เสี่ยหึงโหดยิงเจาะหัวสาว 15 แค้นสะบั้นรัก แม่ใจสลายเผยแชตขอตีจากไม่เชื่อปืนลั่น (คลิป)

วันที่ 27 ม.ค. 64 เมื่อเวลา 02.30 น. ร.ต.อ.วิสุทธิ์ พูลการขาย รอง สว.สส.สภ.ลาดยาว รับแจ้งเหตุยิงกันตายภายในร้านอาหาร หมู่ 11 ต.ลาดยาว อ.ลาดยาว จ.นครสวรรค์ จึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมกับเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ลาดยาว แพทย์เวรโรงพยาบาล และเจ้าหน้าที่กู้ภัยในพื้นที่

ที่เกิดเหตุเป็นร้านอาหารชื่อดังของอำเภอ มีพื้นที่บริการให้นั่งดื่มกิน และบางส่วนเป็นห้องให้บริการลูกค้าร้องเพลงคาราโอเกะ ทางเจ้าหน้าที่พบศพ น.ส.แอ๋ม (นามสมมติ) อายุ 15 ปี นอนเสียชีวิตคาอยู่หน้าประตูห้องทำงานเจ้าของร้าน ซึ่งอยู่บริเวณหลังร้าน ในสภาพมีรอยบาดแผลถูกอาวุธปืนออโตเมติก ขนาด .38 มม. เข้าที่กลางหน้าผากจนเป็นรู และพบปลอกกระสุนปืนตกอยู่

ส่วนภายในร้านพบ นายนิธิวัช โรจนสุขเกษตร หรือ แจง อายุ 42 ปี นั่งอยู่ในสภาพเศร้าโศกอยู่บนพื้นภายในร้าน พร้อมกับให้การอ้างว่าทำอาวุธปืนลั่นใส่ น.ส.แอ๋ม ซึ่งเป็นแฟนสาวจนเสียชีวิต

ทีมข่าวลงไปยังพื้นที่หมู่ 1 ต.ศาลเจ้าไก่ต่อ อ.ลาดยาว จ.นครสวรรค์ น.ส.ใจ (นามสมมติ) อายุ 38 ปี แม่ของผู้ตาย เผยว่า ภายหลังจากเกิดเหตุ พี่สาวของตนได้เดินมาที่บ้านของตน บอกว่าน้องแอ๋ม ลูกสาวของตนถูกยิง ขณะนั้นตนจึงให้แฝดพี่ผู้ตายโทรไปหาเพื่อนของผู้ตายที่ร้านคาราโอเกะ ทางเพื่อนของผู้ตายก็ยอมรับว่าเสียชีวิตแล้ว เนื่องจากถูกนายแจง เจ้าของร้านยิงบริเวณกลางหน้าผาก ตนจึงรีบเดินทางไปยังร้านดังกล่าว

เมื่อไปถึงพบว่าเจ้าหน้าตำรวจได้เข้าไปที่เกิดเหตุแล้ว แต่ทางตนไม่สามารถเข้าพื้นที่ได้ ได้เพียงยืนรอด้วยใจที่สลายหน้าร้าน ซึ่งขณะนั้นไม่รู้กระทั่งว่าศพผู้ตายเสียชีวิตลักษณะไหน อย่างไร มาเห็นก็ตอนที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำศพห่อผ้าขาวมายังรถกู้ภัยเท่านั้น ขณะเดียวกันเพื่อนของผู้ตายได้เข้ามาร้องไห้ ขอโทษที่ไม่สามารถดูแลผู้ตายได้ พร้อมกับอ้างว่า เห็นผู้ตายเดินเข้าไปในห้องทำงานของนายแจง ก่อนจะเกิดเหตุ แต่ไม่ทราบว่าเขาทะเลาะอะไรกัน

ทั้งนี้ ตนคาดว่าสาเหตุที่นายแจงก่อเหตุครั้งนี้เกิดจากความหึงหวง เพราะลูกสาวตนนั่งคุยกับลูกค้า และตนยังคาดว่านายแจงมีเจตนาที่ฆ่าผู้ตาย ไม่น่าจะปืนลั่น และยอมรับว่าผู้ตายนั้นมีความสัมพันธ์กับนายแจงมาได้ประมาณ 7 เดือน ที่ผ่านมาผู้ได้มาเล่าให้ตนฟังว่า ขณะที่คบหาดูใจกับนายแจงเคยถูกทำร้ายตบตี 2 ครั้ง ล่าสุดก่อนปีใหม่ เนื่องจากผู้ตายนั่งดื่มกับลูกค้าชาย ตนผู้เป็นแม่ก็ได้ห้ามปราม และให้ผู้ตายไปแจ้งความ แต่ผู้ตายได้ปฏิเสธ เพราะรู้ว่าหากไปแจ้งความก็ไม่สามารถชนะนายแจงได้

