โจ๋เต้นกวนเจออริเขม่นยกพวกยิงคอทะลุ แม่ใจสลายลูกผัวตายตามกันดับฝันวิศวะหนุ่ม (คลิป)

กรณีตำรวจ สภ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด ได้รับแจ้งเหตุทำร้ายร่างกายด้วยอาวุธปืน บริเวณงานแสดงวงหมอลำ ภายในงานอุปสมบท บ้านหนองหิน ต.โคกสูง อ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด มีผู้เสียชีวิต จุดเกิดเหตุเป็นซอยภายในหมู่บ้าน ห่างจากเวทีหมอลำประมาณ 200 เมตร พบศพชายนอนจมกองเลือด ตรวจสอบพบบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธืนเข้าบริเวณต้นคอกระสุนฝังในหลอดลม เสียชีวิตในจุดเกิดเหตุ

ใกล้จุดเกิดเหตุพบปลอกกระสุนขนาด .38 ตกอยู่ใกล้กันกับศพ ทราบชื่อผู้ตายนาย กิตติพัทธ์ ประหา หรือ แบงค์ อายุ 21 ปี พนักงานสอบสวนพร้อมแพทย์เวร ได้ร่วมกันชันสูตรพลิกศพเบื้องต้น ก่อนส่งศพผ่าพิสูจน์ที่นิติเวช รพ.ศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น เพื่อชันสูตรพลิกศพหาสาเหตุการเสียชีวิต ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ล่าสุดวันที่ 26 ก.พ.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ไปยังที่เกิดเหตุ บ้านหนองหิน ต.โคกสูง อ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด ซึ่งใกล้กับบ่อเลี้ยงปลาของหมู่บ้าน บริเวณลานดิน ในคืนวันที่ 24 ก.พ.64 ได้มีเวทีหมอลำตั้งอยู่ เนื่องจากเป็นงานอุปสมบทวัยรุ่นในหมู่บ้าน 5 คน จึงได้จ้างเวทีหมอลำ ในราคา 35,000 บาท มาทำการแสดง แล้วรวมกับหารเงินกันในกลุ่มครอบครัวเจ้าภาพ

ส่วนจุดที่ถูกยิง คือ ซอยในหมู่บ้านห่างจากเวทีหมอลำเพียง 200 เมตร ถูกจ่อยิงที่ริมถนน ใกล้กับเสาไฟฟ้า หน้าบ้านของชาวบ้าน ไม่มีกองเลือดตกอยู่ เพราะมีการล้างทำความสะอาดแล้ว มีเพียงของเซ่นไหว้ ที่ญาติผู้ตายได้นำมาประกอบพิธีเชิญดวงวิญญาณเท่านั้น ซึ่งที่เกิดเหตุมีคนพบเห็นจำนวนมาก และภายหลังนายเจ๋ง คนก่อเหตุ ยิงนายแบงค์ มีอปพร.และตำรวจบ้าน ช่วยกันสกัดจับแต่ไหวตัวได้ทัน กระทั่งมีรายงานว่า พ่อของนายเจ๋ง เกลี้ยกล่อมลูกชายให้เข้ามอบตัวแล้ว เพราะกำลังจะหลบหนี

ทีมข่าวยังได้เดินทางไปที่บ้านหนองตอ ต.โคกสูง อ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด ซึ่งเป็นที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพของนายแบงค์ หรือ นายกิตติพัทธ์ ประหา อายุ 21 ปี ผู้ตาย โดยบรรยากาศในงานเป็นไปด้วยความโศกเศร้า มีเพื่อนของผู้ตาย และญาติพี่น้องเดินทางมาร่วมงาน ซึ่งพิธีฌาปนกิจศพจะจัดขึ้นในวันพรุ่งนี้ (27 ก.พ.64)

นางวงเดือน ประหา อายุ 43 ปี แม่ของผู้ตาย เปิดเผยพร้อมน้ำตาว่า ตนเพิ่งจะเสียสามี พ่อของนายแบงค์ได้ไม่ถึงปี แต่วันนี้ต้องมาสูญเสียลูกชายอีกคน ตอนนี้จะเหลือแต่ผู้หญิงแค่ 2 คน คือ ตนกับน้องสาวนายแบงค์ อายุ 14 ปี ซึ่งไม่รู้ว่าหลังจากนี้จะอยู่กันอย่างไร เพราะก่อนหน้านี้นายแบงค์ เคยสัญญากับแม่ว่า จะเรียนให้จบ วิศวกรรมโยธา ซึ่งเป็นสายงานของพ่อก่อนที่จะเสียชีวิต โดยนายแบงค์ ตั้งใจที่จะเดินตามรอยพ่อ สานฝันของพ่อและเลี้ยงดูครอบครัว แต่ก็ไม่คิดว่าเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้น แล้วทำให้ลูกชายจบชีวิต

ส่วนในวันเกิดเหตุ ตนไม่ได้มีลางบอกเหตุแต่อย่างใด เพราะลูกชายเพียงแค่มาขอไปดูหมอลำพร้อมกับเพื่อน ตนเพียงแค่กำชับว่าให้รีบกลับบ้าน จากนั้นช่วงกลางดึกก็ทราบข่าวจากญาติ ว่าลูกชายถูกยิง จึงได้รีบไปที่เกิดเหตุ แต่ก็ไม่ทัน เพราะกลุ่มเพื่อนพาออกจากเวทีหมอลำไปส่งโรงพยาบาล ตนจึงได้เดินทางไปที่โรงพยาบาล แต่ก็พบว่าลูกชายเสียชีวิตแล้ว

ในช่วง 2 วัน ก่อนที่ลูกชายจะเสียชีวิต ตนฝันถึงพ่อของนายแบงค์ที่เสียชีวิตไปแล้ว มากอด จึงเชื่อว่าเป็นความฝันบอกเหตุว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นในครอบครัว ขณะที่นิสัยใจคอของลูกชาย ยอมรับว่าก็เป็นเหมือนวัยรุ่นทั่วไป แต่ก็ไม่เคยไปมีเรื่องมีราวกับใครที่ไหน และลูกชายเป็นคนไม่ทำร้ายใครก่อน ดังนั้นจึงเชื่อว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเหตุการณ์ที่รุนแรงและเกินกว่าเหตุ ถ้าวัยรุ่นจะทะเลาะกันแค่ชกต่อยหรือมีเรื่องกันปกติ เพียงแค่เจ็บป่วยเล็กน้อย หรือได้รับบาดเจ็บพอที่จะรักษาได้ ตนก็ยังทำใจได้ แต่เหตุการณ์ครั้งนี้กลับไม่มีโอกาสได้รักษาหรือดูใจกัน 

นางวงเดือน บอกอีกว่า ในความเป็นแม่ ไม่รู้แนวทางด้านกฎหมาย หรือการลงโทษของเจ้าหน้าที่ ดังนั้นก็ให้ว่าไปตามกระบวนการ แต่สิ่งเดียวที่ขอคือ “พาคนก่อเหตุมาขอขมาศพก่อนที่จะเผาได้หรือไม่” ตนขอเพียงแค่สิ่งเดียว จากนั้นเจ้าหน้าที่จะนำไปเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายก็แล้วแต่ และฝากถึงนายเจ๋ง คนก่อเหตุว่า “หากได้ดูเทปนี้ อยากให้รู้และเข้าใจถึงหัวอกคนเป็นแม่ ถ้าวันหนึ่งมีครอบครัว แล้วมีคนมาทำลูกเขาตาย จะรู้สึกเหมือนที่แม่รู้สึกหรือไม่”

ขณะเดียวกันทีมข่าวยังได้เดินทางไปที่บ้านของนายเจ๋ง อายุ 26 ปี คนก่อเหตุ พบว่าบ้านปิดเงียบ เป็นบ้านอยู่หลังสุดท้ายของหมู่บ้าน ซึ่งหน้าบ้านยังคงปิดล็อกกุญแจเอาไว้ พร้อมกับติดป้ายห้ามเข้าก่อนได้รับอนุญาต ขณะที่เพื่อนบ้านให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่า บ้านหลังนี้ ไม่สุงสิงกับใคร เพราะลูกชายเพิ่งจะพ้นโทษในข้อหายาเสพติดและคดีลักทรัพย์ มาได้ไม่นาน

อย่างไรก็ตาม พ.ต.อ.พัฒน์ พูราษฎร์ ผกก.สภ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด เปิดเผยว่า หลังจากที่นายเจ๋ง ก่อเหตุในงานหมอลำ พนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับ แต่ในช่วงเช้าของวันนี้ ได้รับการติดต่อจากญาติ แล้วได้นำตัวนายเจ๋ง เข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน ซึ่งได้สรุปสำนวนและนำตัวฝากขังต่อศาลแล้ว

เบื้องต้นได้มีการแจ้งความในข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, มีอาวุธปืนไม่ได้รับอนุญาตไว้ในการครอบครอง โดยเจ้าตัวได้สารภาพและปฏิเสธที่จะทำแผน อ้างว่ากลัวไม่ได้รับความปลอดภัย พนักงานสอบสวนจึงได้นำตัวฝากขังต่อศาลเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา