วันที่ 27 พ.ย. 63 นายธนิสร ไกยะฝ่าย อายุ 17 ปี ขับรถจักรยานยนต์ พุ่งชนรถเก๋ง สีบรอนซ์เงิน ที่มี น.ส.ลัดดา อายุ 45 ปี พนักงาน อบต. เป็นคนขับ จนเสียชีวิตคาที่ เหตุเกิดเมื่อเวลา 09.00 น. ของเมื่อวานที่ผ่านมา ในพื้นที่หมู่ 5 บ้านนาโพธิ์ ต.บ้านผึ้ง อ.เมือง จ.นครพนม
เบื้องต้น มีพยานอ้างว่านายธนิสร ขับมาด้วยความเร็วสูง ในลักษณะเอนตัวหมอบเอาหน้าแนบกับไมล์หน้าปัดรถ ถึงที่เกิดเหตุพบรถยนต์ของ น.ส.ลัดดา คู่กรณีขับข้ามเลนมาเพื่อจะไปทำงาน พยานอ้างว่าจังหวะนั้น นายธนิสรเงยหน้าขึ้นก็พุ่งชนเข้าข้างตัวรถเก๋งฝั่งซ้ายอย่าแรง จนร่างลอยกระแทกพื้นเสียชีวิตคาที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำกล้องที่ติดตั้งหน้ารถของ น.ส.ลัดดา ไปตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้ง
ปรากฏว่ากล้องหน้ารถของ น.ส.ลัดดา เป็นหลักฐานปากสำคัญ ในภาพพบว่านายธนิสรขับรถมาตามปกติ ไม่ได้เอนหมอบ ตรงกันข้ามรถยนต์ของ น.ส.ลัดดา ขับตัดหน้าอย่างกระชั้นชิด จนเป็นเหตุให้นายธนิสรเบรกไม่ทัน พุ่งชนจนตัวเองชีวิต ส่วนคนที่อ้างว่าเห็นเหตุการณ์ขณะเกิดเหตุนั้น ไม่ไปให้ปากคำที่โรงพัก
ช่วงค่ำ ที่บ้านของผู็เสียชีวิตตั้งบำเพ็ญกุศลศพ โดยนายอิทธิพล แสงงาม อายุ 60 ปี นางนารีภู สมตา อายุ 58 ปี ตาและยายของผู้เสียชีวิตนั่งอยู่หน้าโลงศพหลานชายด้วยใบหน้าเศร้าหมอง
นายอิทธิพล เปิดเผยว่า ตนชุบเลี้ยงหลานชายตั้งแต่แบเบาะ ส่วนพ่อของหลานเสียชีวิตไปก่อนหน้านี้ แม่ก็ไปทำงานอยู่ที่ จ.ปราจีนบุรี หลานเป็นเด็กดีที่ไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ แต่เรียนหนังสือแค่ชั้น ม.4 เพราะฐานะทางบ้านยากจน จึงออกจากโรงเรียนมาทำงานรับจ้างหาเงินให้ตากับยาย หลานชายรับจ้างทำงานทุกอย่าง ถึงฤดูทำนาก็จัดการไถ่หว่านด้วยตนเอง
วันแห่งการสูญเสียคือวานนี้ หลานชายพูดเปรยว่า พรุ่งนี้ก็เอาข้าวเข้ายุ้งเสร็จ จะได้มีเวลาไปเที่ยวกับเพื่อนแล้ว จากนั้นรุ่งเช้าก็รีบสีข้าวในนาจนเสร็จเรียบร้อย ขี่รถไปตามเพื่อนมาช่วยกันขนข้าวเข้ายุ้ง แต่ระหว่างที่ไปตามเพื่อน ก็ถูกรถเก่งขับตัดหน้า เป็นเหตุให้พุ่งชนจนเสียชีวิตก่อน
นอกจากนี้ คู่กรณีได้มาไหว้ศพพร้อมมอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้น 10,000 บาท ส่วนด้านคดียังไม่ได้มีการเจรจาใด ๆ เพราะขอจัดการเรื่องศพหลานชายให้เสร็จเรียบร้อยก่อน ขณะเดียวกันมีเพื่อน ๆ ของผู้ตายจุดธูปไหว้ศพ บอกว่า "ไม่ต้องห่วงนะ ข้าวขนเข้ายุ้งเสร็จหมดแล้ว"