เดินทางมาถึงตอนจบแล้วสำหรับดราม่ามหากาพย์ของวงการนางงามไทย “ฟ้าใส-ปวีณสุดา ดรูอิ้น” มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2019 และ TOP 5 MISS UNIVERSE 2019 กับบริษัท TPN 2018 ที่ได้รับสิทธิ์จัดการประกวดมิสยูนิเวิร์สในประเทศไทย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ฟ้าหลังฝน "ฟ้าใส ปวีณสุดา" สุดแฮปปี้ รับมงกุฎคืนจากกองประกวดแล้ว!
- เปิดไทม์ไลน์จุดเริ่มต้นความร้าวฉาน! "ปุ้ย TPN" ใจกว้างให้กางสัญญา "ฟ้าใส" จ่อฟ้องคนโพสต์เท็จ
- "ฟ้าใส" เปิดไทม์ไลน์โต้ปมดราม่า ลั่นสัญญาฉบับแรกครอบคลุมรางวัล -เปอร์เซ็นต์-ระยะเวลาทุกอย่างแล้ว!
- "ปุ้ย-ณะ TPN" ยืนยันพูดความจริงต่อหน้าพระแก้วมรกต ลั่นจะให้มงกุฎ "ฟ้าใส" หากคิดว่ามีความชอบธรรม
วันนี้เมื่อเวลา 11.30 น. ของวันนี้ 29 พฤศจิกายน 2563 “ฟ้าใส ปวีณสุดา” พร้อมผู้จัดการ “เอส อนุสิทธิ์” และทนายความ “นงลักษณ์ แตงเจริญ” เดินทางเข้าเซ็นหนังสือเพื่อรับมงกุฎประจำตำแหน่งคืนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
งานนี้ “ฟ้าใส” ก็เปิดใจกับสื่อมวลชนหลังเข้ารับมงกุฎว่า ที่ผ่านมาตนไม่เคยเรียกร้องอะไรทั้งสิ้นเพียงแค่ต้องการให้ความจริงกระจ่างและทุกคนสามารถนำข้อมูลจากทั้งสองฝ่ายไปตัดสินกันเองได้ก็เท่านั้น วันนี้จึงอยากขอบคุณทุกคนที่สนับสนุนตนมาโดยตลอด ยอมรับว่าวินาทีแรกที่สัมผัสกับมงกุฏซึ่งจะกลับมาอยู่กับตัวเองอย่างถาวร ตอนนั้นทั้งมือสั่นและตื่นเต้นมากๆ เปรียบเสมือนวินาทีที่เธอประสบความสำเร็จในเส้นทางนางงาม นั่นคือ วินาทีรับมงกุฎในค่ำคืนของการประกวด Miss Universe Thailand 2019 แต่สำหรับเรื่องราวในวันนี้ก็ถือว่าเป็นความสำเร็จภายใต้ความยุติธรรม
ในส่วนของกระบวนการในวันนี้ทางทนายความก็ได้เปิดเผยว่าเป็นเพียงแค่การเซ็นรับและรับทราบถึงจุดชำรุดของมงกุฎ ซึ่งจะมีการส่งซ่อมด้วยตัวเองในภายหลัง แต่ไม่ได้มีการเซ็นสัญญาผูกมัดอะไรกันทั้งสิ้น
เช่นเดียวกับทางด้านของ “เอส อนุสิทธิ์” ผู้จัดการส่วนตัวที่บอกว่านี่คือจุดสิ้นสุดของทุกอย่างแล้ว หลังจากนี้ก็จะเดินหน้าทำงานการกุศลเพื่อสังคมในโปรเจกต์ WE ARE ONE ต่อไป เจ้าตัวก็ยอมรับว่า ณ วันนี้ความจริงได้ตัดสินทุกอย่างแล้ว พร้อมที่จะ MOVE ON ไปข้างหน้าด้วยการเป็นพรีเซนเตอร์ของกระทรวงยุติธรรม โดยเริ่มต้นจากการเข้าไปเยี่ยม ให้กำลังใจผู้ต้องหาที่กำลังจะออกจากห้องขัง
ส่วนงานในวงการบันเทิงก็คงจะเน้นไปที่ฝั่งของการโกอินเตอร์ อาทิการเดินพรมแดง นางแบบ และบุคคลที่ทำงานเพื่อสังคม โดยมี “ปู ไปรยา” เป็นต้นแบบ แต่ด้านของงานละครก็คงจะมีให้เห็นประปรายบ้าง ซึ่ง “ฟ้าใส” เองก็หวังว่าฟ้าหลังฝนย่อมสดใสเสมอ และยกให้เคสของตนกับ TPN 2018 เป็นกรณีศึกษาในวงการนางงาม ทั้งตัวนางงามเองและกองประกวด โดยเฉพาะเรื่องของการเซ็นเอกสารก็ควรจะมีความรอบคอบ ตรวจสอบความถูกต้อง แน่นอนว่าถ้าไม่เหมือนที่คุยกันไว้ ก็มีสิทธิ์ที่จะทักท้วงความยุติธรรมซึ่งเป็นสิทธิ์ของเราอยู่แล้วได้
และหลังจากนี้อีกประมาณ 2 อาทิตย์ทางทีมงานจะมีการจัดงานมิตติ้งเพื่อเป็นการฉลองร่วมกับแฟนคลับและจะเปิดโมเมนต์ให้ “ฟ้าใส” สวมมงกุฎหลังได้รับคืนมา เพราะตอนนี้มงกุฎยังมีจุดที่ชำรุดซึ่งต้องได้รับการซ่อมแซม บวกกับชุดที่ใส่มาวันนี้ก็ยังไม่เหมาะสมด้วยนั่นเอง