น.ส.ใจ กล่าวต่อว่า ผู้ตายทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟร้านคาราโอเกะ ถึงแม้ว่าจะยังอายุไม่ถึง ตนรู้ว่าผิด แต่ได้ตักเตือนผู้ตายแล้ว แต่ผู้ตายได้บอกว่าไม่ต้องเป็นห่วง เพราะอยากช่วยแบ่งเบาภาระแม่ อยากหาเงินเอง ที่ผ่านมาตนไม่เคยเจอนายแจงเลย เพียงเห็นในเฟซบุ๊กเท่านั้น

สำหรับลักษณะนิสัยของผู้ตายนั้น เป็นเด็กรักครอบครัว ห่วงใยคนรอบตัว ถึงแม้ว่าจะชอบเที่ยว หากมีโอกาสได้พูดคุยกับนายแจงผู้ก่อเหตุ ตนอยากถามว่า "ฆ่าลูกแม่ทำไม ลูกแม่เป็นเด็ก ไม่รู้แรงจะสู้ ยอมให้ตบให้ตีมาตลอด แค่นั้นก็เจ็บอยู่แล้ว ไม่มีโอกาสให้มันกลับมาครอบครัวเลยหรือ ลูกของตนตายไป ชีวิตของนายแจงจะดีขึ้นหรือมีความสุขหรือไม่"

นอกจากนี้ เมื่อวานนี้ตนได้คุยกับลูกสาว ประโยคสุดท้ายคือ "แม่ หนูไปแล้วนะ" ไม่คิดว่าจะเป็นประโยคสุดท้ายที่ได้คุยกัน อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากเกิดเหตุทางญาติของนายแจงยังไม่ได้ติดต่อกลับมา และตนยังไม่ได้คุยกับนายแจง หากมาขอโทษ ตนก็ไม่ขอให้อภัย ขอดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

นายรังสรรค์ อายุ 50 ปี พ่อของผู้ตาย กล่าวว่า ภายหลังจากเกิดเหตุการณ์ยอมรับว่ายังช็อกอยู่ เพราะตนไม่เคยสูญเสีย และลูกสาวของตนยังเป็นเด็กอยู่ สำหรับที่ผ่านมา ตนทราบว่าลูกสาวไปทำงานที่ร้านคาราโอเกะ แต่ลูกสาวไม่เคยบอกกล่าวว่ากำลังคบหาดูใจกับนายแจง เจ้าของร้านที่เป็นผู้ก่อเหตุ ซึ่งตนมาทราบภายหลังจากที่เกิดเหตุแล้ว

ทั้งนี้ ตนคาดว่าปมการยิงครั้งนี้ เกิดจากการหึงหวง ลูกสาวตนขอเลิกก็ไม่ยอมให้เลิก คิดว่าเขาอยู่ในการที่มึนเมาขาดสติจึงเกิดบันดาลโทสะ และไม่เชื่อว่าจะปืนลั่น เพราะวิถีกระสุนจ่อตรงเข้าไป อย่างไรก็ตาม หากครอบครัวของนายแจงมาขอโทษ ตนก็ขอไม่ให้อภัย เพราะลูกสาวทั้งคน และหากมีโอกาสได้พูดคุยกับนายแจง ก็อยากถามว่าทำไมต้องทำร้ายเด็กผู้หญิงอายุเพียง 15 ปี และขณะนี้ตนยังติดใจโกรธเคืองนายแจงเป็นอย่างมากที่กระทำรุนแรงต่อลูกสาวของตน

นอกจากนี้ น้าของน้องแอ๋มได้ประกาศเปิดรับบริจาคค่าบำเพ็ญกุศลศพของน้องแอ๋ม จำนวน 10 บาท ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา และเมื่อตอนเย็นได้ปิดรับบริจาคแล้ว ยอดเงินทีได้รับบริจาคมาทั้งหมด 46,292 บาท เงินที่ได้มาทั้งหมดจะนำมาเป็นค่าบำเพ็ญกุศลศพต่อไป

ด้าน น.ส.โบว์ (นามสมมติ) ผู้เห็นเหตุการณ์ กล่าวว่า เมื่อวานนี้ก่อนเกิดเหตุ ตนได้ไปเที่ยวที่ร้านดังกล่าว และได้ไปเที่ยวหาผู้ตายด้วย พอร้านปิดตนเห็นว่านายแจงผู้ก่อเหตุได้เรียกผู้ตายเข้าไปหาที่ห้องทำงาน ขณะนั้นผู้ตายได้นั่งดื่มเบียร์อยู่ สักพักตนได้ยินเสียงปืนจึงรีบวิ่งเข้าไปเห็นว่าผู้ตายเสียชีวิตแล้ว เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนไม่ได้สอบถามนายแจง เจ้าของร้าน ถึงสาเหตุที่กระทำลงไป เพราะนายแจงเองอยู่ในอาการที่สติแตก ประกอบกับที่ดื่มเหล้าไปด้วย

ทั้งนี้ ตนไม่ทราบสาเหตุที่นายแจงยิงผู้ตาย และไม่เคยทราบมาก่อนว่าทั้งสองมีความสัมพันธ์กัน แต่ 2-3 วันที่ผ่านมา ผู้ตายเล่าให้ตนฟังว่านายแจงดุ เนื่องจากไปเที่ยวดื่มเหล้าที่อื่น

นอกจากนี้ที่ผ่านมาตนยังไม่เคยทราบมาก่อนว่าผู้ตายเคยถูกนายแจงทำร้ายร่างกายรู้เพียงว่าถูกดุด่าเท่านั้น สำหรับลักษณะนิสัยของผู้ตายนั้นเป็นคนสนุกสนานร่าเริง ส่วนนายแจงจะเงียบขรึม การกระทำของนายแจงถือว่ารุนแรง ตนอยากให้นายแจงรับผิดชอบงานศพของผู้ตาย

ทีมข่าวได้แชตการสนทนาของนายแจง และ น.ส.แอ๋ม ก่อนเกิดเหตุ โดย น.ส.แอ๋ม ได้โพสต์ข้อความเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า "กูเกลียด"

ต่อมา นายแจงได้แคปเจอร์ภาพเอาไว้ และได้ลงภาพข้อความของ น.ส.แอ๋มว่ากูเกลียด กลับมาในแชตข้อความของ น.ส.แอ๋ม แล้วถามว่า "เกลียดพี่ ติ" แต่น.ส.แอ๋มไม่ได้ตอบกลับแต่อย่างใด

นอกจากนี้ การสนทนาเมื่อวันที่ 23 ม.ค. 64 เวลา 03.39 น. นายแจงได้มีการสอบถาม น.ส.แอ๋ม ว่าอยู่ไหน จากนั้น น.ส.แอ๋มขอให้นายแจงเลิกยุ่งเกี่ยวข้องด้วย

ทีมข่าวเดินทางมาที่ สภ.ลาดยาว จ.นครสวรรค์ พบว่าภรรยาและเพื่อนของนายแจง ผู้ก่อเหตุ ได้เดินทางมาเยี่ยม ภรรยาและเพื่อนนายแจง ระบุเพียงว่า เพิ่งทราบข่าวเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ไม่ทราบสาเหตุที่นายแจงตัดสินใจกระทำลงไป โดยก่อนหน้านี้ตนได้ต่างคนต่างอยู่กับนายแจงมาเป็นระยะเวลานานกว่า 10 ปี เพราะนายแจงเจ้าชู้ ไม่เคยทราบมาก่อนว่านายแจงคบหาดูใจกับ น.ส.แอ๋ม และไม่ทราบว่านายแจงมีปืน

แต่ก่อนหน้าที่ขณะที่ตนคบหาดูใจกับนายแจง เขาไม่เคยมีพฤติกรรมที่ทำร้ายร่างกาย ซึ่งจะเป็นคนที่มีลักษณะนิสัยที่ขี้ขลาด ไม่กล้าทำร้ายใคร ภายหลังจะเกิดเหตุตนก็ยังไม่ได้คุยกับนายแจงว่าเกิดเหตุอะไรขึ้น ยังไม่ได้พูดคุยกับทางครอบครัวของผู้เสียชีวิตด้วย

เบื้องต้น ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหา ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา, มีอาวุธปืนไว้ครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนกรณีที่มีลูกจ้างเป็นเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ เจ้าหน้าที่กำลังเร่งสอบปากคำ