จากกรณีเหตุยิงกันในงานศพ วัดท่ามะขาม อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ตรวจสอบพบผู้บาดเจ็บ นายยิ่งพันธ์ กันเกตุ กำนันตำบลดอนทราย อาการสาหัส,
นายนคร วันเพ็ญ ผู้สมัครสมาชิกเทศบาลตำบลดอนทราย, นางสมถวิล ศรีรัตน์, นางมณเฑียร ใจธรรม และนางวราพร เนียมรักษา ผู้สมัครนายกเทศบาลตำบลดอนทราย อาการสาหัส ถูกส่งตัวไปรักษาที่ รพ.ราชบุรี, รพ.เจ็ดเสมียน, รพ.กรุงเทพฯ เมืองราชบุรี และ รพ.มหาชัย แต่นางวราพร ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา
วันที่ 2 มี.ค. 64 ทีมข่าวลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ ศาลาสุธรรมวิชัยประชาสามัคคี เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานลงตรวจสอบจุดเกิดเหตุ เก็บหลักฐานวัตถุพยานเพิ่มเติม โดยด้านในศาลาพบเก้าอี้ล้มกระจัดกระจาย มีกองเลือดอยู่ใกล้กัน
นางมณเฑียร ใจธรรม อายุ 67 ปี ผู้บาดเจ็บ กล่าวว่า วันเกิดเหตุตนไปร่วมงานศพ โดยนั่งแถวที่ 4 ใกล้กับประตูทางออก ระหว่างที่นั่งคุยกับเพื่อนบ้าน ได้ยินเสียงปืนดังต่อเนื่องกัน ซึ่งผู้ที่อยู่ในศาลาบอกให้หมอบลง ตนจึงหมอบลงกับพื้น
ระหว่างนั้นรู้สึกกลัวมาก เพราะยังมีเสียงปืนดังต่อเนื่อง ตนทนไม่ไหว จึงรีบวิ่งออกไปข้างนอก แต่รู้สึกแสบที่หน้าอกด้านซ้าย จึงใช้มือจับหน้าอกเอาไว้ เมื่อออกมานอกศาลาพบว่ามีเลือดเต็มมือ รู้ตัวว่าถูกยิงก็ตกใจมาก โดยตนน่าจะโดนลูกหลงช่วงที่วิ่งออกมาจากศาลา ซึ่งกระสุนเจาะเข้าหน้าอกด้านบนลงด้านล่าง มีอาการช้ำ แพทย์ได้ทำความสะอาด และใช้ผ้าพันแผลเอาไว้ ตอนนี้ยังรู้สึกปวดจุดที่โดนยิงเล็กน้อย
นางมณเฑียร กล่าวต่อว่า ตนรู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุแบบนี้ขึ้นภายในวัด โดยตนไม่ทราบว่าอีกฝ่ายมีปัญหาอะไรกัน แต่น่าจะคุยกันเอง ไม่ควรมาก่อเหตุแบบนี้
จากนั้นทีมข่าวเดินทางไปโรงพยาบาลในเมืองราชบุรี นายไตรเทพ มะลิลา และนางสายฝน มะลิลา สามีภรรยาที่บาดเจ็บรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล นางสายฝน ระบุว่า ก่อนเกิดเหตุตนและสามีไปร่วมฟังพระสวดอภิธรรมเป็นคืนสุดท้าย โดยนั่งที่เก้าอี้แถวท้าย ติดประตูทางออก สามีนั่งด้านหน้า ส่วนตนนั่งด้านหลัง เพราะต้องเว้นระยะตามมาตรการควบคุมโรค
ระหว่างนั้นนางวราพร เนียมรักษา หรือ ครูนงค์ ผู้สมัครนายกเทศบาลตำบลดอนทราย เดินเข้ามาในศาลา พร้อมยกมือไหว้ทักทายผู้มาร่วมงาน จากนั้นก็เดินเข้าไปนั่งด้านหน้า ใกล้พระประธาน ไม่ถึง 10 นาที มีเสียงปืนดังขึ้น 2 นัด และดังขึ้นต่อเนื่อง ด้วยความกลัวตนกับสามีจึงรีบวิ่งหนีออกมาทางประตูทางออกศาลา จังหวะนั้นรู้สึกปวดที่สะโพกด้านซ้าย มั่นใจว่าน่าจะถูกยิง ส่วนสามีก็โดนลูกหลงไปด้วย จึงรีบวิ่งออกมา มีชาวบ้านในที่เกิดเหตุนำตัวตนกับสามีมาส่งโรงพยาบาล โดยตนโดนยิงที่สะโพกซ้ายกระสุนทะลุต้นขา ส่วนสามีถูกยิงที่ต้นขา กระสุนฝังใน แต่ไม่โดนจุดสำคัญ แพทย์จึงทำแผลและให้รอดูอาการอีก 3 วันจึงจะให้กลับบ้านได้
