ส.ผู้ผลิตถุงมือยางไทยประสานรัฐเจรจาต่างชาติลดภาษีนำเข้า หวังเพิ่มส่วนแบ่งตลาดโลก

14 ธ.ค. 63

สมาคมผู้ผลิตถุงมือยางไทย (TRGMA) เดินหน้าขับเคลื่อนอุตสาหกรรม วางเป้าหมายเพิ่มส่วนแบ่งในตลาดโลกจาก 15% เป็น 20% เร่งเพิ่มศักยภาพแก่ผู้ประกอบการ พร้อมรุกเจรจากลุ่มประเทศต่าง ๆ เพื่อลดอัตราภาษีนำเข้าจากไทย มั่นใจศักยภาพไทยมีความพร้อมด้านวัตถุดิบและคุณภาพสินค้า

นายวีรสิทธิ์ สินเจริญกุล นายกสมาคมผู้ผลิตถุงมือยางไทยหรือ The Thai Rubber Glove Manufacturers Association (TRGMA) เปิดเผยว่า ได้วางนโยบายผลักดันผู้ประกอบการอุตสาหกรรมถุงมือยางของไทยให้ขยายการลงทุนและเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันทุกด้าน เพื่อเพิ่มส่วนแบ่งในตลาดโลกรองรับความต้องการใช้สินค้าที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก โดยมีเป้าหมายเพิ่มส่วนแบ่งเป็น 20% จากปัจจุบัน 15% พร้อมทั้งยกระดับประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตถุงมือยางธรรมชาติของโลก หลังจากประเทศผู้ผลิตรายใหญ่ของโลกอย่างมาเลเซียและจีนได้ขยายกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา โดยเฉพาะจีนสามารถเพิ่มส่วนแบ่งในตลาดโลกในระดับใกล้เคียงกับประเทศไทย จากปัจจุบันที่ไทยเป็นประเทศผู้ส่งออกถุงมือยางมีส่วนแบ่งตลาด (จากปริมาณการขาย) เป็นอันดับ 2 ของโลก

สำหรับสมาคมฯ ได้วางแผนเพิ่มศักยภาพและความแข็งแกร่งแก่ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมถุงมือยางไทย ได้แก่ 1. การประสานงานกับภาครัฐเพื่อให้การสนับสนุนทางการเงินแก่ผู้ประกอบการ รองรับการลงทุนขยายกำลังการผลิต 2. ประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ เช่น สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.), ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (เอ็มเทค) เพื่อเพิ่มองค์ความรู้ด้านการผลิตและส่งเสริมผู้ประกอบการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ถุงมือยางที่เป็นนวัตกรรมใหม่ๆ 3. ประสานงานกับหน่วยงานรัฐบาล เช่น กระทรวงอุตสาหกรรม, กระทรวงพาณิชย์ เพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการไทยขยายกำลังการผลิตและตลาดส่งออกในทุกภูมิภาคทั่วโลก

1_5

นอกจากนี้ ยังได้เดินหน้าประสานงานกับกระทรวงพาณิชย์ เพื่อสนับสนุนการเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของผู้ประกอบการไทยในตลาดส่งออก โดยการเจรจากับกลุ่มประเทศต่างๆ ที่จะปรับลดอัตราภาษีนำเข้าถุงมือยางจากประเทศไทย เนื่องจากปัจจุบันอัตราภาษีนำเข้าสินค้าในบางประเทศที่จัดเก็บจากผู้ประกอบการไทยและผู้ประกอบการมาเลเซียยังมีความแตกต่างกันค่อนข้างมาก ซึ่งถือเป็นหนึ่งในนโยบายที่มุ่งหวังจะผลักดันให้สำเร็จเป็นรูปธรรม

อย่างไรตาม มีความมั่นใจในศักยภาพของผู้ประกอบการไทยและความพร้อมด้านแหล่งวัตถุดิบและเทคโนโลยี โดยเฉพาะการผลิตถุงมือยางธรรมชาติที่มีคุณภาพดี เนื่องจากประเทศไทยเป็นผู้ผลิตและส่งออกยางพารารายใหญ่อันดับ 1 ของโลกมาอย่างยาวนาน จึงเป็นที่ยอมรับและได้รับความเชื่อถือจากคู่ค้าทั่วโลก

“สมาคมฯ พร้อมเป็นหน่วยงานเพื่อประสานกับภาครัฐในการแก้ไขปัญหาอุปสรรคต่างๆ เพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมถุงมือยางไทยในตลาดโลก โดยเฉพาะการเพิ่มศักยภาพเพื่อขยายกำลังการผลิตให้กับผู้ประกอบการ ซึ่งยังมีข้อจำกัด เช่น การเข้าถึงแหล่งเงินทุน กฎระเบียบผังเมือง การขออนุญาตจัดตั้งโรงงาน” นายวีรสิทธิ์ กล่าว

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม