เหลือเชื่อ! เรือคว่ำตาย 3 ศพ ยังงมไม่ครบ ตกเย็นรถจมน้ำดับอีก 2 หิ้วศพขึ้นฝั่ง 28 ชม. (คลิป)

31 ธ.ค. 63

กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าตะเกียบ รับแจ้งเหตุเรือล่มภายในอ่างเก็บน้ำคลองสียัด บริเวณเขาตะแบก บ้านท่าคาน หมู่ที่ 2 ต.ท่าตะเกียบ อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา ทำให้มีผู้สูญหายใต้น้ำ โดยเป็นนักท่องเที่ยวจำนวนหลายราย จึงรุดไปยังจุดเกิดเหตุ และประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยพนม จุดอ.ท่าตะเกียบ นำเรือยนต์ และเจ้าหน้าที่ชุดประดาน้ำเข้าค้นหาผู้สูญหาย

483280

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ ลักษณะอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ เนื้อที่ประมาณ 5 หมื่นไร่ ความจุน้ำโดยประมาณ 420 ล้านลูกบาศก์เมตร มีความลึกลาดชันตั้งแต่ 10-50 เมตร

เบื้องต้นทราบว่าผู้รอดชีวิตและผู้เสียชีวิต เป็นนักท่องเที่ยวเดินจากกรุงเทพฯ เพื่อมาท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยได้นั่งเรือยนต์หางยาวของนายประคอง บุญเลี้ยง อายุ 50 ปี เพื่อข้ามไปเกาะกลางน้ำ แต่เกิดอุบัติเหตุเรือล่มระหว่างทางได้มีคลื่นลมพัดแรง และน้ำเข้าในตัวเรือเป็นเหตุให้เรือล่มลงกลางอ่างเก็บน้ำ ซึ่งมี 9 คน สามารถว่ายน้ำเข้าฝั่งได้ 

659445

แต่มีผู้สูญหาย 3 ราย คือ นางรัชดา ปิดตาทะเน อายุ 49 ปี ภรรยานายประคอง คนขับเรือ และนักท่องเที่ยว 2 คน คือ นายตั้ง ฮวดใช้ อายุ 65 ปี และนายเทิดศักดิ์ ปราบภัย อายุ 52 ปี

234736168599

กระทั่งเวลา 22.00 น. พบผู้สูญหาย 2 ราย คือ นางรัชดา ที่ศพห่างจากจุดเกิดเหตุ 10 ม. และนายเทิดศักดิ์  พบศพห่างจากจุดเกิดเหตุ 20 ม. ขณะนี้เจ้าหน้าที่กู้ภัยกำลังช่วยกันค้นหา ผู้สูญหายอีก 1 คน คือ นายตั้ง ฮวดใช้ อายุ 65 ปี ซึ่งยังไม่พบตัว ทั้งนี้ในเวลาต่อมาทราบชื่อผู้รอดชีวิตดังต่อไปนี้

1.นายประคอง บุญเลี้ยง อายุ 50 ปี ไต้ก๋งเรือ
2.ด.ญ.กัญจิรา บุญเลี้ยง อายุ 7 ปี ลูกสาวไต้ก๋งเรือ
3.ด.ญ.สุกัญญา ช่วงงาม อายุ 9 ปี เพื่อนลูกสาวไต้ก๋งเรือ
4.นายธนากร เล็กวงค์พร อายุ 44 ปี นักท่องเที่ยว
5.นายลัญฉกร เล็กวงค์พร อายุ 15 ปี นักท่องเที่ยว
6.ด.ช.พรกวิษย์ เล็กวงค์พร อายุ 14 ปี นักท่องเที่ยว
7.นางไลลา ต้มเด่น อายุ 39 ปี นักท่องเที่ยว
8.นายประชุม อินทร์โพธิ์ นักท่องเที่ยว
9.นางมาริสา บุญเลี้ยง อายุ 49 ปี นักท่องเที่ยว

567487774128

ล่าสุดวันที่ 31 ธ.ค.63 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้ลงไปในพื้นที่อ่างเก็บน้ำคลองสียัด บริเวณเขาตะแบก บ้านท่าคาน หมู่ที่ 2 ต.ท่าตะเกียบ อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา โดยพบว่า เจ้าหน้าที่เร่งดำเนินการค้นหา ทางญาติของนายตั้ง ฮวดใช้ อายุ 65 ปี ผู้สูญหาย ก็มาติดตามการค้นหาตัวนายตั้งอย่างใจจดใจจ่อ ลูกชายได้ยืนเฝ้ารอคอย ทางน้าชายและน้องชายได้นำธูปพร้อมกับดอกไม้มาขอขมา เพื่อให้เจอนายตั้งโดยเร็ว

438147

ส่วนทางด้านเจ้าหน้ากู้ภัยได้เร่งกันค้นหาอย่างเต็มกำลัง ตั้งแต่ช่วงเวลา 07.30-12.00 น. ได้หยุดพักการค้นหา เพื่อรับประทานอาหาร จากนั้นได้ออกเรือไปค้นหาอีกครั้ง ตรงบริเวณพื้นที่ที่เรือล่ม ก่อนจะยุติในช่วงเวลา 15.00 น. เพราะเกิดอุบัติเหตุรถนักท่องเที่ยวพุ่งตกถนนในอ่างเก็บน้ำ

โดยนายวรวุฒิ พึ่งบารีธรรม อายุ 42 ปี ผู้จัดการสมาคมพุทธอุปถัมภ์แห่งประเทศไทย ระบุว่า เมื่อวานได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า เกิดเหตุเรือล่ม ขณะจะไปตกปลา โดยมีผู้บาดเจ็บหลายราย และผู้สูญหาย 3 ราย จึงสั่งให้อาสาสมัครกู้ภัยของตำบลท่าตะเกียบเข้ามาตรวจสอบในพื้นที่ ขณะที่เดินทางมานั้นยอมรับว่ามีการล่าช้า เนื่องจากจุดที่เกิดเหตุสามารถเข้าหลายทางและจุดเกิดเหตุไม่แน่ชัด พอมาถึงพบผู้บาดเจ็บ 1 รายจึงส่งไปยังโรงพยาบาลท่าตะเกือบ

727290

จากนั้นได้ประสานกู้ภัยฉะเชิงเทราเข้ามาร่วมกันค้นหาในพื้นที่  พร้อใกับนักประดาน้ำ โดยเมื่อวันที่ 30 ธ.ค.63 ที่ผ่านมา มีกู้ภัย 50 กว่านายช่วยกันค้นหา สำหรับอุปสรรคของการค้นหา ความมืด อากาศที่หนาวเย็น ใต้ท้องน้ำมีต้นหนาม และตอไม้จำนวนมาก ซึ่งวานนี้ในเวลา 22.00 น.ได้ค้นหาศพนายเทิดศักดิ์ ปราบภัย ห่างจากเรือประมาณ 20 ม. ต่อมาพบศพนางรัชดา ปิดตาทะเน ประมาณ 10 ม. ซึ่งยุติการค้นหาเมื่อเวลา 02.00 น.

171955

ในวันนี้เริ่มการค้นหาในเวลา 08.00 น. ขณะปฏิบัติงาน ก็ยังคงพบปัญหาเดิมสภาพอากาศลมแรง น้ำเย็น ซึ่งก็จะพยายามทำงานให้เต็มที่ อยากให้เจอให้โดยเร็วที่สุด ส่วนแผนการค้นหาในวันนี้ มีเรือทั้งหมด 4 ลำ ได้แบ่ง 2 ลำ ออกค้นหาบริเวณพื้นผิวน้ำ วนหาให้ทั่วตีวงให้กว้างที่สุด ขณะนั้ยังไม่ทราบชัดเจนว่าผู้สูญหายจะลอยไปทิศทางไหน อีก 1 ลำจอดให้นักประดาน้ำลงค้นหา ซึ่งตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา เจอเพียงกระเป๋า 1 ใบของผู้รอดชีวิต ซึ่งในกระเป๋ามีเพียงเสื้อผ้าเท่านั้น

484670

นายสำเริง กลางนอก อายุ 53 ปี น้องของภรรยาผู้เสียชีวิต กล่าวว่า เวลา 16.00 น. พี่สาวของตนได้บอกว่าพี่เขยเกิดอุบัติเหตุเรือล่ม ขณะนั้นตนเชื่อว่าพี่เขยน่าจะรอดชีวิต เพราะเป็นอดีตทหาร เพิ่งเกษียณอายุงานได้ 5 ปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังว่ายน้ำได้ จึงรีบมาที่เกิดเหตุ พอมาถึงก็พบว่าเสียชีวิตจริง

เมื่อคืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้พบเจอศพ 2 ราย ตนได้ไปดูกลับไม่ใช่พี่เขย ด้วยความที่รูปร่างพี่เขยจะผอมกว่านายเทิดศักดิ์ ตนคาดว่านายเทิดศักดิ์น่าจะว่ายน้ำไม่เป็น พี่เขยตนจึงว่ายเข้าไปช่วยเหลือ หรืออีกสาเหตุหนึ่งที่พี่อาจจมน้ำ เนื่องจากมีโรคประจำตัว เหนื่อยหอบ

ปกติแล้วพี่เขยไม่ค่อยไปเที่ยวต่างจังหวัดกับเพื่อนบ้าน แต่ครั้งนี้เพื่อมาดูทำเล หาสถานที่เที่ยวให้กับคนในเครือญาติ ซึ่งไม่ได้เตรียมสัมภาระมาเยอะ

667227

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนไม่ได้ติดใจเอาความกับนายประคอง เพราะนายประคอง ก็สูญเสียเช่นเดียวกับครอบครัวของตน และนายประคองยังมีน้ำใจที่ช่วยเหลือเด็กให้มีชีวิต แต่เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ครอบครัวของพี่สาวตนสูญเสียเสาหลักของครอบครัว และยังทำใจไม่ได้

สำหรับลักษณะนิสัยใจคอของพี่เขย เป็นคนดี ช่วยเหลือผู้อื่น แม้กระทั่งรปภ.ที่ไม่มีเสื้อ พี่เขยก็จะนำมาให้ เหล้าไม่กิน บุหรี่ไม่สูบ ก่อนเหตุการณ์ครอบครัวไม่มีลางสังหรณ์ ทางพี่เขยบอกเพียงว่าจะออกไปซื้อของเท่านั้น

ภายหลังวันนี้ครอบครัวได้จุดธูปขอขมาเจ้าที่เจ้าทาง ขอให้พบเจอศพ นอกจากนี้ตนเชื่อว่าน่าจะเจอศพภายในวันนี้ และเชื่อที่บริเวณตรงนี้น่าจะเป็นอาถรรพ์ จากคำบอกเล่าของชาวบ้านได้บอกว่าที่บริเวณดังกล่าวในช่วงปีใหม่ จะมีการเอาชีวิตนักท่องเที่ยวทุกปี

402576

ด้านนายจำนงค์ กลางนอก อายุ 72 ปี น้าเขยผู้เสียชีวิต ได้นำธูปมาจุดขอขมา เพื่ออยากเจอหลานเขย ระบุว่า ดมื่อวันที่ 30 ธ.ค.63 ที่ผ่านมา ครอบครัวนายตั้งโทรศัพท์มาบอกตนว่า นายตั้งเรือล่ม จึงรีบเดินทางมาจากโคราช ตนไม่ทราบรายละเอียดที่เกิดขึ้น ปกติแล้วนายตั้งไม่ค่อยชอบท่องเที่ยวตกปลา แต่ครั้งนี้เพื่อนมาชวนมา ตนคาดว่าวันนี้น่าจะเจอนายตั้งอย่างแน่นอน

