ตำรวจบุกขึ้นเขา พิสูจน์ลายนิ้วมือกล่องนมแกะรอยใครเซ่นชมพู่ จ่อเรียกญาติสอบ (คลิป)

24 ม.ค. 64

เมื่อวันที่ 24 ม.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้ประสานข้อมูลจากตำรวจภูธรมุกดาหาร หลังจัดส่งชุดสืบสวนและป่าไม้ ลงพื้นที่ขึ้นไปบนภูเหล็กไฟ ซึ่งตำรวจได้ขึ้นไปเพื่อเก็บของเซ่นไหว้ ด้านบนภูเขา จุดที่พบศพน้องชมพู่

182405

โดยจะนำไปตรวจอย่างละเอียด เกี่ยวกับที่มาของเครื่องเซ่นดังกล่าว เพื่อเชื่อมโยงตัวบุคคล เผื่อมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีน้องชมพู่ และทราบข้อมูลว่าในวันที่ 25 ม.ค.64 เจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมที่จะเรียกคนในครอบครัวบางส่วน ไปให้ข้อมูลเกี่ยวกับของเซ่นไหว้ดังกล่าว แต่ยังไม่ระบุบุคคล สถานที่ และเวลา

360609

ทีมข่าวจึงได้เดินทาง ไปพูดคุยกับตาชาญ หลาบโพธิ์ ตาของน้องชมพู่ บอกว่า เรื่องกรณีของเซ่นไหว้ที่เจอบนจุดพบศพน้องชมพู่ ลักษณะเหมือนเพิ่งจะนำไปวางเอาไว้ให้ไม่นานมานี้ ตนยังไม่ทราบ เพราะตนไม่รู้มาก่อนว่าหลังจากที่หลานตายแล้วมีใครขึ้นไปบ้าง โดยหลังจากที่น้องชมพู่เสียชีวิต คนในครอบครัวเท่าที่รู้ก็ไม่มีใครขึ้นไป

527010

ทั้งนี้ตนยืนยันว่าตน ยายสมควร น้าแต่ และน้าฝน ไม่มีใครได้ขึ้นไป แต่ตนก็ไม่รู้เหมือนกันว่าพ่อแม่น้องชมพู่ได้ขึ้นไปหรือไม่เพราะไม่ได้มีการสอบถาม และคนในครอบครัวส่วนใหญ่เท่าที่ทราบก็จะนำของไหว้ไปถวาย หรือวางเอาไว้บริเวณที่กระดูก ที่วัดภูผาแอก ไม่รู้ว่ามีใครขึ้นไปข้างบนหรือไม่

แต่กรณีที่ตำรวจสงสัยว่า คนที่นำของไปเซ่นไหว้น้องชมพู่ อาจเป็นคนที่รู้จักกับน้อง ตนไม่รู้ว่าใครเป็นคนเอาไปวาง แต่เท่าที่ดูจากของเซ่นไหว้ จะเป็นนมเปรี้ยวที่หลานสาวชอบ ประกอบกับส้ม น้องชมพู่ก็ชอบกินเหมือนกัน ดังนั้นจึงไม่รู้ว่าคนที่นำของไปวาง จะเกี่ยวข้องกับคนในครอบครัว หรือเป็นใคร แต่เชื่อว่าอาจจะรู้ว่าน้องชมพู่ชอบอะไรบ้าง ดังนั้นหากเป็นไปได้ ก็เอาไปทำบุญที่วัดจะดีกว่า เพราะเชื่อว่าน้องชมพู่ไม่ได้อยู่บริเวณจุดดังกล่าว คงไปสู่สุคติแล้ว

509264

ขณะเดียวกันตำรวจยังได้มีการเก็บของเซ่นไหว้ เพื่อตรวจสอบรอยนิ้วมือหาบุคคลที่นำไปวางเอาไว้ อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับบุคคลในคดีนั้น ตาชาญ บอกว่า ถือเป็นเรื่องที่ดี จะได้รู้ว่าใครเป็นคนเอาไปวาง และมีเหตุผลอะไรต้องเอาไปวาง เพราะพื้นที่เขาภูเหล็กไฟค่อนข้างสูง ถ้าไม่มีความจำเป็นมีเหตุผลอะไรต้องขึ้นไปถึงจุดดังกล่าว แต่ถ้าเป็นคนในครอบครัวตนก็จะสอบถามว่าเอาขึ้นไปวางทำไม ทำไมไม่ไปทำบุญให้ที่วัดแทน แต่ถ้าเป็นคนนอกก็อาจต้องสงสัยว่า ทำไมมีเหตุผลอะไร ถึงนำไปวางไว้ให้น้องชมพู่

