แต่คู่กรณีก็พยายามมาขับจี้ท้ายรถของตน ถึง 3 ครั้ง ซึ่งตนก็ไม่เข้าใจทำไมต้องขับจี้ท้าย กระทั่งตนเกิดอารมณ์โมโห จึงเปิดกระจกไปด่าทอรถของคู่กรณี และสังเกตเห็นว่า ผู้หญิงที่อยู่บนรถคู่กรณี ถ่ายคลิปตลอดเวลา

ส่วนที่สังคมมองว่า ตนเป็นคนหัวร้อน ตนมองว่าแล้วแต่มุมมมองของคน เพราะทุกคนไม่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด อยากให้มองตามคลิปหน้ารถของตนที่บันทึกได้ ตนยืนยันว่าไม่ได้ทำร้ายผู้หญิงตามที่หลายคนเข้าใจ เพียงแค่จะปัดมือออกเท่านั้น เพราะถ่ายคลิปตนตลอดเวลา ส่วนคนในคลิปที่คนอื่นอาจจะมองว่าเป็นทหาร หรือตำรวจหรือไม่ ตนยืนยันว่าไม่ใช่ เพราะเป็นเพื่อนของตนที่มาด้วยกันเท่านั้น ไม่กังวลหากจะถูกดำเนินคดี เพราะตนก็มีหลักฐานเช่นกัน