ไร้ผล! ลุงพลยื่นศาลขอไต่สวนสกัดโดนหมายจับ "ปรเมศวร์" แนะพบตำรวจถ้ากลัว (คลิป)

5 ก.พ. 64

เมื่อวันที่ 5 ก.พ.64 เวลา 08.45 น. ทันทีที่ทนายตั้ม นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ มาถึงหมู่บ้านกกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ได้ไปที่จุดคัดกรองโรคโควิด-19 ก่อนจะมาให้สัมภาษณ์ ซึ่งยังต้องลงทะเบียนประจำวัน และตรวจวัดอุญหภูมิตามมาตราการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

109887

ทนายตั้ม เปิดเผยว่า วันนี้มีการเปลี่ยนแผนจากเดิมที่นัดสื่อมวลชนไว้ว่า จะขึ้นภูเหล็กไฟ เพื่อพิสูจน์ทราบเส้นทางที่ไปพบศพของน้องชมพู่ แต่จะขอเปลี่ยนเป็นเตรียมพานายไชย์พล วิภา หรือ ลุงพล ลุงของน้องชมพู่ ไปยื่นเอกสารที่ศาลจังหวัดมุกดาหารแทน แต่ยังบอกไม้ได้ว่าจะยื่นเอกสารสำคัญเกี่ยวกับอะไร และยังไม่ขอตอบว่าจะเกี่ยวข้องกับพยานหลักฐานอะไรเกี่ยวกับคดีหรือไม่ แต่เป็นการยื่นตามสิทธิ์ของคนที่เกี่ยวข้องในคดีสามารถยื่นได้ และยืนยันว่าไม่ได้ไปฟ้องร้องดำเนินคดีอะไรเพิ่มเติม

519392

ส่วนสาเหตุที่ทำให้ต้องเปลี่ยนแผน ทนายตั้ม ระบุว่า เนื่องจากเมื่อวานมีกลุ่มคนบางคน ซึ่งขอไม่ระบุว่า เป็นใคร มาสร้างความปั่นป่วน แล้วกล่าวอ้างว่าทีมงานทนายแอบขึ้นเขาไปสำรวจก่อนนั้น ซึ่งลักษณะดังกล่าวคล้ายกับครั้งก่อนหน้านนี้ ที่มีความวุ่นวายกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง โดยตนเกรงว่าหากขึ้นไปอาจจะมีปัญหากับเจ้าหน้าที่ป่าไม้ด้วย

อย่างไรก็ตาม ส่วนภาระกิจช่วงบ่ายในวันนี้ เป็นภาระกิจพิเศษที่ตนจะทำร่วมกับลุงพล แต่ภาระกิจในการขึ้นเขา ยังคงจะขึ้นอยู่ อยู่ที่ว่าจะขึ้นวันไหน เพราะตนต้องขึ้นไปดูพื้นที่ด้วยตา จึงจะรู้ลักษณะพื้นที่และจุดเกิดเหตุ

614858

อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า กรณีมีกลุ่มชายปริศนาลักลอบขึ้นภูเหล็กไฟไปก่อน โดยที่ไม่มีเจ้าหน้าที่อุทยานพาขึ้นไปนั้น ตำรวจสภ.กกตูมได้ประสานไปยังหัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูผายล ให้ช่วยสอดส่องดูแลพื้นที่พิเศษ กำหนดให้จุดพบศพน้องชมพู่เป็นเขตหวงห้ามที่ไม่สามารถขึ้นไปเองโดยไม่ได้รับอนุญาต จนกว่าคดีจะเสร็จสิ้น

747707

หลังจากที่ทนายตั้ม กำลังเตรียมเอกสารและเตรียมตัวก่อนที่จะเดินทางไปที่ศาลจังหวัดมุกดาหาร ลุงพลได้ออกมานั่งพูดคุยกับกลุ่มยูทูเบอร์ และพูดคุยกับป้าแต๋น โดยช่วงหนึ่งลุงพลได้หยิบมีดโกนหนวดมาโกนหนวด ซึ่งนอกจากโกนหนวดปกติแล้ว ยังได้นำมาโกนจมูก และมีลักษณะอาการเครียดเป็นช่วง ๆ บางช่วงสังเกตว่า เข้าไปในบ้าน ตะโกนด่าและเสียงดังใส่ป้าแต๋น และคนสนิท จนต้องมีคนที่อยู่ในบ้านพยายามปลอบว่า “ลุงใจเย็น”

386235

จากนั้น ช่วงเวลาประมาณ 10.20 น. ลุงพล ป้าแต๋น และทนายตั้ม ขึ้นรถกระบะส่วนตัว พร้อมกับบรรทุกทีมยูทูเบอร์คนสนิท ขึ้นรถออกจากหน้าบ้านมุ่งหน้าออกไปยังศาลจังหวัดมุกดาหาร

414727

เมื่อเวลา 12.10 น. ที่ศาลจังหวัดมุกดาหาร ทนายตั้ม นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ พร้อมด้วยนายไชย์พล วิภา หรือ ลุงพล และนางสมพร หลาบโพธิ์ หรือ ป้าแต๋น ได้เดินทางเข้าไปยื่นหนังสือให้กับศาลจังหวัดมุกดาหาร โดยถือซองเอกสารสีน้ำตาล ด้านในเป็นเอกสารขอให้มีการไต่สวน ก่อนที่จะมีการออกหมายจับ หากเจ้าหน้าที่ตำรวจอนุมัติหมายจับลุงพล

744304

ทนายตั้ม เปิดเผยว่า ครั้งนี้ตนตั้งใจเดินทางมาเพื่อยื่นเอกสาร ขอความเป็นธรรมให้มีการไต่สวนก่อน โดยเปิดรับฟังฝั่งของลุงพลด้วย ซึ่งหากมีการไต่สวนตนก็พร้อมที่จะนำพยานหลักฐานเข้ามาแสดงให้ศาลดู เพราะเป็นขั้นตอนหนึ่งที่ในฐานะผู้ต้องสงสัย เนื่องจากมีพยานและหลักฐานอื่น ๆ พร้อมที่จะชี้แจง ดังนั้นการออกหมายจับก็อยากให้เป็นไปอย่างรัดกุม ไม่อยากให้ถูกออกหมายจับและตกเป็นเป้าไม่ดีของสังคม ดังนั้นจึงมาขอความเมตตาต่อศาล เพื่อให้ศาลท่านใช้ดุลพินิจในการไต่สวน ก่อนที่จะออกหมายจับ

313640996447

ในเอกสารดังกล่าว ที่มีการขอความเป็นธรรมต่อศาลจังหวัดมุกดาหาร ระบุชัดเจนว่า ลุงพลอยู่ในสถานะผู้ต้องสงสัย จากการที่ตำรวจได้เคยออกมาให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ และหลายฝ่ายก็พุ่งเป้ามาที่ลุงพล และยังมีการกล่าวถึงมาตลอดว่า จะมีการออกหมายจับ ดังนั้นจึงต้องขอใช้สิทธิ์ต่อศาล เพราะก่อนหน้านี้ก็มีหลายคดีที่ทำแบบนี้มาแล้ว เพียงแค่ไม่เป็นข่าวเท่านั้น

406534

ส่วนในวันนี้ตนเป็นคนพาลุงพลมาที่ศาล เป็นเพียงแค่การใช้สิทธิ์ในฐานะทนายความที่ได้รับการติดต่อจากลุงพล แต่ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะรับทำคดีหรือไม่ ดังนั้นต้องเป็นไปตามเงื่อนไข 3 ประการ คือ 1.มีการพูดคุยกับลุงพล 2.ต้องลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ 3.มีการพูดคุยกับพยาน โดยเบื้องต้นตอนนี้ผ่านไปแล้วในข้อที่ 1 ส่วนในวันพรุ่งนี้ (6 ก.พ.64) เตรียมที่จะบรรลุในเงื่อนไขข้อที่ 2 นัดหมายสื่อมวลชนและทีมงานขึ้นไปบนเขา จะไม่เลื่อนและเปลี่ยนแปลงแล้ว 

กรณีเรื่องความกังวลที่หมายจับจะตกอยู่ที่ลุงพล เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้ว เพราะก่อนหน้านี้มีการออกมาให้สัมภาษณ์โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ และตำรวจก็พุ่งเป้าไปที่ใคร แต่ถ้าท้ายที่สุดการที่มายื่นร้องขอความเป็นธรรมต่อศาลในวันนี้ ไม่เกี่ยวข้องกับลุงพล ก็ไม่ได้เสียหายอะไร ดังนั้นการทำก็เพื่อรักษาสิทธิ์ของตัวเองเท่านั้น และการมายื่นก่อนที่หมายจับจะออก ก็ไม่ได้เรียกว่าเป็นการร้อนตัว แต่เรียกว่าเป็นการเตรียมการและความพร้อมมากกว่า เป็นสิ่งที่สามารถทำได้ แต่หลังจากนี้ก็ขึ้นอยู่กับดุลย์พินิจของศาล ว่าจะรับพิจารณาและมีการไต่สวนก่อนออกหมายจับหรือไม่