ขณะเดียวกัน ทีมข่าวยังได้เดินทางย้อนกลับไปที่วัดภูผาแอก ซึ่งเป็นที่บรรจุอัฐิของน้องชมพู่ โดยเข้าไปสำรวจของเซ่นไหว้ ที่ครอบครัวนำมาวางไว้ให้น้อง พบว่ามีเสื้อผ้าแขวเอาไว้ 2 ชุด ตุ๊กตา 4 ตัว น้ำแดง 1 ขวด ขนม 2 ชิ้น นมเปรี้ยวสีส้ม 2 กล่อง นมเปรี้ยวรสผลไม้รวม 2 กล่อง โอิชิสีม่วง 1 กล่อง ซึ่งถ้าเทียบกับของเซ่นไหว้ที่เจอบนเขา ตรงกันเพียงแค่ 1 อย่าง คือ นมเปรี้ยมรสผลไม้รวมสีเขียว

235383

นายเกียรติพงษ์ ปามี หรือลุงแต เจ้าของร้านขายของชำในหมู่บ้านกกกอก ในฐานะร้านค้าที่มีนมเปรี้ยวรสชาติที่น้องชมพู่ชอบ พาทีมข่าวเข้าไปสำรวจบริเวณชั้นวางสินค้าในร้าน พบว่าได้สต็อกนมเปรี้ยวแบบกล่องใหญ่ ราคา 10 บาท ทั้งสีเขียว รสผลไม้รวม และกล่องสีส้ม รสส้ม วางอยู่อย่างละ 6 แพ็ก และบริเวณชั้นบนยังมีแพ็กขนาดเล็ก ราคากล่องละ 5 บาทวางอยู่

839761

นายแต เปิดเผยว่า ช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีชาวบ้านและเด็ก ๆ ในหมู่บ้านแวะมาชื้อบ้าง ส่วนใหญ่จะขายดีทั้งกล่องสีเขียวและสีส้ม เวลาที่เด็ก ๆ มาชื้อ ก็จะเจาะแล้วดูดทานออกจากร้าน ไม่ได้ชื้อกลับไปทานที่บ้าน ขณะที่ผู้ใหญ่เวลามาชื้อจะชื้อแบบกล่องใหญ่ ราคากล่องละ 10 บาท ชื้อยกแพ็ก 4 กล่อง แต่ชื้อไปเพื่อสำหรับใส่บาตร เนื่องจากพระจะมารับบิฑบาตครั้งละ 4 รูป

273957

ส่วนคนในครอบครัวน้องชมพู่ อย่างพ่อ-แม่ ยอมรับว่าเคยมาชื้อกล่องสีเขียว รสที่น้องชมพู่ชอบ ราคากล่องละ 10 บาท แบบยกแพ็ก ราคาแพ็กละ 40 บาท แต่เป็นช่วงต้นปี 64 ที่มีการทำบุญรับปีใหม่ โดยพ่อแม่ได้มาซื้อเพื่อไปวางให้ลูกที่สถูปเก็บอัฐิ รวมถึงได้มีการทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับน้องชมพู่ ซึ่งตอนนั้นมีการซื้อเพียงแค่ 4 กล่อง ขณะที่คนในครอบครัวของตาชาญ รวมถึงครอบครัวลุงพล ไม่ได้มีการมาแวะซื้อนมเปรี้ยวในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ก็มีพวกกลุ่มนางรำและกลุ่มยูทูเบอร์ แวะมาซื้อบ้างบางครั้ง แต่ส่วนใหญ่จะซื้อเพียง 1-2 กล่อง จึงไม่รู้ว่าซื้อไปทานเองหรือซื้อไปเพื่ออะไร

185441

ส่วนขนมซึ่งเป็นขนมปังที่ร้านไม่ได้เอามาขาย ประมาณ 1-2 เดือนแล้ว เพราะส่วนใหญ่จำหน่ายในราคาถุงละ 5 บาท แต่ขนมมีชิ้นเล็ก เด็ก ๆ มักจะไม่ค่อยซื้อ จึงได้ลดขนาดขายแบบซองเล็ก ในราคาซองละ 3 บาทแทน ประกอบกับในช่วงที่น้องชมพู่ยังมีชีวิต ไม่เคยซื้อขนมยี่ห้อนี้ไปทาน เคยเห็นแต่นมเปรี้ยวเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม กรณีการพบนมเปรี้ยวกล่องสีเขียว ที่น้องชมพู่ชื่นชอบ บนเขาภูเหล็กไฟ ส่วนตัวมองว่าอาจเป็นกลุ่มชาวบ้านหรือกลุ่มที่ขึ้นไปแก้บน แต่ไม่รู้ว่าเกี่ยวข้องอะไรกับคนในครอบครัวหรือไม่ ซึ่งตนเห็นข่าวก็รู้สึกแปลกใจเหมือนกัน

ทีมข่าวตรวจสอบข้อมูล พบว่าสถูปเก็บอัฐิของชมพู่ ที่วัดภูผาแอก มีชาวบ้าน 5 คน ที่ไปปฏิบัติธรรมที่วัดภูผาแอก แล้วได้ขอหวยกับอัฐิของน้องชมพู่ กระทั่งถูกหวยกว่า 60,000 บาท จึงได้มาแก้บน

757833

นางพิมพ์ประภา พงษ์ไพบูลย์ อายุ 58 ปี ชาว จ.สกลนคร ซึ่งเป็นกลุ่มนางรำที่มารับจ้างรำแก้บนบริเวณหน้าบ้านลุงพล ในฐานะคนที่เอาของเซ่นไปวางเอาไว้ เปิดเผยว่า ช่วงประมาณวันที่ 14-17 ม.ค.64 ตนได้เดินทางไปปฎิบัติธรรมที่วัดภูผาแอก โดยระหว่างที่มีการปฎิบัติธรรม ได้เดินจงกลม อยู่บริเวณลานใกล้กับสถูปน้องชมพู่ ซึ่งวางเรียงกัน 3 อัน แต่หันไปมองบริเวณโกศสีขาว มีชื่อเขียนติดเอาไว้ว่า “น้องชมพู่” จึงได้ขอหวย และบอกกับน้องชมพู่ว่า “ขอให้ยายถูกหวยแ ล้วจะนำตุ๊กตาและของที่น้องชอบมาให้” ช่วงกลางดึกที่มีการปฎิบัติธรรมอยู่ในกุฏิ ฝันว่ามีชายแก่ใส่ชุดสีขาว มาเดินวนอยู่รอบกุฎิ ซึ่งเดินวนอยู่หลายรอบ ตนจึงได้ตีความจากสิ่งที่เห็น กระทั่งถูกรางวัลดังกล่าว 

528138

หลังจากที่ได้รับเงินช่วงเย็นวันที่ 17 ม.ค.64 ในเช้าวันที่ 18 ม.ค.64 จึงได้ไปแก้บน บริเวณโกศของน้องชมพู่ เพราะมีความเชื่อว่าหากบนบานเอาไว้แล้วก็ต้องรีบแก้บน เพื่อไม่ให้ติดค้างกัน ตนจึงได้ซื้อตุ๊กตา 3 ตัว นมกล่องที่น้องชมพู่ชอบ 4 กล่อง และของกินสำหรับเด็กอื่น ๆ นำไปวางเอาไว้หน้าโกศน้องชมพู่ และส่วนตัวก่อนหน้านี้ก็ได้ดูข่าวความเคลื่อนไหวของน้องชมพู่ โดยครอบครัวเคยบอกว่าน้องชอบนมเปรี้ยว จึงได้ซื้อเอาไปให้น้อง โดยยอมรับว่าของเซ่นไหว้ ที่วางเอาไว้หน้าโกศเป็นของกลุ่มพวกตน 

139828916050

นางพิมพ์ประภา ยังปฏิเสธว่า ตนไม่เคยขึ้นเขาภูเหล็กไฟ และไม่เคยขึ้นไปยังจุดพบศพ ดังนั้นนมเปรี้ยว ส้ม และขนมที่วางอยู่บริเวณด้านบน ไม่ใช่เป็นของกลุ่มพวกตน เพราะตนไม่เคยขึ้นไป แต่เชื่อว่าเป็นของกลุ่มชาวบ้านที่ไปหาเห็ดและหาของป่า เอาขึ้นไปวางให้กับน้องชมพู่ ซึ่งกลุ่มของตนเป็นกลุ่มผู้หญิงทั้งหมด จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะเดินขึ้นไปบริเวณด้านบน เพราะไม่เคยขึ้นและไม่รู้ทาง

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส