จากกรณีมีชาวบ้านส่งเรื่องราว ระบุว่ามีเพื่อนบ้านทะเลาะกันเพราะที่จอดรถ ถึงขั้นมีการลงมาทำร้ายร่างกายกัน โดยฝ่ายหนึ่งมีการใช้อาวุธมีดแทงอีกฝ่ายจนบาดเจ็บ
วันที่ 3 ธ.ค. 63 ทีมข่าวเดินทางมาที่เกิดเหตุ บริเวณปากซอยมิตรประชา 10 เป็นถนน 2 เลนสวนทางกัน และเป็นแหล่งชุมชน
นางนัน (นามสมมติ) ภรรยาของนายบอย (นามสมมติ) คนเจ็บ เปิดเผยว่า ขณะเกิดเหตุตนเองอยู่หน้าบ้าน ซึ่งเปิดเป็นร้านขายอาหาร สามีตนเองเพิ่งขับรถมาจากซื้อของ โดยมีการยกของเข้ามาที่ร้าน 3 รอบ ระยะเวลาไม่เกิน 5 นาที
รอบที่ 1 สามีตนก็ขนของส่วนหนึ่งมาวางที่หน้าร้าน โดนสามียังบอกตนว่าให้เคลียร์ของที่หน้าร้าน จะได้วางของ รอบที่ 2 สามีขนของมาอีก บอกว่าเดี๋ยวรถเข้าซอยไม่ได้ รอบที่ 3 จังหวะสามีวางของเสร็จก็จะกลับไปที่รถ พบนายหนึ่ง (นามสมมติ) คู่กรณีเดินสวนมาและเกิดเหตุทันที
ส่วนตัวไม่ได้ยินเสียงทะเลาะกันก่อน หรือด่ากันก่อน จังหวะสามีเดินกลับไปที่รถเพื่อจะเลื่อนรถ คู่กรณีก็เดินสวนทางมา น่าจะถือมีดพกติดตัวมาด้วย สามีเล่าว่าคู่กรณีเดินมาถึงและพูดว่า "เดี๋ยว" ก่อนพยายามแทงมาที่คอ แต่สามีหลบได้ ทำให้มีเพียงแผล 3 จุด คือ ที่ขาขวาถูกแทง รอยบาดที่แขนซ้าย และรอยบาดที่ลำคอ ผลเย็บหลายเข็มแต่ไม่แน่ใจจำนวน ตอนนี้ตนยังไม่ได้คุยกับคู่กรณี แต่ตนได้แจ้งความที่ สภ.ปากเกร็ด แล้ว ขอให้เป็นไปตามกฎหมาย
ทั้งนี้ ตนเองยอมรับว่า คู่กรณีกับบ้านตนเหมือนมีอะไรไม่ถูกคอกัน แต่ไม่เคยทะเลาะกัน มีเพียงวันแรกที่ตนมาเช่าบ้านที่นี่ เคยถูกคู่กรณีพูดใส่ทำนองว่า "ผมจะเข้าจะออกบ้าน ต้องรายงานคุณหรอ" หลังจากวันนั้นก็ไม่เคยคุยกันอีกเลย
ซึ่งเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นช่วงต้นปีที่ผ่านมา ตนเองมองว่าเรื่องนี้น่าจะมีการคุยกัน หรือหากไม่พอใจลงมาด่ามาว่ากันตนเองก็จะไม่ว่าสักคำ ไม่น่าลงไม้ลงมือ เพราะตนเองก็ตกใจ ตอนนี้สามีก็ต้องล้างแผลทุกวัน แพทย์ให้ระวังเรื่องการติดเชื้อ
ด้าน พ.ต.อ.พงศ์จักร ปรีชาการุณพงศ์ ผู้กำกับ สภ.ปากเกร็ด ให้ข้อมูลว่า ขณะนี้คดีทราบตัวคู่กรณี 2 ฝ่าย มีการเรียกมาสอบปากคำเบื้องต้นแล้ว ฝ่ายคนเจ็บเป็นผู้แจ้งความ แต่ดูจากพฤติการณ์ ทั้ง 2 ฝ่ายมีส่วนในการกระทำความผิด เจ้าหน้าที่จึงมีการทำสำนวนและเพื่อให้มีการยื่นร้องต่อศาล ส่วนใครจะต้องรับโทษหนักกว่ากันนั้น ขึ้นอยู่กับอาการบาดเจ็บของทั้ง 2 ฝ่าย และทั้ง 2 ฝ่ายให้การรับสารภาพ เบื้องต้นยังไม่ได้สอบโดยละเอียดถึงพฤติการณ์ที่เกิดขึ้น
