ความคืบหน้ากรณีน้องนาวา วัย 4 ขวบ ลูกเจ้าของสวนผลไม้ 108 ไร่ จังหวัดปทุมธานี ถูกหญิงสูงอายุต่อว่า ระหว่างที่น้องนาวากำลังเล่นน้ำสงกรานต์ เนื่องจากเด็กสาดน้ำใส่รถป้ายแดงของหญิงสูงวัยคนดังกล่าว จนทำให้น้องนาวามีอาการผวา และกลัวจนไม่กล้าเล่นน้ำสงกรานต์อีก ตามที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น
วันนี้ (22 เม.ย.) ที่ตลาดนัดคลอง 6 หลังโรงพยาบาลธัญญะ หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า ตลาดนัดเคหะคลอง 6 ซึ่งเป็นจุดเดียวกันกับที่ชาวบ้านบอกว่า เคยเห็นป้าวัย 70 ปีที่ขับรถเก๋งคันดังกล่าว มาค้าขายบริเวณตลาดแห่งนี้
โดย
นางปรีดา กาญจนารัตน์ หรือ ป้าดา เจ้าของตลาดเคหะคลอง 6 นำทีมข่าวไปดูจุดที่เคยพบป้าเก๋งแดงมาค้าขายปลาดุกฟูกับสามี และทุกครั้งที่ป้าเก๋งแดงมา พร้อมยืนยันว่า ป้ารถเก๋งแดงเป็นแม่ค้าที่ตลาดแห่งนี้ แต่เป็นแม่ค้าขายไม่ประจำ ส่วนเรื่องของคำพูดของป้าเก๋งแดงนั้น ป้าดามองว่า แม่ค้าส่วนใหญ่จากที่ตนเองเคยสัมผัสมา 20 ปี ส่วนมากก็จะพูดประมาณนี้ ซึ่งการพูดลักษณะแบบนี้ ตัวเองก็ชินหูไปแล้ว แต่ถ้าไปพูดกับคนอื่น ก็จะถูกมองว่าเป็นการพูดไม่เพราะไปด้วยหรือเปล่า
“คำว่าแม่ค้า ที่เรียกว่า ปากตลาด ก็แบบนี้แหละ ธรรมดา”
ส่วนกรณีที่ป้ารถเก๋งแดงไปต่อว่าเด็ก 4 ขวบนั้น ส่วนตัวก็มองว่าแรงเกินไป บางทีช่วงเทศกาลสงกรานต์ ก็ควรจะเข้าใจเด็ก ไม่ควรจะไปว่าเด็กแบบนั้น ถ้าเทียบกับตนเองก็มีคนเอาน้ำสาด ตนเองก็ไม่ว่าอะไร
เช่นเดียวกับ
นางสุรัตนา ศรีศิล หรือ ป้าสุ ในฐานะคนดูแลและเก็บค่าเช่าแผง บอกกับทีมข่าวว่า ตนเองเคยเจอกันป้าเก๋งแดง ขณะที่ไปเก็บเงินค่าแผง ป้าเป็นคนพูดจาเพราะ อัธยาศัยดี และก็แต่งตัวเป็นผู้ดี ส่วนตัวยังมองว่าเป็นผู้ดีตกยากแล้วมาขายของด้วยซ้ำ และส่วนใหญ่เวลาคุยกันป้า ก็จะเรียกตนเองว่าลูกตลอด และเวลาเจรจาคุยกันก็จะคุยดีเสมอ แต่บางทีแผงค้าเต็มก็จะรอจนกว่าเจ้าของที่ประจำไม่มา ป้าจึงจะไปลงขายตรงที่ว่างแทน ส่วนเวลามาค้าขาย ก็จะเห็นว่าป้ามากัน 2 คน ซึ่งไม่ทราบว่าเป็นสามีของป้าหรือไม่
เมื่อถามว่าวันที่เกิดเรื่องด่าเด็ก 4 ขวบนั้น แรงเกินไปหรือไม่ ป้าสุ บอกว่า จากลักษณะของนิสัยและคำพูดของป้าเก๋งแดงถือว่าพูดจาเพราะ ดูเป็นผู้ดี แต่ด้วยเหตุเกิดจากความโกรธ ก็อาจมีโมโห หรือพูดจาไม่ดีไปบ้าง ซึ่งเมื่อเทียบกับหลายคนเวลาโกรธ ก็คงจะพูดลักษณะคล้ายๆ กัน
ด้าน
นายชาญศักดิ์ ปิ่นสวรรค์ พ่อน้องน้องนาวา เปิดเผยว่า อาการผวาของน้องนาวาดีขึ้น เพราะมีคนรู้จักเข้ามาเยี่ยมมาคุย และให้กำลังใจตลอด แต่เวลานอนยังเห็นว่ามีอาการละเมอและตกใจตื่นมาร้องไห้ ซึ่งปกติน้องจะนอนหลับสนิท ไม่เคยเจออาการแบบนี้
ส่วนเรื่องที่จะพาน้องนาวาไปพบจิตแพทย์นั้น ครอบครัวยังคิดหนักมาก เพราะถ้าพาน้องไป ก็กลัวว่าน้องจะรู้สึกแย่กว่านี้ เพราะกลัวว่าเด็กจะมองว่าตนเองเป็นบ้าหรือไม่ที่พาที่โรงพยาบาล ประกอบกับช่วงสิ้นเดือนนี้ น้องนาวาก็จะต้องกลับไปภาคใต้ที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เพื่อเข้าเรียนตามปกติ หลังโรงเรียนเปิดเทอม แต่ถ้าน้องยังไม่หายดี และประเมินแล้วว่าน้องยังไม่ปกติ ก็จะยังไม่พากลับไป แต่จะหาโรงเรียนใกล้เคียงให้น้องเข้าเรียนไปก่อน
ทั้งนี้ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ป้าเก๋งแดงไม่สามารถไปค้าขายได้เหมือนเดิมนั้น พ่อน้องนาวา บอกว่า ตอนนี้ก็เป็นห่วง และคนที่บ้านทุกคนก็เป็นห่วง ตนเองเชื่อว่าถ้าเรื่องแบบนี้เกิดกับตนเอง จนไปค้าขายไม่ได้ ก็คงจะรู้สึกไม่ดี ส่วนที่แม่ค้าในตลาด บอกว่า ป้าเก๋งแดงปกติพูดจาดี แต่งตัวดี พ่อน้องนาวาบอกว่า ส่วนตัวก็เห็นเท่าที่ตนเองเคยเจอมากับตัว ไม่รู้ว่าก่อนหน้าจะเป็นอย่างไร แต่ในสิ่งที่ป้าเก๋งแดงมาพูดกับตนเอง ก็ทำให้ตนเองและน้องนาวาตกใจพอสมควร แต่ถ้าความจริงจะเป็นอย่างไรก็คงให้สังคมเป็นคนตัดสิน