วันที่ 18 ก.พ. 64 เวลา 08.30 น. ผู้สื่อข่าวได้ไปติดตามบรรยากาศที่ ธนาคารกรุงไทย สาขาท่ามะเขือ(คลองขลุง) สาขาที่ ตายาย 2 แม่ลูก ไปนั่งรอคิวตามคลิปในข่าว ซึ่งนายภูวนาถ บุษบา ผู้จัดการธนาคาร ได้มีการเตรียมความพร้อมในการบริการกับประชาขนมากขึ้น
ทั้งนี้ ทางฝ่ายปกครองท้องถิ่นและผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ก็ได้มาตรวจคัดกรองความพร้อมต่าง ๆ ในสถานที่ ว่ามีปัญหาอย่างไรบ้าง ซึ่งก็ผ่านไปด้วยดี มีประชาชนมารอคิวกันตั้งแต่เช้าเช่นเคยเป็นวันที่ 4 ซึ่งเป็นที่มีการแชร์คลิปภาพแม่ลูก ชื่อนางน้อย กับตาจำเนียน นั่งป้อนข้าวกันขณะนั่งพื้น รอลงทะเบียนโครงการ "เราชนะ"
ทีมข่าวติดตามบรรยากาศที่บ้านของสองตายาย เช้าวันเดียวกันทางฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่โดย นายสดุดี พุทธัง นายอำเภอคลองขลุง ได้เข้าเยี่ยมพูดคุย พร้อมกับประสานทางธนาคารที่ได้มีการเปิดบัญชีรับบริจาคไปแล้ว ตั้งแต่เมื่อวาน
โดยมียอดโอนเข้ามากว่า 6.5 ล้านบาท ซึ่งจากนี้ไปก็จะทำการจัดการตั้งคณะกรรมในหมู่บ้าน และครอบครัว ในการบริหารจัดการเงินจำนวนนี้ ซึ่งน่าจะเพียงพอต่อความต้องการ จึงเห็นว่าควรปิดรับบริจาคในครั้งนี้ด้วย
นางเล็ก บุญทัศน์ อายุ 62 ปี น้องสาวของตาจำเนียร อยู่บ้านเลขที่ 210 ม.10 ต.วังไทร อ.เมือง จ.กำแพงเพขร เล่าว่า ตนเองเป็นคนดูแลทั้งสองคน ส่งข้าวส่งน้ำอยู่ประจำ ยอมรับว่ามีความลำบาก หลังจากเป็นข่าวก็ต้องขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาข่วยเหลือ และผู้ใจบุญทั่วประเทศที่ร่วมบุญ และคิดว่าคงเพียงพอแล้ว
นายสดุดี พุทธัง นายอำเภอคลองขลุง กล่าวว่า จากนี้ไปจะทำการแต่งตั้งคณะกรรมหลายฝ่ายให้จัดการบริหารเงินอย่างคุ้มค่า สมกับที่ทุกคนทั่วประเทศช่วยเหลือ ซึ่งก็มากพอที่จะใช้ในขีวิตประจำวัน โดยจากนี้จะเร่งดำเนินการบริหารให้ได้ประโยชน์มากที่สุด
นางน้อย, นายจำเนียน ลูกชายคนโต และนางเล็ก ลูกสาวคนเล็ก เปิดใจผ่านรายการทุบโต๊ะข่าวว่า ที่บ้านมีอาชีพรับซื้อของเก่า รายได้ไม่แน่นอน บางวันก็ไม่มีรายได้ วันที่ไปลงทะเบียนรอบที่ 3 ออกจากบ้านไปตั้งแต่เที่ยงคืน เพราะก่อนหน้านี้ไปตอน 08.00 น. ก็ไปไม่ทัน เพราะคนเยอะมาลงทะเบียนเต็มทั้งหมด ซึ่งที่พาแม่ไปด้วยก็เพราะว่าอยากให้แม่ได้เงิน แม่ก็แก่แล้ว ตอนนี้ลงทะเบียนสำเร็จแล้ว และเพิ่งทราบว่าได้เงินบริจาคล่าสุด 6.5 ล้านบาท หลังจากนี้วางแผนว่าอยากทำบ้าน และดูแลแม่ที่ชรา
นายจำเนียน บอกว่า ตนทำกับข้าวไปเองวันที่ไปทะเบียน เพื่อเอาไปให้แม่กิน ตอนนั้นที่แม่ป้อนข้าวให้ตนระหว่างนั่งรอต่อคิว เพราะแม่เห็นว่าตนเหนื่อยที่ขี่รถจักรยานยนต์นาน ตนก็น้ำตาไหล วันนั้นมีเงิน 500 บาท ที่ญาติโอนให้ใช้เติมน้ำมันไป ส่วนตอนกลับก็น้ำมันหมดกลางทาง แต่มีกู้ภัยมาช่วยเหลือ ตอนนี้แม่ยังไม่รู้ว่าได้เงินมากเท่าไรแล้ว แต่ก็ดีใจ
นายจำเนียน ยอมรับว่าตนชอบดื่มสุราเป็นประจำ แต่หลังจากนี้จะพยายามดื่มให้น้อยลง เพราะรู้ว่ามีคนเป็นห่วง "ผมขอขอบคุณพี่น้องทุกคนที่ช่วยผมนะครับ ผมขอขอบคุณครับ"
ขณะที่ น.ส.กมลทิพย์ บุญเรือน อายุ 28 ปี ผู้โพสต์คลิป เล่าว่า เมื่อวานนี้ได้ไปเจอคุณยายที่หน้าธนาคารกรุงไทย สาขาท่ามะเขือ เห็นมากัน 2 คน เลยเข้าไปคุยด้วย ยายเล่าว่าตื่นนอนตั้งแต่เที่ยงคืน แล้วก็มาถึงธนาคารประมาณตี 4 สอบถามยายว่ากินข้าวหรือยัง ยายบอกว่าห่อข้าวมากิน เพราะไม่มีเงินซื้อ ตนก็เลยซื้อข้าวให้ยาย และคนแถวนั้นก็ซื้อข้าวเหนียวซื้อน้ำให้ยายกิน
หลังจากที่คุยกับยายแล้วก็โพสต์ภาพคุณยายลงโซเชียล ตนก็ไม่คิดว่าจะมีคนแชร์มากขนาดนี้ อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือเรื่องนี้ โดยเฉพาะคนแก่ คนพิการ ผู้ป่วยติดเตียง อยากให้ไปช่วยเหลือถึงบ้าน จะได้ไม่ต้องลำบากออกมาแบบนี้
ด้านนายฤทธิชัย ธรรมกรณ์ อายุ 23 ปี เล่าว่า เมื่อเวลา 12.30 น. ของวานนี้ ตนเองไปซื้อของที่ตลาดแถวบ้าน และขากลับได้ผ่านมาเจอตายาย ตนจอดรถเข้าไปสอบถามช่วยเหลือ และตามช่างมานำรถไปซ่อมที่อู่ใกล้ ๆ
ระหว่างนั้นได้อัดคลิปลงใน TikTok โดยร้านที่ให้การช่วยเหลือซ่อมรถให้ชื่อร้านช่างแก้ววังไทร ส่วนช่างที่ซ่อมซื่อช่างกิ๊ก เป็นลูกเจ้าของร้าน ไม่คิดค่าใช้จ่ายแม้แต่บาทเดียว จากนั้น ตนได้ซื้อน้ำและนมให้ตายายติดมือกลับบ้านไปด้วย พร้อมให้เงินจำนวน 100 บาท สำหรับเติมน้ำมันรถ จากนั้นตายายก็พากันกลับบ้านไป ซึ่งตนเองชอบทำคลิปช่วยเหลือผู้อื่นอยู่บ่อยครั้ง อะไรที่ช่วยเหลือสังคมได้ ตนเองก็จะทำ