605081

ขณะเดียวกันทีมข่าวได้พูดคุยกับนายธนากร เล็กวงค์พร อายุ 44 ปี หนึ่งในผู้รอดชีวิต ที่ออกจากโรงพยาบาล มาให้กำลังใจเจ้าหน้าในการปฏิบัติการค้นหาเพื่อนบ้านที่ยังเหลืออยู่ เล่าว่า ก่อนหน้านี้นายเทิดศักดิ์ (ผู้เสียชีวิต) ซึ่งเป็นเพื่อนบ้าน ได้ชักชวนตนมาเที่ยวสังสรรค์เทศกาลปีใหม่ที่อ่างเก็บน้ำแห่งนี้ เพราะเห็นว่าตนและครอบครัวไม่ได้วางแผนไปเที่ยวที่ไหน โดยตั้งใจจะมาเช้ากลับเย็นตนจึงพาครอบครัวมา พอมาถึงได้ขนสัมภาระพวกอาหารและเครื่องดื่มมาที่เรือ แต่ขณะเดียวกันเกาะกลางน้ำที่ตนจะไปนั้น ก็มีเพื่อนบ้านจำนวน 6 คน (ไม่รวมครอบครัวไต้ก๋งเรือ) ที่ลงเรือไปตกปลา ทำอาหารรออยู่ล่วงหน้าแล้ว

171831

ก่อนที่จะลงเรือมีสภาพอากาศที่ลมแรง ตนได้สอบถามนายประคอง ไต้ก๋งเรือว่าหากเรือล่มจะทำอย่างไร เพราะมีคนจำนวน 12 คน โดยนายประคอง ระบุว่า หากน้ำไม่เข้าในเรือก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่ตนได้ถามกลับไปอีกว่าหากน้ำมันเข้าจะทำเช่นไร แต่นายประคองยืนยันว่าไปได้ พร้อมกับวัดระดับน้ำ จึงได้ออกเรือไปไม่มีใครสวมใส่เสื้อชูชีพ ซึ่งออกเรือไม่ถึง 5 นาทีก็เกิดเหตุการณ์ โดยน้ำพัดเข้ามาในเรือ ทำให้ช่วงท้ายของเรือดิ่งจมลงน้ำ ต่างคนต่างกระจัดกระจายว่ายน้ำ เพื่อเอาชีวิตรอด

cg2_2

กระทั่งเด็กผู้หญิง 2 คนที่นั่งอยู่หัวเรือจมน้ำ ร้องขอความช่วยเหลือ ตนเห็นกระติกน้ำสีเหลือง จึงว่ายไปเอากระติกน้ำให้กับเด็ก ๆ ตนพยายามมองดูครอบครัวของตน ที่ประกอบด้วยภรรยา และลูกชาย 2 คน ขณะเดียวกันลูกชายได้ตะโกนบอกให้ทุกคนมีสติ ทำให้ตนพยายามประคองตัวเองว่ายน้ำหาที่จับ สุดท้ายก็มาจนถึงใกล้ฝั่ง ถึงแม้ว่าลมแรง ทำให้คลื่นน้ำพัดตนไม่ให้เข้าฝั่ง

ส่วนนายประคองได้พาลูกสาว เพื่อนลูกสาว และภรรยาของนายเทิดศักดิ์เข้าฝั่ง จากนั้นนายประคองนำเรืออีกลำที่อยู่ริมฝั่งมารับตน เพื่อออกไปช่วยเหลือคนที่สูญหาย แต่ก็ไม่ทัน ซึ่งคนที่เสียชีวิตคาดว่าน่าจะว่ายน้ำไม่เป็น และทางเพื่อนบ้านที่อยู่เกาะกลางน้ำ ได้พยายามเข้ามาช่วยเหลือ แต่ก็ไม่สามารถมาช่วยได้ เนื่องจากกระแสลมที่แรงและไม่มีอุปกรณ์ในการช่วยเหลือ

