จากกรณีเมื่อคืนวันที่ 30 พ.ย. 63 พ.ต.ต.จันติ วรรณูปถัมภ์ สารวัตร(สอบสวน) สภ.ปลวกแดง จ.ระยอง รับแจ้งคนร้ายขับขี่รถจักรยานยนต์ประกบยิงใส่รถกระบะ มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ภายในซอยข้างตลาดนัดมาบยางพร ต.มาบยางพร อ.ปลวกแดง จ.ระยอง
ที่เกิดเหตุพบรถกระบะโตโยต้า ทะเบียน บห-5090 ระยอง จอดคาอยู่บนถนน มีรอยกระสุนยิงเข้าที่กระจกด้านคนขับ 3 นัด ภายในรถพบร่างนายสาคร อายุ 37 ปี คนขับ ถูกยิงเข้าตามลำตัวอาการสาหัส เจ้าหน้าที่รีบนำตัวส่ง รพ.ปลวกแดง
ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบที่เกิดเหตุ ปรากฎว่านายสุรพล ชุ่มวะพล อายุ 32 ปี ชาวจังหวัดชลบุรี โผล่เข้ามามอบตัวพร้อมอาวุธปืนขนาด .22 โดยรับสารภาพเป็นคนยิงใส่รถกระบะ เนื่องจากเข้าใจผิดว่าคนเจ็บเป็นแฟนใหม่ของแฟนเก่า
นายสุรพล ชุ่มวะพล ผู้ก่อเหตุ กล่าวว่า ตนต้องกราบขอโทษคนเจ็บ และครอบครัวของคนเจ็บด้วย ที่ตนยิงเพราะเข้าใจผิด คิดว่าเป็นแฟนใหม่ของแฟนเก่า
ล่าสุด วันที่ 1 ธ.ค. 63 นายสุรพล ชุ่มวะพล อายุ 32 ปี ผู้ก่อเหตุ ได้ถูกแจ้งข้อหาพยายามฆ่า ซึ่งทางร้อยเวรเจ้าของคดีให้ข้อมูล ผู้ก่อเหตุให้การรับสารภาพ โดยอ้างว่าเข้าใจผิด เพราะรถของคนเจ็บคล้ายกับรถของแฟนใหม่ของแฟนเก่า จึงได้ลงมือก่อเหตุโดยที่ไม่รู้ว่าใครนั่งอยู่ในรถ
ขณะเดียวกันรถของคนเจ็บ รถกระบะโตโยต้า ทะเบียน บห-5090 ระยอง สภาพกระจกฝังคนขับร้าวทั้งบาน มีรอยกระสุน 3 นัด ยังถูกจอดอยู่ที่ สภ.ปลวกแดง
เวลา 10.30 น. ตำรวจนำตัวนายสุรพล ผู้ต้องหาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยผู้ต้องหากล่าวขอโทษกับผู้บาดเจ็บ และครอบครัวของผู้บาดเจ็บ เนื่องจากจำรถผิดคัน คิดว่าเป็นชายคนใหม่ของอดีตภรรยาที่เพิ่งเลิกรากันไป แต่มาทราบหลังจากยิงแล้ว เพราะได้โทรไปหาอดีตภรรยา บอกว่าตนเองยิงผิดคน เพราะแฟนใหม่ยังนั่งกินข้าวกันอยู่ต่อหน้าของอดีตภรรยา ตนจึงย้อนกลับมามอบตัว เพื่อยอมรับผิด
ทีมข่าวลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ ถนนข้างตลาดนัดมาบยางพร ต.มาบยางพร อ.ปลวกแดง น.ส.น้ำ (นามสมมติ) อายุ 38 ปี คนเห็นเหตุการณ์ เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ เวลาประมาณ 18.00 น. รถกระบะของนายสาครจอดติดไฟแดงอยู่ ด้านนายสุรพล ผู้ก่อเหตุ ขี่มอเตอร์ไซค์ตามหลังมา มาขนาบฝั่งประตูรถฝั่งคนขับ หลังจากนั้นก็ชักปืนขึ้นมาและจ่อไปที่กระจกรถพร้อมกับตะโกนท้าทายว่า "มึงลงมา" แต่ฝั่งนายสาครไม่เปิดกระจก และไม่ยอมลงจากรถ นายสุรพลจึงใช้ปืนยิงเข้าที่กระจกรถทันที 3 นัด หลังจากนั้นก็รีบขี่มอเตอร์ไซค์หนีไป
ในช่วงเกิดเหตุตนนั่งมองดูอยู่ตลอด เพราะนายสุรพลพูดจาเสียงดังมาก ช่วงที่เขาใช้ปืนจ่อกระจก ตนคิดว่าเป็นนิ้ว แต่เมื่อเสียงปืนดังขึ้นก็รู้ทันทีว่าสิ่งที่เห็นเป็นปืนไม่ใช่มือ ซึ่งหลังจากคนร้ายหนีไป ตนและชาวบ้านก็ได้รีบเข้าไปช่วยเหลือคนเจ็บทันที โดยกระสุนเจาะเข้าไหล่ขวา แขนขวา และเอวฝั่งขวา แต่คนเจ็บยังมีสติและสามารถเดินลงจากรถได้ หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่กู้ภัยก็มารับตัวไปอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์เมื่อวานเกิดขึ้นรวดเร็วมาก ยอมรับว่ารู้สึกตกใจเพราะไม่เคยเจอเหตุการณ์ในลักษณะนี้มาก่อน แต่ก็รู้สึกสบายใจขึ้นเมื่อรู้ว่าคนร้ายมอบตัวแล้ว
นางอุไรพร ขันคงลิง อายุ 42 ปี พี่สาวของคนเจ็บ เปิดเผยว่า สำหรับอาการของน้องชายปลอดภัยแล้ว รอหมอวินิจฉัยว่ากระสุนที่ฝังบริเวณแขนและแผ่นหลังจะสามารถผ่าออกมาได้หรือไม่ แต่บริเวณแผ่นหลังนั้นมีแนวโน้มที่จะผ่าเอากระสุนออกไม่ได้ เพราะกระสุนอยู่ใกล้เส้นเลือดใหญ่และอาจได้รับอันตราย จึงคาดว่าอาจจะต้องปล่อยให้กระสุนฝังอยู่ในร่างกาย ในช่วงเกิดเหตุนั้น ถ้าน้องชายของตนไม่ก้มลงหยิบโทรศัพท์ กระสุนก็คงเจาะเข้าที่หัวเต็ม ๆ แล้ว
ทั้งนี้ น้องชายตนยืนยันว่าเขาไม่รู้จักกับผู้ก่อเหตุมาก่อน และไม่ได้มีเรื่องชู้สาวกับใคร เพิ่งเจอกันตอนที่จอดรถติดไฟแดง เพราะคนร้ายขี่มอเตอร์ไซค์มาขนาบและสั่งให้น้องชายลงจากรถ แต่น้องชายไม่ยอมลงเพราะน้องชายไม่รู้จักเขา คนร้ายก็ใช้ปืนยิงทันที เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พี่สาวของคนยิงก็เดินทางมาขอโทษและยอมรับผิดแทนน้องชาย อ้างว่าคนร้ายจำรถผิดคัน ยอมรับว่ารู้สึกโกรธคนร้าย เจ็บใจเจียนตาย เพราะน้องชายตนเจ็บมาก แต่ถ้าเขาจะมาขอโทษตนก็คิดว่ามันง่ายไป จะให้ตำรวจดำเนินการจนถึงที่สุด