แม่ร่ำไห้กอดร่างลูกเก๋งจมอ่างเก็บน้ำดับ 3 ศพ กู้ภัยเผยนาทีบนเจ้าพ่อเขากาก่อนเจอศพ (คลิป)

1 ม.ค. 64

กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าตะเกือบ จ.ฉะเชิงเทรา รับแจ้งเหตุรถจมน้ำ มีผู้เสียชีวิต ภายในอ่างเก็บน้ำสียัด ม.2 ต.คลองตะเกรา อ.ท่าตะเกียบ จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมหน่วยกู้ภัยพนม หน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทราและมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

156886

โดยที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิต 2 ราย คือน.ส.ปนิดา ตะพรม อายุ 25 ปี และด.ญ.จิรัชยา คำมุข อายุ 6 ขวบ และมีผู้รอดชีวิต 2 ราย คือน.ส.วิมลรัตน์ ตะพรม อายุ 15 ปี และน.ส.วัลย์นภา ตะพรม อายุ 17 ปี  นอกจากนี้ยังคงมีด.ญ.วิมลสิริ  ตะพรม อายุ 5 ขวบ ลูกสาวของน.ส.ปนิดา ซึ่งยังหาร่างไม่พบ

553386

เหตุการณ์เบื้องต้น ช่วงบ่ายโมงนางปนิดา ตะพรม ได้ขับรถยนต์สีดำออกจากบ้านที่หมู่บ้านเขากล้วยไม้ เพื่อจะไปซื้อนมผงให้ ด.ญ.วิมลสิริ ลูกสาวที่ตลาดหนองคอก ซึ่งอยู่ห่างจากหมู่บ้านตัวเองประมาณ 30 กิโลเมตร ภายในรถมีด.ญ.วัลย์นภา ตะพรม, ด.ญ.จิรัชยา และน.ส.วิมลรัตน์ หลานสาวขอนั่งติดรถไปเที่ยวที่ตลาดด้วย โดยในรถยนต์มีคน จำนวน 5 คน

842163

โดยที่น.ส.ปนิดา (ผู้เสียชีวิต) เป็นคนขับ, น.ส.วัลย์นภา (ผู้รอดชีวิต) นั่งข้างคนขับ, ด.ญ.วิมลศิริ (ผู้สูญหาย) นั่งเบาะหลังฝั่งซ้าย, น.ส.วิมลรัตน์นั่งตรงกลาง (ผู้รอดชีวิต)
และ ด.ญ.จิรัชยา (ผู้เสียชีวิต) นั่งเบาะหลังฝั่งขวาหลังคนขับ

หลังจากนั้นพอซื้อนมซื้อขนมเสร็จเรียบร้อย และทุกคนก็กลับมาขึ้นรถ เพื่อกำลังกลับบ้านของตัวเอง ระหว่างทางน.ส.ปนิดาคนขับจำได้ว่าเส้นทางในหมู่บ้านเกาะกระทิง มีถนนที่ตัดข้ามอ่างเก็บน้ำคลองสียัด และจะทำให้ร่นระยะทางในการกลับบ้านได้อีก 20 กิโลเมตร

101931

น.ส.ปนิดาจึงตัดสินใจขับรถเข้ามาในถนนเส้นนี้ พอมาถึงจุดหมู่บ้านเกาะกระทิง สังเกตเห็นเริ่มมีน้ำท่วมอยู่บนพื้นผิวถนน แต่ระดับน้ำสูงแค่ประมาณ 10-20 เซนติเมตร น.ส.ปนิดา ก็เลยตัดสินใจขับรถฝ่าน้ำเข้ามาประมาณ 300 เมตร จนมาถึงสะพานคลองตะเกา และเห็นมีชาวบ้านจอดรถจักรยานยนต์อยู่สองข้างทางบนสะพาน และจุดนี้ชาวบ้านได้ตะโกนทักว่า ให้กลับรถ อย่าขับเข้าไปมันอันตราย เพราะน้ำท่วมทาง รถไม่สามารถไปต่อได้ แต่น.ส.ปนิดา ไม่ได้สนใจสิ่งที่ชาวบ้านเตือน จนพ้นสะพาน ระดับน้ำก็เริ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ระหว่างนั้นน.ส.ปนิดา ก็ได้โทรศัพท์กลับมาที่บ้าน โดยบอกว่ารถกำลังจะจมน้ำที่อ่างเก็บน้ำคลองสียัด ให้มาช่วยหน่อย ก่อนสายจะถูกตัดไป จากนั้นรถก็ถูกกระแสน้ำพัดจนตกพื้นผิวถนนลงไปยังอ่างเก็บน้ำ ทุกคนในรถจึงตัดสินใจเปิดกระจกและปีนออกมาจากตัวรถ