448115

เหตุการณ์การครั้งนี้ยอมรับว่าตนใจมาก ตนพาครอบครัวมากัน 4 คน ถ้าไม่ไหวก็คงเสียชีวิตทั้งหมด หลังจากเกิดเหตุกู้ภัยได้ส่งตัวตนไปรักษา เนื่องจากมีความดันสูง

สำหรับตนแล้วไม่ได้รู้จักกับนายประคองเป็นการส่วนตัว และเพิ่งเคยมาเที่ยวที่อ่างเก็บน้ำแห่งนี้เป็นครั้งแรก และตนไม่ได้ติดใจเอาความอะไรกับนายประคอง

นายธนากร ยังกล่าวต่อว่า เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดจากความประมาท ไม่น่าจะโดยสารเรือด้วยคนที่จำนวนมาก ถึงแม้จะรู้ว่าเรืออาจจะรับน้ำหนักไม่ไหวตั้งแต่แรก อย่างไรก็ตามจากเหตุการณ์เฉียดตาย ตนขอให้ทุกคนดูแลความปลอดภัย สวมใส่เสื้อชูชีพ อย่าประมาทในการใช้ชีวิต ทางนี้ไม่มีลางสังหรณ์อะไร

336239

นอกจากนี้ทีมข่าวได้พูดคุยกับทางชาวบ้านที่มานั่งให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่นายปรีชา จันทรเดช อายุ 52 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 30 ธ.ค.63 ที่ผ่านมา ทางผู้ใหญ่บ้านได้โทรศัพท์ติดต่อมาหาตน เนื่องจากคาดว่าเรือที่จมนั้นเป็นเรือของตน จึงรีบมาที่เกิดเหตุ กระทั่งพบว่าเรือหางยาวของตนได้จอดอยู่ ส่วนเรือหางยาวของนายประคองได้จมลงไปใต้น้ำ ซึ่งตนและนายประคอง มีอาชีพออกเรือหาปลาด้วยกัน โดยนายประคอง ทำอาชีพหาปลาได้ประมาณ 3-4 ปีแล้ว ซึ่งชำนาญทาง แต่ปกติแล้วนายประคองจะไม่ใช้เรือบรรทุกคนจำนวนมาก

ในวันที่เกิดเหตุมีกระแสลมที่แรง และตนคาดว่าเรือหางยาวของนายประคอง ไม่สามารถรับน้ำหนักจำนวนคนไม่มากถึง 12 คน ซึ่งมากที่สุดที่ตนเคยให้นั่งมีเพียง 8 คนเท่านั้น และอีกสาเหตุหนึ่งคนที่นั่งอยู่ในเรืออาจจะเกร็ง จึงทำเคลื่อนไหวลำบาก

654168

นอกจากนี้พื้นที่อ่างเก็บน้ำดังกล่าวอดีตเคยเป็นไร่มันสำปะหลัง และบ้านของชาวบ้าน ไม่ใช้พื้นที่อาถรรพ์ ใต้น้ำเป็นแอ่งกระทะ มีความลึกประมาณ 4 ม. มีหญ้าและต้นหนามอยู่ใต้น้ำ บริเวณอ่างเก็บน้ำเคยมีอุบัติเหตุเรือล่มถึง 2 ครั้งแล้ว ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 โดยครั้งก่อนสังเวยไป 7 ศพ ซึ่งที่บริเวณดังกล่าวนี้มักจะมีแต่นักท่องเที่ยวเท่านั้นที่มาเสียชีวิต เรือมักจะล่มในช่วงเทศกาลปีใหม่และสงกรานต์ ตนเชื่อว่าชาวบ้านในพื้นที่ที่ไม่เสียชีวิต คาดมีเจ้าพ่อเขากาช่วยปกปักรักษา

132275

ในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าตะเกือบ จ.ฉะเชิงเทรา รับแจ้งเหตุรถจมน้ำ มีผู้เสียชีวิต ภายในอ่างเก็บน้ำสียัด ม.2 ต.คลองตะเกา อ.ท่าตะเกียบ จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมหน่วยกู้ภัยพนมสารคาม หน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทราและมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

662781

โดยที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิต 2 ราย ได้แก่ นางปณิตา ตะพรหม อายุ 25 ปี และเด็กอายุ 6 ขวบ ทั้งนี้มีผู้รอดชีวิต 2 ราย เป็นเด็กผู้หญิง อายุ 15 ปี และ 17 ปี ทั้งสองคนนามสกุลเดียวกันกับผู้ตาย ลอยคอรอความช่วยเหลืออยู่ในบริเวณอ่างเก็บน้ำ เจ้าหน้าที่จึงช่วยเหลือขึ้นมาได้อย่างปลอดภัย และยังมีเด็กผู้หญิง นามสกุลเดียวกันกับผู้ตาย อายุ 5 ขวบ ยังหาร่างไม่พบ

230012

เบื้องต้นผู้ขับขี่รถยนต์ ที่ขับมาเส้นทางดังกล่าว ซึ่งเป็นเส้นทางที่เลิกใช้ไปแล้ว เพราะมีน้ำท่วมตลอดเส้นทาง ชาวบ้านได้พยายามห้ามว่า "ไม่ให้ไป ๆ" แต่รถคันดังกล่าวก็ได้ขับลุยน้ำไป ก่อนจะไปดับกลางทาง ประกอบกับมีลมแรง คลื่นลูกใหญ่ซัดเข้าตรงบริเวณรถ เป็นเหตุรถพลัดตกจมลงในอ่างเก็บน้ำ

329137

นอกจากนี้จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตั้งแต่เมื่อวันที่ 30 ธ.ค.63 เกิดเหตุเรือนักท่องเที่ยวล่มในอ่างเก็บน้ำสียัดแห่งนี้ ทำให้มีผู้ประสบเหตุถึง 12 ราย เสียชีวิตพบร่างแล้ว 2 ราย และอีก 1 รายยังสูญหาย เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างค้นหาร่างเช่นกัน

639591

ทีมข่าวได้พูดคุยกับชาวบ้านหมู่บ้านเขากระดาษ ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับที่รถยนต์ถูกกรแสน้ำพลัดตกลงจากเส้นถนน นางเตือง นันประโคน อายุ 53 ปี กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่มีใครเห็นเหตุการณ์ เนื่องจากเส้นทางถนนดังกล่าวเป็นทางลัดไปอีกเขาอีกลูกหนึ่ง เดิมทีถ้าไม่มีเขื่อนสามารถสัญจรได้ แต่เมื่อสร้างเขื่อนชาวบ้านจะต้องดูฤดูกาลของน้ำ หากเดือนไหนน้ำลดก็สามารถข้ามไปได้ โดยปีนี้คาดว่าสิ้นเดือน ม.ค.64 ก็สามารถข้ามได้

cg1_2

เหตุการณ์ครั้งนี้ตนคาดว่านักท่องเที่ยวน่าจะเคยมาในช่วงฤดูแล้ง ทำให้เห็นทาง จึงทำให้วันนี้ก็มาเส้นทางเดิม หากใช้เส้นทางถนนดังกล่าวจากหมู่บ้านของตนไปยังอีกฝั่งหนึ่ง ระยะทาง 3 ม. แต่ถ้าอ้อมจะประมาณ 10-15 ม. ซึ่งปกติแล้วทางเจ้าหน้าที่จะไม่ให้วิ่งถนนเส้นดังกล่าว

นางเตือน ยังกล่าวว่า ส่วนตัวก็ยังไม่มั่นใจว่าจากเหตุการณ์นี้ จะเป็นเรื่องลี้ลับหรือาถรรพ์วิญญาณหาตัวตายตัวแทนหรือไม่ เพราะเหตุการณ์ที่นักท่องเที่ยวเรือล่มจมน้ำเสียชีวิต 3 ศพที่ท้ายเขื่อน ก็เพิ่งจะเกิดเหตุไม่ถึง 24 ชม. แต่ที่นี่ก็เคยมีเรื่องราวแปลก ๆ คือก่อนหน้านี้ประมาณ 1 เดือน มีเด็กในหมู่บ้านเดินไปบนถนนเส้นนี้ แต่ระหว่างเดินมีคนในหมู่บ้านมาเห็น จึงดึงมือและรีบพากลับเข้าหมู่บ้านได้ทัน และจากการพูดคุยกับเด็กรายนั้น ได้อ้างว่ามีคนพาเดินจูงมือเดินลงไป

919333

ด้านนายยุทธพฤทธิ์ พูนเกษ อายุ 51 ปี อาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ระบุว่า ขณะที่ตนปฏิบัติหน้าที่การค้นหาผู้สูญหายจากเหตุการเรือล่ม ในเวลา 15.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุ รถตกลงไปยังเขื่อน จึงได้ขับเรือมา เพราะเนื่องจากหากใช้เส้นทางปกติจะใช้เวลานาน โดยใช้เวลาเกือบหนึ่งชั่วโมงมาถึงที่เกิดเหตุ ขณะที่มาพบเจอผู้ประสบภัย 2 ราย ลอยมาอยู่ในน้ำจึงได้นำขึ้นมาซีพีอาร์ และอีก 1 ราย เจ้าหน้าที่ขับเจ็ตสกีนำตัวมาส่ง

461480

เบื้องต้นทราบว่ารถที่ประสบเหตุ เป็นเก๋งยี่ห้อ Suzuki Swift สีดำ ขณะที่ขับมาประชาชนได้ห้ามปรามแล้วว่าเส้นทางดังกล่าวไม่สมควรไป ตนคิดว่าคนขับน่าจะเป็นคนนอกพื้นที่ ไม่คุ้นชินเส้นทาง จึงขับเข้าไป โดยเส้นทางบริเวณนี้ หากไม่ใช่หน้าแล้ง ชาวบ้านจะไม่ใช้เส้นทางอย่างเด็ดขาด นอกจากนี้เส้นทางดังกล่าวจะมีป้ายเตือนบอกว่าห้ามเข้า แต่ประชาชนบางคนอาจไม่สังเกต จึงได้ขับรถผ่านเข้ามา

805540

อย่างไรก็ตาม ตนยอมรับว่าหนักใจมาก หลังจากเจอ 2 เคสต่อต่อกัน เพราะภารกิจค้นหาเรือล่มยังไม่สามารถสำเร็จ พร้อมกับรู้สึกแย่มาก เพราะทีมงานก็เหนื่อย ทำงานกันทั้งหมด 28 ชั่วโมง ยังไม่ได้พักผ่อน ส่วนการค้นหานั้นครั้งนี้ รู้พิกัดแล้ว เนื่องจากเจอแผ่นป้ายทะเบียนรถ ห่างจากจุดเกิดเหตุออกไป 500 ม. ขณะนี้ได้ประสานสำนักงานใหญ่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งให้นำกำลังชุดนักประดาน้ำมาสมทบ

903692

ขณะนี้มีนักประดาน้ำมีทั้งหมด 12 ราย และจะเดินทางมาสมทบจากกรุงเทพฯ อีก 8 นาย ส่วนอุปสรรคขณะนี้การค้นหายากลำบาก เนื่องจากน้ำมีความเย็น ยังมีแนวต้นไม้ที่มีหนามไม่สามารถเข้าไปได้ แต่ขณะดียวกันได้วางแผนใช้เชือกเป็นไกด์ไลน์ในการนำพาค้นหาผู้สูญหายอีก 1 ราย พร้อมกับรถ ทั้งนี้คาดว่าจะการค้นหาให้เจอ ยังไม่ได้กำหนดเวลาหยุดการค้นหา

advertisement

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส