"ทนายรณณรงค์" เผยข้อกฎหมาย "ยายบวน" ไม่ต้องคืนเบี้ยผู้สูงอายุ

28 ม.ค. 64

"ทนาย" ยันไม่มีเงินไม่ต้องคืนเบี้ยคนชรา เผยได้มาโดยสุจริตคิดว่ามีสิทธิ์ใช้ แนะผู้เสียหายฟ้องกลับนายก อบต. ฐานประมาทเลินเล่อ

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

- "ยายบวน" วอน อบต.ยืดระยะเวลาคืนเบี้ยคนชราเป็น 20 เดือน-ไม่คิดดอกเบี้ย
- ยายแทบช็อก ถูกเรียกเงินเบี้ยคนชราคืนร่วมแสน ลูกสาวยอมติดคุกแทนเพราะไม่มีปัญญาหามาคืน
- ระบบของ อบต.เป็นเหตุ! บัญชีกลางแจงกรณีเรียกเงินผู้สูงอายุคืนเกือบแสน
- ใช่ความผิดยายไหม? ยันต้องคืนเบี้ยคนชรา ให้ผ่อนได้เดือนละ 7,030 ไม่มีดอกเบี้ย
- ชมรมช่วยเหลืออาชญากรรม รับจ่ายหนี้แทนยายถูกเรียกคืนเบี้ยคนชรา

จากกรณีนางบวน โล่ห์สุวรรณ อายุ 89 ปี ชาวจ.บุรีรัมย์ แจ้งว่ากรมบัญชีกลาง มีหนังสือเรียกเก็บเงินเบี้ยผู้สูงอายุคืนรวมดอกเบี้ย เป็นเงินจำนวน 84,000 บาท เนื่องจากได้รับบำนาญ กรณีลูกชายเป็นทหารเสียชีวิตจากเหตุคลังแสงระเบิด นอกจากนี้ยังมีผู้สูงอายุรายอื่นที่ออกมาร้องขอความเป็นธรรมในลักษณะเดียวกัน ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุด ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม กล่าวว่า กรณีดังกล่าวศาลปกครองสูงสุดหรือศาลฎีกาเคยวางหลักไว้ว่า หากเป็นลาภที่เคยได้ รับมาโดยสุจริต ใช้ไปโดยสุจริต เข้าใจว่ามีสิทธิ์ใช้ ไม่มีความผิด ซึ่งจะคืนหรือไม่คืนเงินก็ได้ โดยผู้ที่ไม่มีเงินไม่จำเป็นต้องคืน

ผู้ที่ควรรับผิดชอบคือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น นายกอบต. นายกเทศมนตรี ผอ.สำนักงบประมาณ ที่เป็นผู้อนุมัติเงินต้องเป็นผู้รับผิดชอบ อย่าโยนภาระให้ประชาชน เพราะกรณีดังกล่าวกรมบัญชีกลางออกประกาศมาตั้งแต่ปี 2552 เหตุใดจึงไม่ตรวจสอบตั้งแต่ตอนนั้น ปล่อยให้เวลาล่วงเลยมาเป็น 10 ปี

นอกจากนี้ทนายรณรงค์ยังแนะนำให้ดำเนินคดีกับนายกอบต. ที่ไม่ตรวจสอบ ให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) ไต่สวนว่าการที่องค์กรปกครองท้องถิ่นไม่ตรวจสอบ ถือเป็นการประมาทเลินเล่อหรือละเลย ทำให้เงินงบประมาณแผ่นดินเสียหายหรือไม่

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