น.ส.ปนิดา และน.ส.วัลย์นภา ก็ช่วยกันนำเด็ก ๆ มาไว้บนหลังคารถ เพื่อหลังให้รถลอยอยู่บนน้ำ และรอจนมีคนมาช่วย แต่ด้วยกระแสน้ำที่เชี่ยวทำให้น้ำพัดรถลอยไปไกล และรถก็จมน้ำ น.ส.ปนิดาด้วยความที่ห่วงลูกและห่วงรถ จึงพยายามส่งเด็ก ๆ ให้ลอยคออยู่บนน้ำ ส่วนตัวเองก็ลอยหายไปกับตัวรถ ก่อนจะเสียชีวิตที่โรงพยาบาล

841601

ล่าสุดวันที่ 1 ม.ค.64 เวลา 12.15 น. ทางหน่วยกู้ภัยได้ประชุมหารือการในค้นหา โดยจะตีวงกลมค้นหาจุดพบผู้เสียชีวิต 2 รายในระยะรัศมี 10 ม. และหากไม่เจอจะค่อย ๆ ขยับไปอีก 10 ม. มีนักประดาน้ำ 20 นาย จะปฏิบัติหน้าดำค้นหาทีมละ 5 นาย ซึ่งจุดที่พบร่างผู้เสียชีวิตห่างจากจุดพบรถ 10 ม. และห่างจากเส้นทางพื้นผิวถนน 25-30 ม.

ด้านบรรยากาศบริเวณสะพานคลองตะเกรา ที่ระดับน้ำสูง 20 ซม. วัดจากความสูงของผู้สื่อข่าว ได้มีเจ้าหน้าที่ตั้งเต็นท์ เป็นศูนย์อำนวยการ เจ้าหน้าที่กู้ภัยและนักประดาน้ำยังคงเร่งหาร่างของผู้สุดท้าย มีชาวบ้านที่มาคอยให้กำลังใจ และได้มีญาติผู้รอดชีวิตและผู้เสียชีวิตมาดูรถ และนำอาหารมาให้เจ้าหน้าที่

652118

นางบุญศรี คำควร อายุ 44 ปี แม่ของ ด.ญวิมลรัตน์ หนึ่งในผู้รอดชีวิต กล่าวว่า เมื่อวานนี้ น.ส.ปนิตาได้ออกไปซื้อนมให้กับลูกสาว ก่อนจะประสบอุบัติเหตุ ภายหลังลูกสาวตนได้รอดชีวิต เล่าให้ฟังว่า ขณะที่ซื้อนมขนมเสร็จแล้ว น.ส.ปนิดา ได้ขับรถมายังจุดเกิดเหตุ เพื่อที่จะมาชมวิว ขณะนั้นที่ขับเข้ามาน้ำยังไม่มีความลึก แต่พอขับต่อไปอีกครึ่งทาง ชาวบ้านได้ตักเตือนว่าทางไม่สามาถไปได้ แต่น.ส.ปนิดาได้ฝืนขับไปต่อ ถอยหลังกลับไม่ได้ จากนั้นได้เกิดกระแสน้ำเป็นคลื่นลูกใหญ่ ทำให้ซัดรถไปยังริมอ่างเก็บน้ำ ก่อนที่จะเริ่มจมไปทีละน้อย คนที่อยู่ภายในรถได้ตะโกนบอกว่าน้ำขึ้นมาครึ่งรถแล้ว ให้รีบออกจากรถ จึงตัดสินใจลงมาจากรถ แต่กระแสน้ำมันแรง ต่างคนต่างช่วยกันคว้าตัวกัน ก่อนที่ลูกสาวของตนจะจำอะไรไม่ได้

