ลุงพลสั่งถอดกล้องรอบบ้านผวาเจอดักฟัง หมอปลาฉุนถูกโยงลั่นไม่ขอเหยียบ “กกกอก” (คลิป)

11 ม.ค. 64

เมื่อวันที่ 11 ม.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางลงพื้นที่หมู่บ้านกกกอก จ.มุกดาหาร ได้พบกับนายไชย์พล วิภา หรือ ลุงเขยของน้องชมพู่ กล่าวว่า กรณีเมื่อเดือนที่ผ่านมา มีการเผยเเพร่คลิปลุงพลเตะกล่อง ซึ่งก็เกิดการวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในโซเชียลฯ ว่าตนเปลี่ยนไปมีนิสัยรุนเเรง ซึ่งสาเหตุก็เนื่องจากก่อนหน้านั้นบังเอิญไปเจอเครื่องดักฟังอยู่ในรถ อยู่บริเวณคอนโซลหน้าเกียร์ ตนมองว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการละเมิดสิทธิ์อย่างรุนเเรง จึงเกิดอารมณ์โมโหเเละเตะกล่องดังกล่าว

111695

ลุงพล ยังกล่าวว่า "หากตอนนั้นเจ้าของเครื่องอยู่ใกล้ ๆ ผมก็คงไม่เตะกล่อง เเต่คงเตะเจ้าของเครื่องไปเเล้ว ดังนั้นใครรู้ตัวว่าเป็นเจ้าของเครื่องดักฟัง ก็ขอให้เเสดงตัวเเละออกมาชี้เเจง ว่าใส่เพราะอะไร มีวัตถุประสงค์เพื่ออะไร เหตุใดจึงไม่บอกกันก่อนว่านำเครื่องเเบบนี้มาใส่รถผม"

titled_3

ส่วนกรณีหมอปลาให้สัมภาษณ์เรื่องกล้องวงจรปิด ที่ติดตั้งให้ฟรีที่บ้านของลุงพลด้วยความบริสุทธิ์ใจ แต่กลับคิดว่าติดตั้งเพื่อจับผิดลุงพล

ลุงพล กล่าวว่า เรื่องกล้องวงจรปิด หมอปลาติดตั้งให้เพราะความเป็นห่วง เนื่องจากตอนนั้นคดียังวุ่นวายกลัวว่าจะมีผู้ไม่หวังดี เเอบนำอะไรบางอย่างเข้ามาไว้ในบ้าน ตนก็เข้าใจหมอปลาเป็นอย่างดี เเต่สาเหตุที่ถอดออกทั้งหมด เพราะยังไม่ได้เปลี่ยนรหัสไวไฟ อีกทั้งกล้องดังกล่าวสามารถดูผ่านเเอปพลิเคชันได้ ตนก็ไม่ทราบว่านอกจากตนเเล้วมีใครดูบ้าง จึงถอดออกเพื่อความสบายใจ ไม่เกี่ยวกับการระเเวงหมอปลา

523266

ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้พูดคุยกับ นางสมพร หลาบโพธิ์ หรือป้าเเต๋น กล่าวถึงกรณีเครื่องดักฟังที่อยู่ในรถ ว่าเดือนที่เเล้ว ตนสังเกตเห็นวัตถุเเปลก ๆ อยู่ในรถ วางอยู่บริเวณคอนโซลหน้าเกียร์

โดยเครื่องดังกล่าวมีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า สีดำ ขนาดความยาว 7.5 เซนติเมตร กว้าง 4 เซนติเมตร หนา 2 เซนติเมตร เเละภายในมีซิมการ์ดโทรศัพท์อยู่ 1 ซิม

882747

เเต่ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไร เพราะคิดว่าคงเป็นอุปกรณ์ที่เเถมมากับรถ เเต่ด้วยความอยากรู้จึงนำไปถามยูทูบเบอร์ที่อยู่รอบ ๆ บ้าน ก็ทราบว่าเป็นเครื่องจับตำเเหน่งจีพีเอส ซึ่งถ้าโทรเข้าโทรออก ก็จะสามารถดักฟังได้ ลุงพลบังเอิญมาได้ยินพอดี ก็เกิดความโมโหเเล้วเตะกล่องดังกล่าว

cg_11

ป้าเเต๋น ระบุว่า การนำเครื่องดักฟังมาไว้ในรถ มองได้ 2 ประเด็น โดยประเด็นเเรกเจ้าของเครื่องอาจจะหวังดี กลัวว่าจะมีคนมาทำอันตรายลุงกับป้า จะได้ทราบตำเเหน่งว่าไปที่ไหน เเต่สิ่งที่ทำให้ป้าเเต๋นข้องใจ คือ เหตุใดไม่บอกกันล่วงหน้า จึงอยากถามไปถึงเจ้าของเครื่องว่า "ไว้ใจกัน ทำไมถึงต้องดักฟัง" ประกอบกับช่วงเวลาที่เจอเครื่องดักฟัง เป็นช่วงที่เป็นเรื่องเป็นราว จึงเสียความรู้สึกเป็นอย่างมาก เเต่ก็เก็บความรู้สึกมานานเเละไม่ได้บอกสื่อ

ป้าเเต๋น ยังกล่าวอีกว่า นอกจากคนในหมู่บ้านกกกอก เเละนอกจากญาติพี่น้อง ยังมีคนอีก 4 คน ที่ป้าเเต๋นรู้สึกว่าเขาดีกับเราจริง ๆ คือ คุณมิ้นกับคุณเเชมป์ ผู้ที่มาสร้างบ้านให้ เเละหมอปลากับคุณน้ำฟ้า ที่คอยช่วยเหลือมาโดยตลอด ซึ่งเราก็ยังรักเหมือนเดิม หวังว่าสักวันเขาคงเข้าใจ

776307

ส่วนกรณีที่หมอปลาบอกว่า การกระทำกับคำพูดของลุงพลย้อนเเย้งกัน ลุงพลกล่าวว่า "ผมอยากถามหมอปลาเหมือนกัน ว่าที่ผ่านมาหมอปลาจริงใจกับผมหรือไม่ ซึ่งผมมองว่านอกจากคนที่มาสร้างบ้านให้ผมเเล้ว ก็ยังมีหมอปลากับคุณน้ำฟ้าที่จริงใจกับผมมากที่สุด ทำอย่างให้ผมด้วยใจ ไม่เหมือนบางคนที่เข้ามาเกาะกระเเส

ดังนั้นครั้งนี้ขอเป็นครั้งสุดท้ายที่จะคุยเรื่องหมอปลากับคุณน้ำฟ้า เพราะผมจะไม่เอาผู้มีพระคุณต่อผมมาพูดผ่านสื่ออีกเเล้ว" ซึ่งหลังจากนี้ก็ขอให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าหมอปลากับคุณน้ำฟ้าจะยังช่วยเรื่องคดีต่อหรือไม่ เเต่อยากบอกว่าตนยังรักเคารพหมอปลาเเละคุณน้ำฟ้าเหมือนเดิม ไม่เคยเปลี่ยนเเปลง ยืนยันว่ายังเป็นไชย์พล วิภา คนเดิม ไม่ได้ดังเเล้วลืมตัว

936604

ลุงพล กล่าวว่า ตนได้มีโอกาสดูบทสัมภาษณ์ของหมอปลาผ่านทางอมรินทร์ ทีวี ถึงเเม้ว่าหมอปลาจะประกาศว่าจะไม่ช่วยตนอีก เเต่ตนกลับมองว่าที่ผ่านมาหมอปลาก็ได้ช่วยเหลือตนในหลายด้าน รวมถึงช่วยหาหลักฐานทางคดี "ผมมองว่าหมอปลาเเละคุณน้ำฟ้าเป็นผู้มีพระคุณต่อผมมาก ผมจะไม่ไปก้าวก่าย ผมจะเคารพสิทธิ์การตัดสินใจของหมอปลา เเละคุณน้ำฟ้า"

ดังนั้นการจะช่วยหรือไม่ช่วย ก็อยู่ที่ดุลยพินิจของหมอปลาเเละคุณน้ำฟ้า เพียงเเต่อยากให้หมอปลากับคุณน้ำฟ้าได้เเยกเเยะ ระหว่างลุงพลป้าเเต๋น กับบุคคลที่สามที่พยายามปั่นทำให้เราทะเลาะกัน

422241

ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี สอบถามหมอปลาในหลายประเด็นด้วยกัน โดยหมอปลาบอกว่าขณะนี้คล้ายกับลุงพลขยันสร้างประเด็น ซึ่งการช่วยเหลือคนของตนในครั้งนี้ถือว่าหนักที่สุดในขีวิต ตนช่วยด้วยความบริสุทธิ์ใจ ไม่มีอะไรแอบแฝง แต่คนอวยลุงพลก็ก้มหน้าก้มตาอวย แล้วมาต่อว่าตน ขณะนี้ตนรู้สึกมากกว่าเสียใจ “มันกว่าคำว่าเสียไปแล้ว มันหาคำเปรียบไม่ได้แล้ว”

134819

ประเด็นลุงพลควงกุญแจร้องเพลง หมอปลาบอกตนไม่ซีเรียส ตนซีเรียสประเด็นอื่นคือประเด็นเครื่องดักฟัง ถ้าตนทำตนคือคนที่ชั่วสุด ๆ แล้ว แต่ตนไม่ได้ทำ ตนคงไม่ขอกุญแจคืน เพราะตนคงไม่ไปเหยียบหมู่บ้านกกกอกอีก หากไปก็คงไปรายงานตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กกตูม เผื่อมีหมายเรียกให้ไปให้ข้อมูล

201134

นอกจากนี้การเตะกล่องของลุงพล หมอปลาบอกว่า ตนได้พูดคุยกับทนายโนบิ ซึ่งทนายโนบิเล่าว่า เขาได้พูดคุยกับลุงพลแล้ว ลุงพลบอกทนายโนบิว่า นอนร้องไห้ “ไม่คิดว่าคนที่ไว้ใจจะทำกันได้” ที่เตะเพราะเจอเครื่องดักฟังในรถ และพุ่งเป้ามาที่ตน แต่ทำไมเวลาที่ลุงพลให้สัมภาษณ์สื่อกับช่องยูทูบ ลุงพลถึงบอกว่าไม่ได้ระแวงตน อีกทั้งลุงพลยังนำรูปเครื่องดักฟังที่ค้นหามาจากอินเตอร์เน็ตให้ทนายโนบิดู

ทั้งนี้ตนขอชี้แจงว่า ในวันติดกล้องหน้ารถและกล้องวงจรปิดในบ้านให้ลุงพลนั้น มีชาวบ้านและยูทูบเบอร์อยู่เป็นจำนวนมาก หากตนติดเครื่องดักฟังจริง ก็ต้องมีคนเห็น หากลุงพลเจอเครื่องดักฟังจริง ก็ขอให้นำออกมาโชว์ต่อหน้าสื่อ และไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อที่จะตรวจสอบต้นต่อว่าเครื่องดักฟังนั้นเป็นของใคร ไม่ใช่นั่งเทียนบอกยูทูบเบอร์ให้ปั่นกระแสเต้าข่าว หากบอกว่ามีแล้วไม่นำออกมาโชว์ระวังจะเป็นหมา

976967

นอกจากนี้ ตนตั้งข้อสังเกตว่ากล้องวงจรปิดนั้น ไม่ใช่เพียงตนที่ติดให้ แต่ลุงพลเองก็ซื้อกล้องมีติดเพิ่มเองด้วย ที่ลุงพลระแวงเช่นนี้ ตนคาดว่าน่าจะเกิดจากควาบลับในครอบครัวบางอย่างของลุงพลหลุดไปในสื่อโซเชียลฯ และช่องยูทูบบางช่องหรือไม่ แบตเตอรี่ของเครื่องดักฟังจะอยู่ได้นานสักแค่ไหน 15-30 วันก็หมดแล้ว

อย่างไรก็ตาม ตนขอยืนยันว่า “ผมไม่เคยคิดไม่ดี ไม่เคยคิดเรื่องแบบนี้ ไม่เคยคิดอะไรเลย” เรื่องทั้งหมดตนโทษยูทูบเบอร์ เมื่อเกิดเหตุเช่นนี้ก็ขอให้ลุงพลกับยูทูบเบอร์ปกป้องกันให้ถึงที่สุด หลายคนเตือนตนเกี่ยวกับการช่วยเหลือลุงพล แต่ตนก็ช่วยเพราะลุงพลไม่เหลือใคร และตนมั่นใจว่าลุงพลไม่ได้ผิด ตอนนี้ตนยังคงมั่นใจอยู่ว่าลุงพลไม่ได้ผิด แต่ขณะนี้ตนขอไม่ยุ่งเกี่ยวด้วยแล้ว ตนไม่ได้ทิ้งแต่ลุงพลระแวงตน ตนจึงอึดอัด แม้ตนจะถอยออกมา ตนก็ยังคงถูกระแวง 

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส