จากกรณีกู้ภัยบันทึกภาพขณะปฏิบัติหน้าที่ พบเจอรถกระบะขับรถในลักษณะส่ายไปส่ายมาบนถนน 3 เลน คล้ายคนเมา หลังอ้างตัวเป็นอาสารักษาดินแดน แสดงพฤติกรรมกร่างใส่คนอื่น ทราบชื่อคือนายสุชิน อายุ 56 ปี
วันที่ 11 ธ.ค. 63 นายชาติ (นามสมมติ) อายุ 35 ปี อาสากู้ภัย เล่าว่า ตนเป็นกู้ภัยในพื้นที่ อ.พานทอง จ.ชลบุรี วันเกิดเหตุ 7 ธ.ค. 63 เวลาประมาณ 21.00 น. ตนกลับจากการไปกินข้าวกับแฟนสาวแถวอ่างศิลา พบเห็นว่าการจราจรค่อนข้างติดขัด ด้วยความที่ว่าตนเป็นอาสากู้ภัยก็ประเมินว่าอาจจะเกิดอุบัติเหตุ แต่เมื่อไปถึงพบว่ามีรถกระบะ อีซูซุสีเทาดำ ได้มีการขับรถส่ายไปส่ายมา ทำให้รถคันอื่น ๆ ไม่กล้าที่จะขับเข้าไปใกล้ รถจึงติด จากนั้นตนจึงมีการประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ 191 เพื่อให้สายตรวจสกัดจับ แต่ทางนายสุชิน คนขับรถกระบะก็มีการขับต่อไปเรื่อย ๆ ตนจึงรู้สึกเป็นห่วงว่าจะเกิดอุบัติเหตุ เนื่องจากมีทิศทางการขับในลักษณะคนเมาและหลับใน จึงได้ทำการขับรถตามไป จนกระทั่งเลี้ยวจนไปแยกบ้านสวนเข้าซอย 12 มุ่งหน้าไปที่ตำบลนาป่า นายสุชินจอดรถฉี่ข้างทาง ตนจึงเข้าไปพูดคุยกับนายสุชินซึ่งกำลังอยู่ในอาการมึนเมา และมีท่าทีเอะอะ
โดยนายสุชินอ้างว่าตัวเองเป็นอาสารักษาดินแดนของอำเภอเมืองชลบุรี ตนจึงบอกไปว่า "ลุงทำแบบนี้ไม่ถูกต้อง การเมาแล้วขับแบบนี้มันอาจก่อความเดือดร้อนให้คนอื่น และยิ่งลุงเป็นอาสา ยิ่งไม่ควรทำแบบนี้เลย" จากนั้นตนก็อาสาที่จะขับรถให้ แต่นายสุชินปฏิเสธแล้วบอกกับตนว่าตนว่า "ขับไหว กลับเองได้ ไม่ต้องตามมาอีก" จากนั้นตนก็ยังขับตามต่อไป เนื่องจากกลัวว่านายสุชินจะเกิดอุบัติเหตุ กระทั่งตามไปถึงบ้านอยู่ในพื้นที่ ถนนสุขสมุทร ต.นาป่า อ.เมืองชลบุรี จ.ชลบุรี และทันทีที่นายสุชินจอดรถก็ลงมาเอะอะโวยวายกับตนในลักษณะที่โมโห จากนั้นลูกสาวของนายสุชินก็เดินออกจากบ้านมาพาเข้าบ้าน หลังจากนั้นก็ออกมาขอโทษตน
นางสาวส้ม (นามสมมติ) อายุ 27 ปีลูกสาว เล่าว่า ปกติพ่อของตนประกอบอาชีพรับเหมาก่อสร้าง ซึ่งพฤติกรรมเป็นคนเงียบ ๆ ไม่ค่อยสุงสิงกับคนในบ้าน แต่ถ้ามีใครพูดอะไรไม่เข้าหู ก็จะเป็นคนโผงผาง ปากไว ส่วนมากก็จะออกไปทำงานช่วงเช้า และกลับบ้านมาในช่วงค่ำ หลังเลิกงานก็จะมีการดื่มเหล้าเข้ามาแล้วบ้างกับคนงานด้วยกัน แต่พอกลับมาถึงบ้านก็ไม่ได้มีพฤติกรรมโวยวาย
ส่วนเรื่องของการเป็นอาสา ก็เคยมีการพูดคุยกับคนในครอบครัวว่าจะขอไปเป็นอาสาในส่วนของหน่วยสำรองรักษาดินแดน ชื่อเรียกคือ กองร้อยอาสาเมืองชลบุรี กองบัญชาการรักษาดินแดน ซึ่งขึ้นตรงกับกระทรวงมหาดไทย ทางครอบครัวเห็นว่าพ่อของตนอายุ 56 ปีแล้ว ค่อนข้างอายุมาก ไม่อยากให้ไปสมัครไปเป็นอาสา แต่เหมือนพ่อจะไม่พอใจ ซึ่งก็มีการไปอบรมที่ค่ายทหารเพื่อรับรองการเป็นหนึ่งในกองร้อยอาสาเมืองชลบุรี โดยได้เป็นสมาชิกได้ปีกว่าแล้ว ปฏิบัติหน้าที่จริงก็ไม่กี่ครั้ง ขึ้นอยู่กับว่าแต่ละเดือนมีงานอะไรขอความช่วยเหลือหรือไม่ ซึ่งพ่อของตนก็ดูมีความภาคภูมิใจที่เป็นอาสา มีเครื่องแบบ อาจจะชอบพูดกับคนอื่นว่าเป็นสมาชิกกองร้อยอาสาเมืองชลบุรี
ส่วนเรื่องประวัติการเมาแล้วขับ พ่อของตนยังไม่เคยถูกดำเนินคดี เนื่องจากเส้นทางที่พ่อขับผ่านไม่มีด่าน ตนเคยเตือนพ่อแล้วว่าอย่าเที่ยวไปแอบอ้าง คาดว่าเหตุการณ์ในครั้งนี้คงจะเป็นบทเรียนให้กับพ่อของตน เนื่องจากถูกต้นสังกัดโทรมาให้เอาชุดบัตรประจำตัว และเกียรติบัตรไปคืน
ความคืบหน้าล่าสุด นายปกาสิต ศึกสงคราม ปลัดอำเภอและหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ทำการปลดนายสุชิน ออกจากการเป็นอาสากองร้อยอำเภอเมืองชลบุรีแล้ว โดยระบุว่า นายสุชิน เป็นสมาชิกได้ 1 ปี แต่ไม่ได้มาปฏิบัติหน้าที่บ่อย เนื่องจากเป็นแค่อาสาตัวสำรอง ไม่ใช่ตัวจริง การอบรมเบื้องต้นของนายสุชินเป็นหลักสูตรจัดแถว 15 วัน
ซึ่งสำหรับผู้ที่จะเป็นอาสาตัวจริงจะต้องผ่านกระบวนการสอบปฏิบัติและข้อเขียนอีกหลายอย่าง ไม่ใช่ว่าจะเป็นกันได้ง่าย ๆ ซึ่งก็มีการเรียกให้นายสุชินนำบัตรประจำตัวอาสา และเกียรติบัตรการฝึกอบรมมาคืนเรียบร้อยแล้ว