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมองว่าอุกอาจมาก ตนไม่รู้เรื่องปมขัดแย้ง แต่คิดว่าไม่น่าจะมาก่อเหตุในวัดแบบนี้ ตอนนี้รู้สึกผวาไม่กล้าออกไปไหนแล้ว เพราะกลัวจะเกิดเหตุซ้ำอีก
ล่าสุด พล.ต.ท.ธนา ชูวงษ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 7 ระบุว่าความคืบหน้าในคดีนี้ ล่าสุดได้ขออนุมัติศาลจังหวัดราชบุรี ออกหมายจับแล้วในข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนเข้าไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต ให้มีอาวุธปืนติดตัวและไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนหรือยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้านหรือที่ชุมชน ผู้ต้องหาคือนายวันชาติ เนียมรักษา สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดราชบุรี
ส่วนสาเหตุ เบื้องต้นคาดว่าน่าจะมาจากเรื่องการเมืองท้องถิ่นและความแค้นส่วนตัว เนื่องจากที่ผ่านมานั้นนายวันชาติ เคยดำรงตำแหน่งกำนันตำบลดอนทราย ต่อมาได้ลาออกเพื่อจะมาลงสมัคร สจ. และให้ลูกสาวได้ลงสมัครผู้ใหญ่บ้านแทน และวางตัวไว้จะให้เป็นกำนัน โดยให้ผู้ใหญ่บ้านได้ช่วยกันโหวต ซึ่งมีการพูดคุยกันไว้แล้ว แต่นางวราพร เนียมรักษา ผู้ตายซึ่งเป็นพี่สะใภ้ของนายวันชาติได้ไปทาบทามนายยิ่งพันธุ์ กันเกตุ ซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้านให้รับตำแหน่งกำนัน โดยให้ผู้ใหญ่บ้านช่วยกันโหวต ได้เสียงทั้งหมด 7 เสียง จาก 9 เสียง คาดว่าน่าจะทำให้นายวันชาตินั้นเก็บความแค้นไว้
และล่าสุดมีการเปิดรับสมัคร นายกเทศบาลตำบลดอนทราย ซึ่งเดิมนั้นมีนางจิตรลดา เนียมรักษา ภรรยาของนายวันชาติ เป็นนายก อยู่ เมื่อหมดสมัยก็กลับมาสมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกต่อโดยมีนางวราพร เป็นพี่สะใภ้ เป็นคู่แข่ง
นายชวลิต เนียมรักษา อายุ 67 ปี สามีของผู้ตาย เปิดเผยว่า ตนเองไม่คิดว่าเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นกับคนในครอบครัว เพราะคนที่ก่อเหตุก็มีศักดิ์เป็นน้องชายของตนเอง ไม่คิดว่าจะลงมือยิงจนกระทั่งภรรยาของตนเองถึงแก่ความตายได้ เพราะที่ผ่านมาไม่เคยมีเรื่องทะเลาะ หรือมีเรื่องขัดแย้งอะไรกัน ต่างคนต่างอยู่ ต่างคนต่างทำหน้าที่ และต่างคนต่างเล่นการเมืองในคนละรูปแบบกัน เพราะตนเองก็เป็นอดีตสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (สจ.) และตนเองเป็นคนแรกที่ทำให้ครอบครัวเริ่มต้นเล่นการเมือง จากนั้นก็มีคนในครอบครัวหลายคนหันมาเล่นการเมืองตาม ทั้งตำแหน่งกำนัน สมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบล (ส.อบต.) สมาชิกเทศบาล (สท.) สมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (สจ.) ซึ่งตนเองก็เป็นคนที่กว้างขวางในระดับจังหวัด มีคนนับหน้าถือตา เวลาที่น้องแต่ละคนสนใจที่จะเล่นการเมือง ตนเองก็จะเป็นคนผลักดัน พาไปแนะนำตัวให้ชาวบ้านรู้จัก และยังเป็นผู้ที่สนับสนุนเรื่องเงินในการหาเสียงและทำป้ายโฆษณาหาเสียงในแต่ละครั้ง
เช่นเดียวกับนายวันชาติ ตนเองก็เคยช่วยหาเสียงและลงทุนเกี่ยวกับป้ายหาเสียงในขณะที่ลงสมัครตำแหน่งกำนัน หรือแม้แต่ลงสมัครในตำแหน่งสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (สจ.) ส่วนตัวจึงไม่คิดว่า คนที่มีบุญคุณต่อนายวันชาติ และช่วยเหลือตั้งแต่วันที่เริ่มต้น เล่นการเมือง จนกระทั่งมีวันนี้ได้ นายวันชาติจะเป็นคนลงมือก่อเหตุยิงภรรยาของตนเองอย่างเลือดเย็น ในเมื่อตัดสินใจที่จะทำผิดแล้ว ก็ต้องรับโทษตามกฎหมาย
นางชวลิต เล่าต่อว่า ย้อนกลับไปช่วงก่อนที่จะสมัครรับเลือกตั้งตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลดอนทราย นายวันชาติ รู้ว่าครูนงค์ ภรรยาของตนเอง กำลังจะลงรับสมัครเลือกตั้ง จึงได้ไปบอกพี่ชายคนโตให้เป็นตัวกลางเจรจา พร้อมทั้งยังมอบเงิน 1 ล้านบาทให้กับพี่ชายคนโต นำมามอบให้กับตนเอง เพื่อขอให้ภรรยาของตนเองไม่มีการลงสมัครเลือกตั้ง และยังเสนอตำแหน่งรองนายกฯเทศมนตรีให้กับตนเองและภรรยา แต่ในการเจรจาครั้งนั้น นายวันชาติก็ไม่ได้มาด้วยตนเอง ซึ่งการเจรจาตนเองยืนยันว่าทำไม่ได้ เพราะมีการแนะนำตัวไปบ้างบางส่วนแล้ว และชาวบ้านส่วนใหญ่ก็พร้อมสนับสนุนให้ภรรยาของตนเองเป็นนายกเทศมนตรีคนต่อไป
จากนั้นหลังจากวันที่ 8 ก.พ. 64 ภรรยาของตนเองได้สมัครรับเลือกตั้ง และเริ่มหาเสียง นายวันชาติก็ยังพยายามติดต่อผ่านพี่ชายคนโต เพื่อนำเงินมามอบให้ จะขอให้ถอนตัวจากการรับสมัครเลือกตั้ง แต่ตนเองก็ยังยืนยันเหมือนเดิมว่าต่างคนต่างทำหน้าที่ ต่างคนต่างเล่นไปตามเกม รู้จักรู้แพ้รู้ชนะ และเคารพการตัดสินใจของชาวบ้าน
ทีมข่าว ยังได้เดินทางไปที่ทำงานของนายวันชาติ ด้านนางสาวเดือน (นามสมมติ) แม่บ้าน เปิดเผยว่า ตนเองรู้จักกับนายวันชาติ ซึ่งเป็นอดีตกำนันตำบลดอนทราย ยอมรับว่าในวันชาติเป็นคนที่อัธยาศัยดี และช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน ซึ่งไม่คิดว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้จะเกี่ยวข้องกับนายวันชาติ แต่หลังจากที่มีหมายจับออกมายอมรับว่าตกใจเช่นเดียวกัน ตนเชื่อว่านายวันชาติไม่ได้เป็นคนก่อเหตุลงมือยิงด้วยตัวเอง แต่อาจเป็นบุคคลอื่นหรือเป็นการสร้างสถานการณ์ เพราะเมื่อคืนนี้ลูกน้องคนสนิทของนายวันชาติก็ไม่ได้มีใครออกไปกับนายวันชาติ นั่งกินเหล้าอยู่ที่สำนักงานตั้งแต่หัวค่ำจนกระทั่งถึงดึก
