“เฌอเอม” ถามกลับ “ปารีณา” แจ้งความใครได้ประโยชน์ สุดงงข้อหาไม่ใช่นางงาม (คลิป)

สืบเนื่องจากกรณี "เฌอเอม-ชญาธนุส ศรทัตต์" อดีตหนึ่งในผู้เข้าประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2020 แต่ถูกตัดสินไปก่อนหน้าที่จะมีการประกาศตำแหน่ง ได้ออกมาทวีตข้อความเล่าถึงประสบการณ์ จากการเข้าร่วมชุมนุมกลุ่มราษฎร เมื่อวันที่ 13 ก.พ.64 ที่ผ่านมา บริเวณถนนราชดำเนินในโดยเนื้อหาของข้อความระบุประมาณว่า “นางงามคนแรกที่โดนแก๊สน้ำตา” ซึ่งต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ตั้งโต๊ะแถลงถึงเหตุการณ์ในวันดังกล่าว ที่มีการชุมนุมว่าไม่ได้มีการใช้แก๊สน้ำตาแต่อย่สงใด

กระทั่ง "น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ โพสต์เฟซบุ๊กเป็นภาพขณะที่เจ้าตัวเดินทางเข้าแจ้งความกับตำรวจ สน.ทองหล่อ เพื่อร้องเอาผิดกับทาง "เฌอเอม ชญาธนุส" ในความผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 การเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบข้อมูลคอมพิวเตอร์ จากกรณีที่ "เฌอเอม" ออกมาทวีตข้อความ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องแก๊สน้ำตา หรือเรื่องที่มีการแอบอ้างใช้คำว่านางงาม เป็นต้น

ทั้งนี้ "ปารีณา" ยังระบุอีกว่า ข้อความที่ทางคู่กรณีโพสต์ดังกล่าว ทำให้สื่อ และสังคมเกิดความเข้าใจผิดว่า มีการใช้แก๊สน้ำตาในการชุมนุม ทำให้เกิดความเสียหาย

ล่าสุดวันที่ 15 ก.พ.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้เดินทางไปพูดคุยกับทาง "เฌอเอม" กล่าวว่า ตนยืนยันว่าการกระทำของตนไม่เข้าข่ายความผิดทั้ง 2 ประเด็น เพราะส่วนตัวไม่ได้มีโพสต์บ่งชี้ชัดเจนว่า ตำรวจเป็นคนกระทำ ซึ่งในประเด็นนี้ตนยังมองว่า สุดท้ายแล้วใครได้ประโยชน์จากการแจ้งความ เพราะ "คุณปารีณา" มีหน้าที่เป็น ส.ส. แล้วออกมาปกป้องอะไรให้ตำรวจ เว้นแต่ทาง "คุณปารีณา" มองว่าการกระทำครั้งนั้นเกิดขึ้นมาจากฝั่งรัฐบาล

ทั้งนี้ตนยอมรับว่า แม้ส่วนตัวจะไม่เห็นกับตาว่ามีปลอกกระสุนแก๊สน้ำตา หรือวัตถุที่ชี้ชัดว่าเป็นแก็สน้ำตา แต่ส่วนตัวรู้สึกได้ว่าอาการที่กำลังเจอทั้งแสบจมูก แสบคอและแสบตา ซึ่งจากประสบการณ์ที่ผ่านมาตนก็เคยเจอแบบนี้มาแล้ว เพราะครั้งนี้ที่โดนไม่ได้ถือว่าเป็นครั้งแรก ทั้งหมดทั้งมวลตนเชื่อว่าเรื่องของตน ถูกตีให้เป็นประเด็นโดยที่ไม่มีเหตุผล ตนมองว่ากำลังถูกใช้เป็นเครื่องมือให้กับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง หรือบุคคลใดบุคคลหนึ่ง

เพราะจากเรื่องก่อนหน้านี้ที่ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ออกมาระบุให้ข่าวว่า จะเชิญตนไปให้การเรื่องการชุมนุม ซึ่งส่วนตัวมองว่าหากเบื้องหลังไม่ได้มีเงื่อนงำอะไร ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถยกหูโทรศัพท์หาตนได้ ไม่จำเป็นต้องประกาศให้คนรับทราบแบบที่ทำอยู่ เลยอดสงสัยไม่ได้

ส่วนที่ทาง "คุณปารีณา" อ้างว่าตนไม่สามารถใช้คำว่านางงามได้ เรื่องนี้ต้องดูกันที่บริบททางภาษาและสังคม เพราะฉะนั้นความเข้าใจของคนทั่วไป "นางงาม" คือผู้ที่ผ่านเข้าไปประกวด ดังนั้นหา "คุณปารีณา" จะมาใช้บรรทัดฐานแบบนี้ ก็คงต้องเรียกทุกคนที่เคยประกวดแล้วไม่ชนะ ย่อมต้องไปโรงพักกับตนทั้งหมด ทั้งนี้สมมติว่าเรื่องดังกล่าวผิดจริง ก็อยากจะย้อนถามว่าแล้วเป็นประเด็นที่กระทบอะไรต่อสังคม ทุกวันนี้คำว่า นางงาม สำคัญตรงไหน คุณปารีณา สามารถตอบตรงนี้ได้หรือไม่ 

อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ส่วนตัวก็คงต้องปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางด้านกฎหมาย หากมีหมายเรียกก็คงต้องไปรับทราบข้อกล่าวหา พร้อมปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา แต่ไม่ถึงขั้นฟ้องกลับ เพราะส่วนตัวไม่ได้ให้ความสำคัญกับข้อกล่าวหาดังกล่าว ขออยู่นิ่ง ๆ ไม่ไปเล่นตามเกมของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง