ระทึก! เรือเกาะเกร็ดคว่ำทำหนุ่มใบ้จมดับ คนขับไหว้รับผิดขอบวชชดใช้ คนรอดตายแฉไร้ชูชีพ (คลิป)

กรณีมีผู้พิการทางการการพูดและการได้ยิน ว่าจ้างเรือเช่าเป็นเรือสองตอนเล็ก ให้พาเที่ยวชมวัด แต่มีการสื่อการกันผิดพลาด เมื่อถึงท่าเรือแล้วปรากฏว่า สื่อสารกับผิด จากนั้นจึงนำเรือออกจากท่าอิฐแล้วเกิดอุบัติเหตุขึ้น

ล่าสุดวันที่ 3 ม.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี มีโอกาสพูดคุยกับนายสุรชัย อรัญญิก อายุ 42 ปี ผู้ช่วยเจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัย อบต.ท่าอิฐ บอกกับทีมข่าวว่า ตนได้รับแจ้งเหตุว่ามีอุบัติเหตุทางน้ำ เวลาประมาณ 19.00 น. เมื่อไปถึงบรรยากาศค่อนข้างชุลมุน มีเจ้าหน้าที่หลายส่วนเข้ามาผนึกกำลังช่วยเหลือ

โดยแผนการค้นหาก็มีการสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์ เพื่อถามถึงจุดสุดท้ายที่เห็นเรือจม จากนั้นมีทีมนักประดาน้ำ จากมูลนิธิร่วมกตัญญู ประมาณ 10 นาย เริ่มปฏิบัติการค้นหา แบ่งเป็นชุดละ 6 คน และสลับเปลี่ยนกันในทีม โดยเริ่มออกปฏิบัติการตั้งแต่เวลา 19.30-23.00 น. รวมทั้งสิ้น 10 ไดร์ฟ ใช้เวลาไดร์ฟละ 1 ชม. ซึ่งพบเพียงซากเรือที่จมอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ แต่ไม่พบผู้สูญหาย ซึ่งอุปสรรคในการค้นหา คือ กระแสน้ำที่ค่อนข้างไหลเชี่ยว อุณหภูมิของน้ำที่ค่อนข้างเย็น และสีของน้ำที่ขุ่น

ภายในวันนี้เองก็ไม่ได้มีการค้นหาเพิ่มแต่อย่างใด ซึ่งอยู่ในขั้นตอนของการรอเก็บกู้ศพแล้ว ซึ่งคาดว่าร่างของผู้สูญหายจะลอยขึ้นมาก็ต่อเมื่อครบ 24 ชม. โดยจากการสอบถามทีมนักประดาน้ำของมูลนิธิร่วมกตัญญู บอกว่าเหตุการณ์อุบัติเหตุในทางน้ำค่อนข้างเกิดขึ้นบ่อย และแม่น้ำตรงจุดเกิดเหตุก็ค่อนข้างไหลแรงและเชี่ยว จากกระแสน้ำที่หมุนวน เรือเล็กอาจจะต้องระมัดระวังมากยิ่งขึ้น

1.นายฉัตรชัย อายุ 42 ปี (ไกด์ ผู้สูญหาย)
2.น.ส.พลอยไพลิน อายุ 42 ปี
3.นายวัลลภ อายุ 40 ปี
4.นายอรุณ ศิลปี อายุ 47 ปี
5.นายโต้ง อายุ 44 ปี
6.นายขวัญชัย พิณโทแก้ว อายุ 42 ปี (คนขับเรือ)

จากนั้นทีมข่าวได้เข้าไปพูดคุยกับนายขวัญชัย พิณโทแก้ว อายุ 42 ปี คนขับเรือ เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า ตนทำอาชีพขับเรือรับจ้างมานานกว่า 10 ปี ค่อนข้างชำนาญและคุ้นเคยกับเส้นทางและการขับเรือ โดยลักษะเรือเป็นเรือหางยาวขนาดกลาง นั่งได้ 5-6 คน ซึ่งต้องใช้ความเร็วในการโต้น้ำ

โดยในวันที่ 2 ม.ค.64 ตนรับกลุ่มนักท่องเที่ยวมาจากท่าเรือปากเกร็ด ซึ่งกลุ่มที่รับมาเป็นผู้พิการทางการได้ยิน เดินทางมากัน 5 คน บอกว่าจะนั่งเรือไปเที่ยววัด โดยมีการเปิดรูปให้ดู ซึ่งตนก็เข้าใจว่าเป็นวัดท่าอิฐ จึงตอบตกลงและพาขึ้นเรือ พอขับมาเรื่อย ๆ ก็ไม่มีปัญหาอะไร กระทั่งขับมาถึงวัดท่าอิฐ กลุ่มนักท่องเที่ยวบอกว่าไม่ใช่วัดท่าอิฐ ให้เลยไปอีก

จังหวะที่เรือกำลังเรือกำลังโต้ขึ้นเหนือน้ำ เป็นจังหวะที่เรือไปกระแทกลงกับผิวน้ำ กลายเป็นว่าพื้นผิวใต้เรือกระแทกกับขอนไม้ ขนาดใหญ่ทำให้ท้องเรือแตก และเรือพลิกคว่ำด้านซ้าย หลังจากนั้นนายอรุณ นายวัลลภ นายโต้ง และน.ส.พลอยไพลิน พร้อมสุนัข 2 ตัว ว่ายน้ำเข้ามาทางฝั่งวัดท่าอิฐ ส่วนนายฉัตรชัย ว่ายน้ำไปทิศทางฝ่ายตรงข้ามวัดท่าอิฐ ซึ่งตนได้ตะโกนร้องขอให้ช่วยเหลือ พร้อมโยนเสื้อชูชีพให้กับผู้เสียหาย

ทั้งนี้ตนขับเรือมาหลายปี ยังไม่เคยเจออุบัติเหตุทางน้ำ เหตุการณ์ดังกล่าวถือว่าเป็นครั้งที่ใหญ่ที่สุด คืนที่ผ่านมายังคงรู้สึกผิดและโทษตัวเอง เครียดจนกินไม่ได้นอนไม่หลับ เป็นห่วงผู้เสียหาย และรู้สึกสงสารผู้ที่สูญหาย ตนขอโทษ พร้อมจะรับผิดชอบทุกกรณี วันนี้ได้บนบานศาลกล่าวไว้ว่า ขอให้เจอร่างของนายฉัตรขัย ถ้าเจอเร็ว ๆ นี้ ตนบนบานไว้ว่าจะบวชให้นายฉัตรชัย 7 วัน

ต่อมาทีมข่าวได้มีการเข้าไปพูดคุยกับ น.ส.พลอยไพลิน อายุ 41 ปี หนึ่งในผู้เสียหายที่รอดชีวิต ระบุว่า ตนและเพื่อนวางแผนที่จะมาทำบุญในช่วงวันขึ้นปีใหม่ ที่วัดศาลากุล จ.นนทบุรี จึงมาขึ้นเรือที่ท่าเรือปากเกร็ด ด้วยการเปิดรูปวัดในโทรศัพท์ให้คนขับเรือดู พร้อมเขียนข้อความในโทรศัพท์ว่า จะเดินทางไปวัด โดยคนขับเรือบอกกับตนเพียงว่า ราคาเรือไปกลับ 200 บาท แล้วให้ตนกับเพื่อนขึ้นเรือ

จากนั้นก็ขับมาเรื่อย ๆ แล้วคนขับเข้าใจผิดว่าจะมาวัดท่าอิฐ ตนจึงกวักมือบอกกับคนขับเรือว่าเลยแล้ว จากนั้นท้องเรือก็กระแทกกับขอนไม้ใต้น้ำพลิกคว่ำ ในส่วนของนายวัลลภ นายอรุณ นายโต้ง คนขับเรือ และสุนัขของตน 2 ตัว ว่ายน้ำกลับเข้าฝั่งด้านวัดท่าอิฐ ส่วนนายฉัตรชัย ว่ายน้ำออกไปฝั่งคนข้ามคนเดียว

ทุกคนว่ายน้ำเป็นหมด มีแค่ตนว่ายน้ำไม่เป็น สำลักน้ำไปเยอะ ซึ่งนายวัลลภ เป็นผู้จับแขนตนขึ้นฝั่ง ส่วนนายฉัตรชัยที่ว่ายน้ำออกไปอีกฝั่ง ตนมองว่ากระแสน้ำตรงกลางแม่น้ำค่อนข้างไหลแรง เลยทำให้นายฉัตรชัยไม่สามารถต้านแรงน้ำได้

ทั้งนี้ตนยืนยันว่า บนเรือไม่มีเสื้อชูชีพให้ใส่จริง ๆ คนขับก็ไม่ได้มีการถาม หรือบอกให้ใส่เสื้อชูชีพใด ๆ ก่อนที่จะลงเรือ ส่วนตัวมองว่าทางกรมเจ้าท่าควรมีมาตรการที่เข้มงวดกว่านี้ สำหรับเรือท่องเที่ยวควรมีเสื้อชูชีพให้สวมทุกคน ที่ตนมาจุดเกิดเหตุในวันนี้ ตนก็หวังว่าจะพบตัวของนายฉัตรชัย ซึ่งตนทราบแค่ว่า นายฉัตรชัยมีญาติอยู่ที่ภาคใต้ และยังไม่สามารถติดต่อได้ เนื่องจากโทรศัพท์ก็หายไปพร้อมกับตัวนายฉัตรชัย

ส่วนตัวยังคงรู้สึกตกใจกลัว และเสียใจที่ช่วยเพื่อนไม่ได้ ถ้าเพื่อนว่ายน้ำมาทางเดียวกันก็น่าจะรอด แต่ถ้าจะให้แก้ปัญหาที่ต้นเหตุเลยก็คือ ให้มีการสวมใส่เสื้อชูชีพทุกคน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก ตอนนี้ไม่กล้าขึ้นเรืออีกต่อไปแล้ว ภาพที่เห็นยังคงวนเวียนอยู่ ทำให้ตนนอนไม่ได้ ฝันร้ายว่าจมน้ำจนสะดุ้งตื่นหลายครั้ง

นอกจากนี้ ตนอยากอยากให้นายขวัญชัย คนขับเรือรับผิดชอบมากกว่าแค่การพูดว่าขอโทษ วันนี้ตนได้คุยกับนายขวัญชัย แต่ได้ใจความเพียงแค่ว่า จะรับผิดชอบทุกอย่างที่เกี่ยวกับนายฉัตรชัย ตนจึงสงสัยว่า แล้วพวกตนที่เข้าโรงพยายาบาล ไม่เห็นมีใครพูดถึง ซึ่งค่ารักษาพยาบาลของเพื่อนอีก 3 คน ตนเป็นคนจ่ายเองทั้งหมด