ทนายตั้ม กล่าวอีกว่า ตนไม่รู้ว่ากระบวนการของเจ้าหน้าที่ตำรวจไปถึงขั้นไหนแล้ว และไม่รู้ว่าจะมีการออกหมายจับเมื่อไร แต่ตนก็มายื่นต่อศาลเพื่อขอความเป็นธรรมในฐานะผู้ต้องสงสัย ที่สามารถใช้สิทธิ์ได้เท่านั้น แต่ก็มีผู้ที่มาคอมเมนต์ต่าง ๆ แต่ตนก็ไม่ได้นำมาเป็นอุปสรรคในการทำงานครั้งนี้ โดยเฉพาะเรื่องของวันเวลาของการออกหมายจับ

ส่วนเรื่องของพยานที่ตนเคยระบุเอาไว้ก่อนหน้านี้ เบื้องต้นตนยังไม่ขอเปิดเผย แต่ก็มีการพูดคุยกันในบางส่วนแล้ว ดังนั้นความชัดเจนตนจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง โดยหลังจากที่พาลุงพลออกจากศาลจังหวัดมุกดาหารแล้ว ขอไปทำภารกิจบางอย่าง ก่อนที่จะกลับไปที่หมู่บ้านกกกอก

543808

ทนายตั้ม บอกกับทีมข่าวว่า ในวันนี้ยังขอให้ลุงพลงดให้สัมภาษณ์ โดยการปิดวาจาก่อน 1 วัน แต่ช่วงสุดท้าย ลุงพลได้กล่าวสั้น ๆ ว่า ยังคงยืนยันความบริสุทธิ์ใจของตัวเอง “ผมก็ยืนยันมาตลอด ว่าเราไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ ทั้งสิ้น และสู้ไปตามกระบวนการหลักฐานต่าง ๆ” หลังจากที่ทนายตั้ม ลุงพล แยกย้ายจากสื่อมวลชนบริเวณหน้าศาลจังหวัดมุกดาหาร ได้ออกไปพร้อมกับกลุ่มยูทูเบอร์คนสนิท อ้างว่าไปทำภารกิจบางอย่าง โดยไม่อนุญาตให้สื่อหลักติดตามไปด้วย

104052

หลังจากที่รถกระบะของลุงพล ซึ่งมีทนายตั้มนั่งโดยสารมาด้านหน้า ออกจากหมู่บ้านกกกอก เมื่อเวลา 10.20 น. ได้ใช้เส้นทางที่เคยเดินทางออกไปส่งพระอาจารย์ครูบารัตน์ ในวันที่ 11 พ.ค.63 และเป็นเส้นทางกลับหลังจากส่งพระเสร็จ ซึ่งเป็นเส้นทางผ่านลงไปตลาดเขาวงจังหวัดกาฬสินธุ์ มุ่งหน้าไปที่แยกหนองสูงมุกดาหาร ด้วยระยะทาง 89 กม. ซึ่งจุดดังกล่าวเป็นแยกที่จะเลี้ยวไปทางวัดที่ส่งพระครูบารัตน์ ซึ่งมีการขับขี่ด้วยความเร็วประมาณ 90-120 กม./ชม. แต่ไม่ได้จอดแวะ หรือเข้าไปในวัดที่ส่งพระ เพียงแค่ขับผ่านและจับเวลาการเดินทางของลุงพล ซึ่งมาถึงบริเวณแยกหนองสูงเวลาประมาณ 11.19 น. ดังนั้นใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 1 ชม.

450708

นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม ผู้ตรวจการอัยการ เปิดเผยว่า จริง ๆ แล้วผู้ที่จะถูกจับไม่มีสิทธิ์ไม่ยุ่งเกี่ยวกับการขอหมายจับ เพราะเป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนกับศาล โดยตามมาตรา 59 ศาลเท่านั้นที่จะมีสิทธิ์ในการออกหมายจับ และผู้ที่จะออกหมายจับจะต้องเป็นพนักงานสอบสวน ผู้ที่มีสัญญาบัตร หรือ ข้าราชการ ระดับ 3 เท่านั้น เพราะจะต้องมีพยานหลักฐานที่น่าเชื่อว่า มีเหตุอันควรที่จะออกหมายจับ ซึ่งศาลจะต้องเป็นผู้ที่ไตร่สวนเอง อีกทั้งการออกหมายจับเป็นความลับ ไม่สามารถเปิดเผยได้

866629

โดยเหตุในการออกหมายจับ ต้องว่าไปตามมาตรา 66 คดีนั้นจะต้องมีอัตราโทษจำคุกมากกว่า 3 ปี ประเด็นที่ 2 คาดว่าจะไม่ได้ตัวผู้ต้องหา หรือผู้ต้องหาอาจจะหลบหนี และประเด็นที่ 3 ผู้ต้องหาไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ทั้งนี้ถ้าไม่อยากให้ศาลออกหมายจับ เมื่อทราบว่าจะดำเนินคดี ให้เดินทางไปมอบตัวกับพนักงานสอบสวน

