หนุ่มลั่นไม่ยอมความ หลังถูกแท็กซี่สวมสนับมือต่อยจนหน้าแหกริมถนน

13 พ.ย. 63

เหตุวิวาทข้างถนนรามคำแหง แท็กซี่ปาดหน้า รับผู้โดยสาร สุดท้ายลงมาดวลหมัด หนุ่ม จยย. แค้นใจนึกว่าต่อยกันแมนๆ ที่แท้คู่ชกแอบกำสนับมือ เจ้าตัวเข้าแจ้งความ เอาเรื่องให้ถึงที่สุด

จากกรณีที่ เมื่อวานนี้ (12 พ.ย. 2563) เกิดเหตุทำร้ายร่างกายกันระหว่างคนขับรถแท็กซี่และคนขับรถจักรยานยนต์ ที่บริเวณหน้าศูนย์นิสสัน ซ.รามคำแหง 170 ถนนรามคำแหง แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี กรุงเทพฯ โดยมีพลเมืองดีถ่ายคลิปไว้เป็นหลักฐาน ทราบชื่อคนเจ็บ นายชลากร สุรินทร์ราช อายุ 31 ปี คนขี่รถ จยย. ซึ่งมากับแฟนสาว มีรถแท็กซี่สีชมพูขับปาดหน้ากันไปมา จนเกิดความโมโหจึงตะโกนด่ากัน ก่อนที่จะจอดรถคุยกัน ก่อนที่คนขับรถแท็กซี่จะสวมใส่สนับมือ แล้วปรี่เข้ามาทำร้ายหนุ่มขี่ จยย. จนได้รับบาดเจ็บนั้น

1605244950901

ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ 13 พ.ย. 2563 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี เดินทางมียังจุดเกิดเหตุ ที่บริเวณบนแนวฟุตปาธ ทางเดินเท้าด้านหน้าศูนย์นิสสัน ซ.รามคำแหง 170 ถนนรามคำแหง แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี กรุงเทพฯ และจุดดังกล่าวเป็นถนนสองเลน มีรถสัญจรไปมาตามปกติ

จากนั้นทีมข่าวได้พูดคุยกับ นายสันทัด ทับสันเที๊ยะ อายุ 50 ปี เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย หน้าศูนย์รถยนต์แห่งหนึ่ง (ศูนย์นิสสัน) ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ และเป็นหนึ่งในคนที่เข้าไปช่วยห้าม เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ เวลาประมาณ 08.30 น. ขณะที่ตนเข้าเวร ทำงานที่หน้าป้อมของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตามปกติ จากนั้นมีรถแท็กซี่คันสีชมพู และ รถ จยย. ที่มีผู้บาดเจ็บเป็นคนขับและมีแฟนสาวนั่งซ้อนท้ายมา และมีลักษณะขับขี่ปาดหน้ากันไปมา คล้ายมีปัญหากันมาก่อนที่จะถึงจุดเกิดเหตุ กระทั่งมาจอดที่บริเวณด้านหน้าศูนย์รถยนต์ ก่อนที่คู่กรณีทั้งสองฝ่ายจะลงจากรถมาพูดคุยกัน จังหวะนั้นตนไม่ได้ยินเสียงทะเลาะกัน ว่าพูดคุยหรือมีปากเสียงกันอย่างไรบ้าง กระทั่งหันไปดูอีกทีทั้งคู่เกิดชกต่อยกันอย่างรุนแรง ทำให้คนขี่รถ จยย. บาดเจ็บลัมลงพื้น ตนและคนที่เห็นเหตุการณ์จึงช่วยกันเข้าไปห้ามและแยกคู่กรณีทั้งสองฝ่าย

1605245013895

ขณะเดียวกันที่ใบหน้าของคนขี่ จยย. เกิดแผลหลายจุด มีเลือดออก เข่าแตก ข้อศอกแตกถลอก เป็นแผลหลายจุด ก่อนที่ วิน จยย. ที่ขี่ผ่านมาและคนที่อยู่ใกล้เคียง จะเข้ามาห้ามไม่ให้ทะเลาะกัน ภายหลังเกิดเหตุ คนขับรถแท็กซี่สีชมพู ก็ขึ้นรถแล้วขับหนีออกไปอย่างรวดเร็ว ส่วนผู้บาดเจ็บ มีพลเมืองดีที่อยู่ในที่เกิดเหตุและ วิน จยย. ช่วยกันปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาล

นายสันทัด เล่าต่อว่า ระหว่างเกิดเหตุ แฟนสาวของคนขี่รถ จยย. ไม่ถูกทำร้ายร่างกายหรือได้รับบาดเจ็บ ขณะเดียวกันพลเมืองดี รวมทั้งตนที่อยู่ในเหตุการณ์ก็ไม่ได้รับบาดเจ็บเช่นเดียวกัน

โดยที่ผ่านมา นายสันทัดไม่เคยเจอเหตุคนทะเลาะกันที่ด้านหน้าศูนย์รถยนต์มาก่อน อีกทั้งตนเชื่อว่า รถแท็กซี่ มีการขับเฉี่ยวชนรถ จยย. มาก่อนหรือไม่ กระทั่งทำให้โกรธและต่างฝ่าย ต่างหัวร้อน ใจร้อนในการขับรถ กระทั่งเกิดเหตุขึ้น

1605244866993

ขณะเดียวกันทีมข่าวได้พูดคุยกับ นายชลากร สุรินทร์ราช อายุ 31 ปี คนขี่รถ จยย. ซึ่งได้รับบาดเจ็บ เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ตนและภรรยา ขี่รถ จยย. ไปส่งลูกชายวัย 3 ขวบไปเรียนที่ศูนย์เด็กเล็ก ก่อนขี่รถกลับ ระหว่างทางช่วงผ่านหน้าห้างบิ๊กซี ถนนรามคำแหง มีรถแท็กซี่สีชมพู ซึ่งทราบในภายหลังว่า คนขับรถแท็กซี่คันดังกล่าว ชื่อ "นายสาคร" ขับปาดหน้ารถ จยย.ของตนอย่างกระชั้นชิด ทำให้ตนโมโหและตะโกนพูดขึ้นว่า "อะไรนักหนาวะ" แล้วจึงขี่รถต่อไป

จากนั้นขี่รถมาถึงช่วง ซ.รามคำแหง 174 ถนนรามคำแหง รถแท็กซี่มีการขับรถปาดหน้า จยย. รอบสอง ตนจึงตะโกนด่าด้วยคำหยาบคาย ก่อนรถแท็กซี่จะขับมาคู่ขนานเทียบข้าง เปิดกระจกคุยกับตนว่า "ทำไมไม่ขอโทษ" ตนจึงตอบกลับไปว่า "ไม่ขอโทษ เพราะไม่ได้ด่าอะไร" พร้อมบอกคนขับรถแท็กซี่ว่า "เป็นรถใหญ่ ขับปาดหน้ามีความผิด ต้องเป็นฝ่ายขอโทษ" ก่อนจะบอกให้คนขับรถแท็กซี่ จอดรถมาคุยกันเลย จังหวะนั้นรถแท็กซี่ จึงขับตัดหน้ารถ จยย. อีกครั้งเป็นรอบที่สาม ก่อนต่างฝ่ายต่างเดินลงมาจากรถ

1605244930561

เมื่อตนและนายสาคร (คนขับแท็กซี่) หยุดรถ สังเกตเห็นคนขับรถแท็กซี่เดินอ้อมไปด้านหลังรถ ก่อนมาด้านหน้า แล้วเดินเข้ามาหาตนพร้อมมือไขว้หลัง ด้วยอารมณ์บันดาลโทสะ ตนจึงต่อยเข้าที่ใบหน้าคนขับรถแท็กซี่ก่อน 1 ครั้ง จากนั้นก็ทำร้ายร่างกายกัน โดยไม่เห็นว่าคนขับแท็กซี่มีสนับมือ กระทั่งต่างฝ่ายต่างแยกกัน จึงทราบว่าใช้สนับมือในการก่อเหตุ หลังเกิดเหตุคนขับแท็กซี่ ขับรถหลบหนีไปทันที

จากนั้นตนเดินทางมายัง สน.มีนบุรี เพื่อดำเนินคดีกับคนขับรถแท็กซี่ จากนั้นเย็นเมื่อวานนี้ คนขับแท็กซี่ ติดต่อมาหาตน พร้อมขอให้ถอนแจ้งความ แต่ตนไม่ยอม เพราะเป็นความรุนแรงและใช้อาวุธ พกอาวุธอันตราย หากเกิดกับผู้โดยสารจะเป็นอย่างไร เบื้องต้น วันนี้มีนัดไกล่เกลี่ยกับ นายสาคร คนขับแท็กซี่ ที่ สน.มีนบุรี เวลา 12.00 น.

เบื้องต้นขณะนี้ ตนได้เข้าแจ้งความที่ สน.มีนบุรี เพื่อดำเนินคดีกับคนขับรถแท็กซี่สีชมพู สำหรับอาการบาดเจ็บ ต้องเย็บทั้งหมด 5 เข็ม แบ่งเป็นหลังศีรษะ 2 เข็ม คิ้ว 2 เข็ม และข้างแก้มอีก 1 เข็ม ส่วนแขนและขาข้างขวาเป็นรอยถลอก

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