544193

ปกติแล้ว น.ส.ปนิดา และเด็ก ๆ ที่อยู่ในรถจะไม่ได้อาศัยอยู่ในหมู่บ้าน ได้ออกไปทำงานและใช้ชีวิตที่กรุงเทพฯ จึงทำให้ไม่คุ้นชินเส้นทาง นาน ๆ ทีจะกลับบ้าน ซึ่งน.ส.ปนิดาอาจจะเคยมาใช้เส้นทางดังกล่าวในช่วงที่น้ำแล้ง และสิ่งที่ยังข้องใจคือทำไมจุดบริเวณดังกล่าวไม่มีป้ายบอกว่าไม่ให้ใช้เส้นทางและด่านกั้น ซึ่งหากมีด่านเด็ก ๆ คงไม่ขับรถเข้ามา แต่ก็ไม่ได้ติดใจเจ้าหน้าในพื้นที่ เพียงแต่ว่าเขาคงไม่ได้คิด โดยก่อนเกิดเหตุไม่ได้มีลางสังหรณ์เกิดขึ้น แต่เชื่อว่าบริเวณอ่างเก็บน้ำมีอาถรรพ์ เพราะเกิดอุบัติเหตุเรือล่ม

ขณะนี้ลูกสาวพ้นขีดอันตราย แต่สภาพจิตใจยังย่ำแย่ เวลาที่หลับตาก็จะเห็นวินาทีที่หนีตาย ส่วนครอบครัวอื่น ๆ ที่สูญเสีย สภาพจิตใจย่ำแย่เช่นกัน

817896

กระทั่งเวลา 15.00 น. ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยทำภาระกิจสำเร็จ หลังสามารถค้นหาร่าง ด.ญ.จิรัชยา หรือ น้องกระติ๊บ ได้ จากนั้นกู้ภัยนำร่างของร่างขึ้นเรือกลับเข้าฝั่งบริเวณสะพานคลองตะเกรา โดยไม่มีญาติมาดูร่างของผู้เสียชีวิต เนื่องจากยังยุ่งกับงานศพและยังทำใจไม่ได้

280729

โดยเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้เจอร่างน้องกระติ๊บ ลอยขึ้นมาเหนือน้ำ ในลักษณะคว่ำหน้า ห่างจากจุดที่พบรถ 200 เมตร จึงช่วยกันยกร่างน้องกระตื้บขึ้นมาบนฝั่ง เมื่อมาถึงฝั่งนายปิติรัตน์ ปัญญาสาร อายุ 39 ปี ทีมกู้ภัยป่อเต๊กตึ้งที่พบศพทีมแรกได้บอกว่า ขณะกำลังหาล่องเรือร่างน้องกระติ๊บอยู่ ได้มีชาวบ้านในพื้นที่ตะโกนบอกว่า ให้ไปบนบาน บอกกล่าวเจ้าพ่อเขากา และให้ถวายเหล้ากับเจ้าพ่อ เพราะถ้าไม่บนบานศาลกล่าว ก็หาศพไม่เจอ

790366239268

ทั้งนี้หนึ่งในทีมงานจึงไปบนบานบอกว่าจะถวายเหล้าให้ 2 ขวด และก็กลับมาค้นหา ตนได้มองมาแนวของรถที่ตก ประกอบกับกระแสลมพัดแนวตรงที่พัดตรงมาจากจุดที่รถพลัดตก ประมาณ 15 นามี ก็เจอร่างน้องกระติ๊บทันที นอกจากนี้ ขณะปฏิบัติหน้าที่พบว่ามีอุปสรรคในการค้นหา เพราะด้านล่างเป็นจำพวกวัชพืช หนามไมยราบ

923030

นายปิติรัตน์ ยังเผยอีกว่า สำหรับการค้นหา ถ้าพูดตามความเชื่อ ก็อยู่กับวิจารณญาณของแต่ละบุคคล แต่สำหรับตัวเองนั้นเชื่อว่าที่นี่มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ปกปักรักษาที่นี่อยู่ และหากไม่ได้ชาวบ้านที่ตะโกนบอก เผลอ ๆ ป่านนี้ก็ยังคงค้นหาไม่เจอร่างน้องกระติ๊บ และอาจจะประกอบด้วยน้องเสียชีวิต 24 ชั่วโมงแล้ว จึงทำให้ร่างลอยขึ้นมาก็ได้