หากย้อนกลับไป คดีวางระเบิดที่ซี คอนสแควร์ ซึ่งมีการยื่นหลักฐานกล้องวงจรปิดที่จับภาพบุคคลต้องสงสัยว่าจะวางระเบิด เนื่องจากอยู่ในพื้นที่เกิดเหตุก่อนที่จะเกิดเหตุพอดี จึงขอให้ศาลออกหมายจับ เพราะมีเหตุอันควรให้เชื่อ แต่ผู้ที่ถูกออกหมายจับยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้อง เลยให้ทนายความไปยื่นเอกสารแทน เพราะมีการออกหมายจับทำนองว่า ไม่ว่าจะจับเป็นหรือจับตาย แต่ศาลไม่ยินยอมให้เพิกถอน

364528

โดยกรณีของการเพิกถอน คือ 1.สามารถจับตัวได้แล้ว 2.ขาดอายุความ 3.ผู้ขอออกหาหมายจับ แสดงข้อความอันเป็นเท็จ กรณีที่ทนายตั้มไปยื่นไม่มีผลต่อศาล แต่จะเป็นการรบกวนศาล เพราะศาลมีดุลพินิจอยู่แล้ว และช่างน้ำหนักได้อยู่แล้ว เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกความ อย่างไรก็ตาม หากรู้อยู่แล้วว่าจะถูกจับ ให้ประสานงาน และพาไปมอบตัว หรือเมื่อรู้ว่าจะถูกดำเนินคดี ให้สร้างข่าวขึ้นมาว่า ไปมอบตัวแล้วจริง ๆ

221479

ภายหลังทนายตั้ม ลุงพล และป้าแต๋น เดินทางไปยื่นหนังสือที่ศาลจังหวัดมุกดาหาร ช่วงเวลา 13.00-17.00 น. เดินทางมาถึงหมู่บ้านกกกอก เข้าไปภายในบ้านลุงพลประมาณ 30 นาที จากนั้นเวลาประมาณ 17.30 น. ได้ขึ้นรถกระบะออกเดินทางจากบ้านลุงพลไปที่บ้านผู้ใหญ่บ้าน โดยเข้าไปนั่งพูดคุยภายในศาลาหน้าบ้านของผู้ใหญ่บ้านนิ่ม แต่ไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปเก็บเสียงการพูดคุย ใช้เวลาพูดคุยกันประมาณ 15 นาที 

918340

ทนายตั้ม เปิดเผยว่า สิ่งที่ตนได้พูดคุยกับทางผู้ใหญ่บ้าน คือ เรื่องเกี่ยวกับสถานการณ์ และพยานที่พบเห็นในวันที่เกิดเหตุวันที่น้องชมพู่หาย และสำหรับในวันพรุ่งนี้ เพื่อเตรียมการขึ้นเขาภูเหล็กไฟ ซึ่งสอบถามเกี่ยวกับเรื่องของอุปสรรค แต่ในวันนี้สิ่งที่ตนไปทำธุระร่วมกับลุงพลยังไม่ขอเปิดเผยว่าเป็นเรื่องอะไร และยังไม่รับว่าจะดำเนินการเรื่องของการเป็นทนายให้กับลุงพล เพราะยังไม่บรรลุเงื่อนไข

ทนายตั้ม ยังบอกอีกว่า การเดินทางมาพูดคุยกับผู้ใหญ่บ้าน ยังไม่ยืนยันว่าเป็นพยานให้ลุงพลหรือไม่ แต่เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ที่รู้ความเคลื่อนไหวภายในหมู่บ้าน เพราะชาวบ้านมักจะปรึกษาและขอข้อมูลจากผู้ใหญ่บ้าน โดยตนสอบถามข้อมูลอะไรผู้ใหญ่บ้านก็ให้ข้อมูลได้ทั้งหมด ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี แต่นอกจากการพูดคุยกับผู้ใหญ่บ้านแล้วยังมีพยานคนอื่น ซึ่งตนได้มีการพูดคุยแล้วบ้างบางส่วน แต่ยังไม่ขอเปิดเผยว่าเป็นใคร แต่ถ้าทุกอย่างเสร็จสิ้นเรียบร้อยตนจะเปิดเผยกลุ่มบุคคลเหล่านั้น ยังไม่ขอบอกจำนวน เพราะกลัวว่าจะทำให้เกิดเรื่องบานปลาย ดังนั้นขอปิดกลุ่มคนเหล่านี้เอาไว้ก่อน อย่างไรก็ตาม สำหรับการขึ้นเขาวันพรุ่งนี้ (6 ก.พ.64) ผู้ใหญ่บ้านยืนยันว่าจะร่วมขึ้นเขาด้วย

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส