"ทนาย" ยันไม่มีเงินไม่ต้องคืนเบี้ยคนชรา เผยได้มาโดยสุจริตคิดว่ามีสิทธิ์ใช้ แนะผู้เสียหายฟ้องกลับนายก อบต. ฐานประมาทเลินเล่อ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- "ยายบวน" วอน อบต.ยืดระยะเวลาคืนเบี้ยคนชราเป็น 20 เดือน-ไม่คิดดอกเบี้ย
- ยายแทบช็อก ถูกเรียกเงินเบี้ยคนชราคืนร่วมแสน ลูกสาวยอมติดคุกแทนเพราะไม่มีปัญญาหามาคืน
- ระบบของ อบต.เป็นเหตุ! บัญชีกลางแจงกรณีเรียกเงินผู้สูงอายุคืนเกือบแสน
- ใช่ความผิดยายไหม? ยันต้องคืนเบี้ยคนชรา ให้ผ่อนได้เดือนละ 7,030 ไม่มีดอกเบี้ย
- ชมรมช่วยเหลืออาชญากรรม รับจ่ายหนี้แทนยายถูกเรียกคืนเบี้ยคนชรา
จากกรณีนางบวน โล่ห์สุวรรณ อายุ 89 ปี ชาวจ.บุรีรัมย์ แจ้งว่ากรมบัญชีกลาง มีหนังสือเรียกเก็บเงินเบี้ยผู้สูงอายุคืนรวมดอกเบี้ย เป็นเงินจำนวน 84,000 บาท เนื่องจากได้รับบำนาญ กรณีลูกชายเป็นทหารเสียชีวิตจากเหตุคลังแสงระเบิด นอกจากนี้ยังมีผู้สูงอายุรายอื่นที่ออกมาร้องขอความเป็นธรรมในลักษณะเดียวกัน ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม กล่าวว่า กรณีดังกล่าวศาลปกครองสูงสุดหรือศาลฎีกาเคยวางหลักไว้ว่า หากเป็นลาภที่เคยได้ รับมาโดยสุจริต ใช้ไปโดยสุจริต เข้าใจว่ามีสิทธิ์ใช้ ไม่มีความผิด ซึ่งจะคืนหรือไม่คืนเงินก็ได้ โดยผู้ที่ไม่มีเงินไม่จำเป็นต้องคืน
ผู้ที่ควรรับผิดชอบคือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น นายกอบต. นายกเทศมนตรี ผอ.สำนักงบประมาณ ที่เป็นผู้อนุมัติเงินต้องเป็นผู้รับผิดชอบ อย่าโยนภาระให้ประชาชน เพราะกรณีดังกล่าวกรมบัญชีกลางออกประกาศมาตั้งแต่ปี 2552 เหตุใดจึงไม่ตรวจสอบตั้งแต่ตอนนั้น ปล่อยให้เวลาล่วงเลยมาเป็น 10 ปี
นอกจากนี้ทนายรณรงค์ยังแนะนำให้ดำเนินคดีกับนายกอบต. ที่ไม่ตรวจสอบ ให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) ไต่สวนว่าการที่องค์กรปกครองท้องถิ่นไม่ตรวจสอบ ถือเป็นการประมาทเลินเล่อหรือละเลย ทำให้เงินงบประมาณแผ่นดินเสียหายหรือไม่