988847

ทีมข่าวได้เดินทางไปยังวัดเขากล้วยไม้ หมู่ 14 ต.คลองตะเกรา จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นที่สถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศลของ น.ส.ปนิดา ตะพรม อายุ 25 ปี และด.ญ.จิรัชยา คำมุข อายุ 6 ขวบ และด.ญ.วิมลสิริ ตะพรม อายุ 5 ขวบ พบว่า ช่วงเย็นที่ผ่านมาศพของน.ส.ปนิดา ที่ตั้งอยู่ฝั่งซ้าย และด.ญ.จิรัชยา ตั้งศพตรงกลาง ทั้ง 2 ศพยังไม่ได้นำร่างบรรจุภายในโรงศพ โดยญาติยังคงรอรับศพ ด.ญ.วิมลสิริ เพื่อที่จะรดน้ำศพพร้อมกัน ซึ่งศพของด.ญ.วิมลสิริตั้งอยู่ฝั่งขวา

669075

ต่อมาเวลา 18.50 น. ศพของ ด.ญ.วิมลสิริ มาถึงวัด ก่อนจะเริ่มพิธีรดน้ำศพ โดยญาติของน.ส.ปนิดา และด.ญ.วิมลสิริ ยังไม่พร้อมให้ผู้สื่อข่าวสอบถาม เนื่องจากสูญเสียทั้งลูกและหลานสาว ยังทำใจไม่ได้จริง ๆ

574634

ทีมข่าวยังพบว่ายายของ ด.ญ.จิรัชยาได้ร่ำไห้กอดศพหลานสาวอยู่ตลอด ไม่ห่างศพไปไหน โดยน.ส.เจนจิรา คำมุข อายุ 24 ปี แม่ของด.ญ.จิรัชยา หนึ่งในผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ภายหลังจากเกิดเหตุแม่ของตนได้โทรศัพท์ไปแจ้งว่า ลูกสาวของตนตกอ่างเก็บน้ำยังหาไม่เจอ ขณะนั้นตนทำงานอยู่ที่แปดริ้วจึงได้ลางาน ช่วงที่เดินทางแม่ของตนได้บอกว่าพบลูกสาวแล้ว ให้เจอกันที่โรงพยาบาล ตนจึงรีบไป

816427

แต่พอถึงที่โรงพยาบาล พ่อของตนบอกให้เข้าไปดูลูกสาว ในใจขณะนั้นคิดว่าลูกสาวรอดชีวิต แต่พวกน้าบอกว่าน้องเสียแล้ว หัวใจสลายทันที ไม่ได้บอกลากัน โดยปกติแล้วลูกสาวจะเป็นคนเงียบ ๆ ไม่ค่อยพูด ก่อนเกิดเหตุแม่ของตนได้ห้ามปรามไม่ให้ลูกสาวตนไป เพราะยังไม่ได้ทานข้าว และแม่ของตนก็ไม่ได้ไปด้วย แต่ด้วยความที่ลูกสาวของตนสนิทกับน.ส.วิมลรัตน์ และน้องกระติ๊บ จึงขอไปด้วย

พื้นที่ถนนที่เกิดเหตุนั้นปกติ คนจะใช้ช่วงหน้าแล้ง แต่ช่วงนี้น้ำขึ้นทำให้ระดับน้ำสูง และเท่าที่ตนทราบก่อนเกิดเหตุมีรถสิบล้อสวนมา ทำให้น.ส.ปานิดา ขับตามมา คิดว่าน่าจะขับไปได้ ซึ่งคาดว่าน.ส.ปานิดา ก็เคยไปยังจุดเกิดเหตุ ทุกปีเครือญาติครอบครัวของตนจะนัดพบปะกันทุกปี เหตุการณ์แบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นกับครอบครัว ถือว่าเป็นเหตุการณ์แรกและเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ ตนไม่ได้มีลางสังหรณ์อะไร แต่สำหรับแม่ของตนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาฝันว่า ลูกสาวของตนเสียชีวิต คนในครอบครัวไม่ได้เอะใจอะไร จึงไม่ได้พาน้องไปทำบุญ 

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส